หาเรื่องมาเจอ
หาเรื่องมาเจอเธอ
“ ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้อร่อยดีนะ ...พี่ครับ...เก็บตังค์ครับ “ หลังจากพูดคุยกันและต่างฝ่ายต่างกินก๋วยเตี๋ยวแบบเงียบๆ ชายหนุ่มก็ยกมือเรียกพนักงานร้านเพื่อคิดเงินค่าอาหาร
“ ไม่เป็นไร ชั้นสั่งเดี๋ยวชั้นเลี้ยงเอง “ น้ำหวานเอ่ยพร้อมกับหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมา
“ เก็บเงินของเธอไว้เถอะ เอาไว้เป็นค่านมกับค่าแพมเพิสของลูก “
“ พูดอะไรของนาย ชั้นไปมีลูกตอนไหน “
“ ก็เดี๋ยวอีกหน่อยเรียนจบก็มีเลยไง..ลูกชั้นกับเธอหน่ะ “ ใบหน้าคมพูดจบก็ยกหยักคิ้วให้หญิงสาวอย่างกวนๆ
“ ท่าจะบ้า ใครจะมีลูกกับนายกัน “
“ ไม่ต้องทอนนะครับ “ หมอกวางธนบัตรลงในถาดพร้อมบิลที่ผู้จัดการหนุ่มถือมาวางไว้บนโต๊ะ
“ น้ำหวานไปแล้วเหรอครับ “ ผู้จัดการหนุ่มไม่ได้เอ่ยอะไรกับร่างสูงแต่หันไปหาหญิงสาวที่นั่งฝั่งตรงข้ามแทน
“ ไปแล้วค่ะพี่ทัช ขอบคุณนะคะ..อร่อยมาก “
“ ครับ พรุ่งนี้มาอีกมั้ยครับ “
“ ยังไม่รู้เลยค่ะ ดูงานก่อน ถ้าไม่รีบจะแวะมาอุดหนุนอีกนะคะ “ ใบหน้าวานเอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้เขา
“ ก๋วยเตี๋ยวเรือเนี้ยก็ของโปรดชั้นเหมือนกัน สงสัยวันหลังคงต้องมาบ่อยๆเหมือนกันนะครับ “ หมอกเอ่ยขึ้นบ้าง
“ ไปเร็ว...ไหนว่าจะรีบไปหาลดา เธอนี่ชักช้าจริงๆ “ หมอกไม่รอให้น้ำหวานพูดอะไรกับผู้จัดการหนุ่มอีก เขายกมือขึ้นคล้องแขนของเธอแล้วพาเดินออกนอกร้านไป
“ นี่นาย ...ปล่อย จะลากชั้นไปไหน “
“ ก็กลับไง..ไหนว่าเธอจะไปหาลดาต่อ “
“ ไม่ใช่ตอนนี้ ชั้นต้องไปทำงานก่อน “ หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับหมุนตัวจะเดินกลับไปอีกทาง
“ ก็ใช่ไง..เอารถมารึเปล่า ถ้าเอามาก็ทิ้งไว้นี่ก่อน เดี๋ยวไปส่ง “
“ อะไรของนาย..ขอบคุณสำหรับมื้อกลางวัน ชั้นไปล่ะ “ พูดจบร่างบางก็หันหลังแล้วเดินกลับไปยังร้านเพชรที่อยู่ชั้น 3 ของห้าง
สองขาเรียวก้าวเดินมาถึงหน้าร้านด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูกหลังจากได้ปรับทุกข์กับใครอีกคนที่กำลังรู้สึกเช่นเดียวกับเธอ เพื่อนของเธอและเขากำลังมีความทุกข์..นั่นก็ทำให้เพื่อนทุกคนในกลุ่มรู้สึกทุกข์ไปด้วยเช่นกัน
“ เดินยิ้มมาแต่ไกลเลย...เพราะวันนี้มีคนไปกินข้าวด้วยรึเปล่าน้า “ เสียงของพราวพนักงานสาวเอ่ยทักพร้อมกับยิ้มและส่งสายตาล้อเลียนมายังเธอ
“ ยิ้มอะไรพี่พราว “
“ อ้าว..ก็เนี้ยคุณหวานเดินยิ้มมาแต่ไกล พี่ก็นึกว่าเพราะคนข้างหลังรึเปล่า “ พราวเอ่ยพร้อมกับเอียงใบหน้าไปที่ด้านหลังของน้ำหวาน
“ คงใช่มั้งครับ “
“ ห๊ะ “ หญิงสาวอุทานออกมาเสียงดัง
“ ร้องอะไรเสียงดังเธอนี่ ตกอกตกใจหมด “ หมอกว่าพลางเอามือขึ้นทาบที่หน้าอกตัวเอง
“ นี่นายแอบเดินตามชั้นมาเหรอ “
“ ไม่ได้แอบ ก็เดินตามมาดีๆ เธอไม่ได้มองเพราะมัวแต่ยิ้มอยู่รึเปล่า “ ชายหนุ่มว่าพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่มมายังเธอ
“ บ้า..ใครยิ้ม “
“ .... “ คราวนี้ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่พูด เขายืนยิ้มส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้เธอ เมื่ออีกฝ่ายยืนเงียบน้ำหวานเองก็กลบเกลื่อนอาการเขินของตัวเองด้วยการเบือนหน้าหลบสายตาคมนั่น
“ พี่พราว...แบบได้รึยังคะ “
“ ได้แล้วค่ะ..พี่วางไว้ให้บนโต๊ะแล้ว “
“ ขอบคุณค่ะ “ และก่อนที่หญิงสาวจะก้าวเข้าไปยังห้องทำงานที่อยู่ด้านในเสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้น
“ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาส่งข่าวไอ้วาฬให้นะ ..ไปล่ะ “
หญิงสาวที่ยืนอยู่รีบหันหลังกลับทันที เมื่อกี้เขาพูดว่าอะไรนะ ...จะมาอีกงั้นเหรอ...เธอหันมาเพื่อจะแย้งเขาแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ร่างสูงเดินไกลออกไปจนเกือบจะลงบันไดเลื่อนอยู่แล้ว น้ำหวานยืนนิ่ง ในหัวของเธอตอนนี้กำลังสับสน ชีวิตนี้เธอไม่คิดจะเปิดใจให้ใคร..พูดง่ายๆก็คือ เธอจะอยู่เป็นโสดแบบนี้ไปตลอด แต่ทว่าเวลานี้ ทำไมหัวใจของเธอมันเต้นรัว ถี่แรงแบบนี้ เธอใจสั่นและเผลอยิ้มเวลาอยู่ใกล้เขาเช่นนั้นหรือ
“ ไม่ได้ๆ ยัยหวาน แกห้ามรู้สึกอะไรทั้งนั้น นายนั่นหน่ะ..เจ้าชู้จะตาย ท่องไว้ ท่องเอาไว้ “ น้ำหวานเอ่ยเบาๆกับตัวเอง เธอสะบัดหัวไล่ความคิดออกไป
สัปดาห์ต่อมา
“ สวัสดีค่ะ...มีของมาฝากพวกพี่อีกแล้วอย่างนี้เทคะแนนให้หมดใจเลยค่ะ “
“ คะแนนของพวกพี่ก็อยากได้ครับ แต่อยากได้ของคนข้างในมากกว่า “ หมอกเอ่ยพร้อมกับยื่นถุงในมือให้พนักงานสาวที่อยู่หน้าร้าน
“ คนข้างในก็น่าจะให้เต็มร้อยนะคะ วันนี้อารมณ์ดีตั้งแต่เช้าเลย “
“ เหรอครับ ...งั้นผมนั่งรอเค้าอยู่ตรงนี้นะครับ “ ร่างสูงเอ่ยพลางเดินไปนั่งที่เก้าอี้ที่มีไว้รับรองแขกที่มาใช้บริการของทางร้าน
หลายวันมานี่หลังจากที่วันนั้นเขาบอกเธอว่าจะมาส่งข่าวเรื่องเพื่อนรักของเขา ชายหนุ่มก็ทำอย่างที่พูดจริงๆ เขาจะมาในช่วงร้านใกล้จะปิดซึ่งก็เป็นเวลาที่ห้างปิดให้บริการ หากวันไหนไม่ได้มาเขาก็จะโทรมาบอกพราวดาวพนักงานสาวผู้จัดการร้าน เหตุที่ต้องโทรเข้าเบอร์ร้านก็เพราะจนป่านนี้หญิงสาวที่อยู่ด้านในยังไม่ยอมให้เบอร์โทรหรือแม้กระทั่งแลกไลน์กับเขาอีก แม้เขาจะเพียรพยายามแค่ไหนก็ตามแต่
“ อ้าว..สวัสดีค่ะคุณน้ำตาล ลมอะไรหอบมาถึงนี่ได้คะ “ เสียงพราวดาวเอ่ยทักหญิงสาวผู้มาใหม่
“ ลมคิดถึงได้มั้ยคะ “ หญิงสาวนัยน์ตาเศร้าเอ่ย
“ แล้วนี่มากับใครคะ “
“ มากับลุงขวัญค่ะ กะว่าจะมาชวนยัยหวานไปช่วยดูดอกไม้ซะหน่อย “ เสียงเอื้อยเอ่ยของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่เงยหน้าขึ้นมามองเพราะมีชื่อของคนที่เขารออยู่ อยู่ในบทสนทนานั้นด้วย
“ อ้าว...ยังไงดีล่ะเนี้ย สงสัยคุณหมอกของพี่จะได้รอเก้อซะแล้ว “
“ หมอก ? “
“ ค่ะ ..สุดหล่อเพื่อนคุณน้ำหวานหน่ะค่ะ มาเกือบทุกวันเลย สงสัยสาวห้าวของเราจะขายออกแล้วนะคะ “ พนักงานสาวเอียงหน้าเข้าไปกระซิบกับหญิงสาวคนเดิม
“ ยัยหวานเนี้ยนะจะขายออก ถ้าคุณแม่รู้ต้องไม่เชื่อแน่ๆ “
“ นินทาอะไรกันอยู่คะ “ ร่างบางที่พึ่งทำงานเสร็จเดินถือกระเป๋าออกมา เธอรู้อยู่ก่อนแล้วว่าพี่สาวคนสวยมาหาถึงที่ร้าน และเธอเองก็รู้เช่นกันว่ามีชายหนุ่มใส่เสื้อสูทผูกเนคไทด์มานั่งรอได้สักพักแล้ว... กล้องวงจรปิดด้านในบอกเธออย่างนั้น
“ นินทาเรื่องคนสวยมีหนุ่มมานั่งรอหน่ะสิ “ น้ำตาลพี่สาวที่มีอายุห่างจากเธอ 8 ปีเอ่ยขึ้น
“ หนุ่มอะไรกันคะ เพื่อนต่างหาก “
“ พี่พราวบอกมาเกือบทุกวันเนี้ย ไม่ใช่เพื่อนละมั้ง “ น้ำตาลเอ่ยแซวน้องสาว
“ นายมาอีกทำไมเนี้ย “ น้ำหวานเอ่ยเมื่อชายหนุ่มที่นั่งอยู่เดินเข้ามาหา
“ ก็ไม่รู้จะไปไหน เลยมาหาเพื่อนไปกินข้าวด้วย “ ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้หญิงสาวทั้งสามคนที่ยืนอยู่ ชายหนุ่มมาบ่อยจนสนิทสนมคุ้นเคยกับพนักงานที่นี่ทุกคน โดยเฉพาะพราวดาวที่เป็นผู้จัดการร้านหากชายหนุ่มต้องการความช่วยเหลืออะไร เช่น ตารางงานของหญิงสาวผู้เป็นเจ้านาย เขาก็จะโทรถามเธอทันที
แต่หญิงสาวผู้มาใหม่ที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน กระนั้นแววตาและใบหน้าของเธอก็ยังคงติดอยู่ในห้วงความทรงจำของเขา เขาไม่มีวันลืม...ผู้หญิงคนนี้ คนที่ทำให้พี่ชายเขาต้องตาย
“ นี่พี่สาวของชั้น พี่น้ำตาล “
“ สวัสดีครับ “ ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบพร้อมกับยกมือไหว้คนตรงหน้า เธอไม่เปลี่ยนไปเลยแม้เวลาจะล่วงเลยมานานหลายปีแล้ว