บทที่ 10 โรงประมูลมังกรเหิน
บทที่ 10 โรงประมูลมังกรเหิน
ก่อนที่จะกลับมาที่โรงเตี้ยม ทั้งสองได้แวะไปที่โรงประมูลมังกรเหินและแจ้งตามที่หลงจู๊ของร้านขายยาหยูอี้ถังบอกว่าต้องการเข้าร่วมประมูล เมื่อพวกเขารู้ว่าจะมีโสมอายุ 1,000 ปี และเห็ดหลินจืออายุ 500 ปีเข้าประมูล ทำให้โรงประมูลนั้นตื่นเต้นและโกลาหลกันขึ้นมาทันที พวกเขาถึงขนาดเชิญหลงจู๊มาและขอให้พวกนางนำโสมและเห็ดหลินจือออกมาให้ดู เพราะว่ากลัวว่าพวกนางจะพูดไม่จริง และเมื่อได้เห็นของเรียบร้อย ตอนนี้สายตาที่พวกเขามองสองป้าหลานนั้นมีความนับถือมากขึ้นมาหลายส่วน
"ข้าไม่ได้เห็นโสมที่มีอายุถึงพันปีมานานเหลือเกินแล้ว น่าจะเกือบ 10 ปีได้แล้ว มันล้ำค่าจริงๆ"
หลงจู๊พูดด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยตื่นเต้นและความประทับใจมาก นานมาแล้วที่พวกเขาไม่ได้เห็นโสมและเห็ดหลินจือที่มีอายุเยอะขนาดนี้ในโรงประมูลมังกรเหินของพวกเขาและที่สำคัญมันถูกส่งเข้าประมูลเป็นคู่ด้วยครั้งนี้เมืองชิงเฉินจะต้องแตกตื่นอย่างแน่นอน พวกเขารีบส่งสายตาให้กันเป็นการบอกว่า พวกเจ้ารีบไปกระจายข่าวนี้ให้เร็วที่สุดและให้ได้มากที่สุดด้วยเพราะว่า ของมีค่าเช่นนี้มาถึงโรงประมูลกระชั้นชิดเหลือเกิน พวกเขาได้แต่ต้องทำวิธีการส่งข่าวแบบพิเศษแล้ว ซึ่งการส่งข่าวสารของทางโรงประมูลมังกรเหินนั้นหากว่าเจอของวิเศษหรือของที่มีค่าสูงสุดพวกเขาจะวัดจากการส่งสารนั้นคือ
ขั้นที่หนึ่ง การจุดพลุสัญญาณ จุดพลุสีทองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของของล้ำค่าระดับสูงสุดที่นำมาประมูล ให้แสงสว่างกระจายไปทั่วเมือง เพื่อให้ตระกูลและผู้ที่มีอำนาจรับรู้ว่ามีวัตถุประมูลสำคัญมาถึงโรงประมูลแล้ว การจุดพลุเช่นนี้แสดงถึงความสำคัญสูงสุดและดึงดูดผู้คนจากทุกทิศทาง
ขั้นที่สอง นกเพลิงสื่อสาร ใช้นกเพลิง ซึ่งเป็นนกวิเศษที่สามารถบินได้อย่างรวดเร็วและไม่เหนื่อยล้า นกเพลิงเหล่านี้ได้รับการฝึกให้ส่งสารไปยังผู้มีอำนาจของตระกูลใหญ่ ข้อความที่ส่งไปด้วยนกเพลิงจะมีความเป็นส่วนตัวและรวดเร็ว นกเพลิงยังมีเปลวไฟลุกโชนที่สามารถแสดงความเร่งด่วนของข่าวได้อีกด้วย
ขั้นสุดท้ายเป็นขั้นสูงสุด การส่งทูตเงามายา โรงประมูลมังกรเหินมีทูตเงามายาซึ่งเป็นบุคคลที่สามารถหายตัวและเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทูตเหล่านี้มีหน้าที่นำสารไปยังตระกูลใหญ่และบุคคลสำคัญโดยตรง โดยที่ไม่มีใครสามารถติดตามหรือขัดขวางได้ วิธีนี้ทำให้ข่าวสารถึงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยซึ่งของ 3 สิ่งที่ทั้งสองนำมาให้พวกเขาประมูลนั้นทางโรงประมูลนั้นถึงขนาดที่ต้องใช้การสื่อสารทั้งสามแบบพร้อมกันทันที เพื่อให้กระจายข่าวได้ทั่วถึงและรวดเร็วที่สุด
"เช่นนั้นทั้งโสมอายุ1000ปีกับเห็ดหลินจืออายุ500ปีและของสิ่งนั้นที่พวกท่านนำมา โรงประมูลมังกรเหินย่อมไม่ยอมพลาดโอกาสแน่นอนขอรับ"
หลงจู๊ที่ตอนนี้กอดกล่องโสมเห็ดหลินจือและของสิ่งนั้นเอาไว้อย่างหวงแหนกล่าวเสริมพร้อมยิ้มเต็มใบหน้า เขาไม่ได้ยิ้มแบบนี้มานานหลายปีแล้วจริงๆ มันรู้สึกดีมาก…
เจียงหย่าเสวี่ยยิ้มเล็กน้อย "ข้าหวังว่าการประมูลนี้จะเป็นที่น่าพอใจสำหรับทุกฝ่าย"
ป้าจวงยืนอยู่ข้างๆ พูดเสริม "พวกเรามั่นใจในคุณภาพของสมุนไพรเหล่านี้ ขอให้ท่านจัดการให้ดีที่สุด"
หลงจู๊พยักหน้า "ท่านวางใจเถิด พรุ่งนี้จะเป็นวันที่น่าตื่นเต้นสำหรับทุกคนอย่างแน่นอนขอรับ" พร้อมกันนั้นก็ได้สิ่งป้ายเข้างานประมูล และตั๋วแลกเงินที่เป็นเหมือนการมัดจำจำนวน 100000 ตำลึงให้กับเจียงหย่าเสวี่ย เมื่อนางได้มาก็ยื่นให้ป้าจวงเก็บเอาไว้ก่อนที่ทั้งสองจะกล่าวลา
ใช่แล้ว!!! ตั๋วแลกเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึงที่ทางโรงประมูลให้มาก่อนเพราะว่าป้าจวงนั้นบอกว่าหากทางโรงประมูลต้องการที่จะเก็บของเอาไว้ที่นี่ก็ต้องออกตั๋วแลกเงินให้พวกนางเพื่อเป็นการค้ำประกันนั้นเอง…ฉลาด รอบคอบอย่างคนที่เกิดมานานจริงๆ ….ซึ่งทางโรงประมูลนั้นเมื่อเห็นของทั้งสามที่พวกเขานั้นไม่มีปัญหาเลยที่จะออกตั๋วแลกเงินค้ำประกันเอาไว้ ซึ่งหากว่าป้าจวงเรียกมากกว่านี้ 2 เท่าพวกเขาก็ยังเต็มใจที่จะออกให้เลย คิดดูว่าของชิ้นที่สามที่พวกเขาเห็นนั้นจะต้องมีค่ามากแน่นอน….
หลังจากเสร็จธุระกับทางโรงประมูลทั้งสองก็เดินกลับมาที่โรงเตี้ยมที่ตอนนี้ทุกคนรออยู่ ท่านแม่นั้นถึงกับออกมายืนรอที่ด้านหน้าด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อเห็นทั้งสองเดินมานางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และป้าจวงนั้นก็มองสบตากับนางเป็นพิเศษและพยักหน้าให้คุณหนูของนางเบาๆ เป็นอันรู้กันว่าทุกอย่างสำเร็จไม่มีปัญหา
เมื่อเข้ามาในห้องพักเจียงหย่าเสวี่ยยิ้มกว้างขณะเล่าให้ท่านแม่ฟังด้วยความตื่นเต้น
"ท่านแม่ พรุ่งนี้จะมีการประมูลที่โรงประมูลมังกรเหิน พวกเราได้นำโสมอายุ 1,000 ปีและเห็ดหลินจือเข้าประมูลด้วยเจ้าค่ะ ข้าคิดว่ามันจะนำเงินจำนวนมากมาให้เราได้"
ท่านแม่ของนางฟังด้วยความสนใจและแววตาที่แฝงไปด้วยความเป็นห่วง "เจ้าแน่ใจหรือเสวี่ยเออร์? การนำของล้ำค่าเช่นนี้ไปประมูล อาจจะดึงดูดผู้ที่มีเจตนาร้ายมาได้"
เจียงหย่าเสวี่ยพยักหน้าอย่างมั่นใจ "ข้ารู้เจ้าค่ะ แต่ข้าเชื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์กับพวกเรา และป้าจวงก็เห็นด้วยว่ามันเป็นทางที่ดีที่สุดในตอนนี้" ป้าจวงที่ยืนอยู่ข้างๆ พยักหน้าช่วยเสริม "ใช่เจ้าค่ะ คุณหนูทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว ไม่มีปัญหาใดๆ"
“หากว่าป้าจวงยืนยันแบบนั้นแม่ก็หายห่วง ไหนเล่ามาสิว่าวันนี้เจ้าขายโสมให้ร้านขายได้เงินมามากแค่ไหน” นางเอ่ยถามในที่สุดเพราะว่า ดูจากหน้าตาท่าทางของลูกสาวแล้วดูเหมือนนางอยากจะเล่าให้ฟังเต็มทนแล้ว เจ้าเสี่ยวลิ้วก็รีบวิ่งมานั่งบนเตียงและรอฟังตาแป๋วทีเดียว….เจีรงหย่าเสวี่ยยิ้มและบีบแก้มแห้งๆ ของเขาก่อนจะเริ่มเล่าเหตุการณ์ในวันนี้ให้เขาฟัง ซึ่งเขาก็ทำหน้าตาตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา
“10000 ตำลึง!!! ได้มาถึง 10000 ตำลึงเชียวหรือลูกแม่" แม้แต่ท่านแม่ก็ตกใจกับราคาที่ทางร้านยาหยูอี้ถังซื้อไป
“ใช้แล้วเจ้าค่ะ และข้าคิดว่าวันพรุ่งนี้ที่เราจะประมูลทั้งโสมและเห็ดหลินจือเป็นคู่นั้นจะต้องทำเงินมากกว่านี้แน่นอน” และยังจะของสิ่งนั้นอีก เจียงหย่าเสวี่ยคิด และไม่ได้บอกท่านแม่ว่านางได้ส่งสิ่งใดประมูลเพิ่มในวันพรุ่งนี้
“พี่ใหญ่ ข้า…ข้าอยาก..อยากจะไปดูด้วยขอรับ ข้าเคยได้ยินแค่อาจารย์เล่าให้ฟังเรื่องการประมูลแต่ไม่เคยได้เห็นเลย…ข้า..ข้าอยาก…” เจ้าเสี่ยวลิ้วลองเสี่ยงขอพี่ใหญ่ต่อหน้าท่านแม่ เพราะหากว่าพี่ใหญ่อนุญาตท่านแม่ที่รักพี่ใหญ่มากจะต้องอนุญาตให้เขาไปดูด้วยแน่นอน เขาฉลาดเขารู้
เจียงหย่าเสวี่ยมองตาละห้อยของเขาและมองหน้าท่านแม่ ก่อนจะเอ่ยว่า"เช่นนั้นพวกเราทั้งหมดก็ไปดูกันเถอะเจ้าค่ะ พวกเราก็ไปนั่งปะปนกับคนที่ไปร่วมการประมูล พอประมูลเสร็จค่อยให้ป้าจวงไปรับเงินดีหรือไม่เจ้าคะป้าจวง"
ป้าจวงนิ่งครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเบาๆ หนึ่งครั้งแบบนี้ก็ดีเพราะพวกนางจะได้ไม่เป็นอันตราย เพราะว่าหากว่าพวกนางไปดูในห้องพิเศษแน่นอนว่าคนจะต้องรู้ว่าพวกนางเป็นเจ้าของ ของที่ประมูลแน่นอนและจากที่ไม่มีปัญหา เมื่อเห็นว่าพวกนางมีแต่เด็กสตรีและคนชราเช่นนางพวกเขาก็อาจจะนำปัญหามาได้
“เอาอย่างนั้นหรือลูกรัก” ท่านแม่ยังลังเลเล็กน้อยแต่เมื่อมองไปที่ดวงตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของเจ้าเสี่ยวลิ้วนางก็ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
“เย้!!!” เสี่ยวลิ้วกระโดดโลดเต้นทันทีเขาถึงกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาและมีการยักคิ้วให้เสี่ยวลิ้วตัวจริงด้วย…
/////
วันต่อ ภายในห้องโถงกว้างใหญ่ของโรงประมูลมังกรเหิน ที่ถูกประดับประดาอย่างอลังการและวิจิตรบรรจง ผนังทั้งสี่ด้านประดับด้วยผ้าไหมลวดลายมังกรทองและดอกโบตั๋นหรูหรา มังกรทองที่ถูกถักทอลงบนผ้าไหมดูเหมือนจะกำลังเหินเวหา ลำตัวของมันโค้งและเลื้อยอย่างสง่างาม สะท้อนแสงจากโคมไฟระย้าทองคำที่ประดับอัญมณีหลากสีสันห้อยระย้าจากเพดานสูง เสียงของอัญมณีที่กระทบกันเบาๆ เมื่อลมพัดผ่าน ทำให้รู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาของมังกรที่กำลังทะยานอยู่ในอากาศ กลิ่นหอมจากกำยานอันนุ่มนวลลอยอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศ ผสมกับกลิ่นดอกไม้สดที่จัดวางในแจกันหยกขนาดใหญ่ แขกผู้มีเกียรติทั้งหลายต่างนั่งประจำที่บนเก้าอี้ไม้แกะสลักลวดลายซับซ้อน พร้อมเบาะปักลายดอกเหมยและปักทองอย่างประณีต แต่ละคนต่างสวมใส่อาภรณ์หรูหราบ่งบอกถึงความร่ำรวยและยิ่งใหญ่ของพวกเขาอย่างเต็มที่ ยิ่งเพิ่มความงดงามและโอ่อ่าให้กับบรรยากาศภายในห้องโถงนี้
ขบวนของเจียงหย่าเสวี่ยก็เข้ามาและหาที่นั่งที่ไม่ใกล้เวทีนัก พวกเขาต่างก็ตื่นตาตื่นใจมากโดยเฉพาะเจ้าเจียงหยวนเจี๋ยที่ดวงตาวาววับมองนั้นนี่อยู่ตลอดเวลา และมีคำถามออกมาเป็นระรอกจนท่านแม่ต้องบอกให้เขาเงียบและเฝ้าดูสังเกตุเอาแทนซึ่งเสี่ยวเจี๋ยนั้นก็พยักหน้าและทำตามทันที
มีเสียงพูดคุยจอแจของบรรดาผู้คนที่มาร่วมงานประมูลในครั้งนี้ ทุกคนต่างตื่นเต้นและมีความคาดหวังที่จะแย่งชิงของล้ำค่าในวันนี้มากเพราะว่าเมื่อวานนั้นทางโรงประมูลมังกรเหินนั้น เล่นใหญ่ทำถึงมาก พวกเขาถึงขนาดใช้การสื่อสารแบบพิเศษที่จะทำเฉพาะตอนที่มีของล้ำค่ามากเท่านั้นและที่สำคัญพวกเขาถึงขนาดใช้มันพร้อมกันทั้งสามวิธี จะไม่ให้พวกเขาตื่นเต้นและคาดหวังได้อย่างไร ที่มาวันนี้นั้นทั้งเตรียมเงินมาให้มากที่สุดทั้งตื่นเต้นที่จะได้เห็นและหากว่าพวกเขาชนะก็จะได้ครอบครองของสิ่งนั้น บนเวที มีชุดของมีค่า หยกชนิดต่างๆ เครื่องประดับ เม็ดยาลูกกลอนต่างๆ วางเรียงเอาไว้และวัตถุวิเศษต่างๆ ที่เตรียมไว้ให้ประมูล โดยเฉพาะโสมคนอายุ 1,000 ปีและเห็ดหลินจือดอกใหญ่เท่าหน้าคนดอกนั้นที่จัดเป็นชุดล้ำค่า ชุดนี้เป็นที่จับตามองของทุกคน
เมื่อถึงเวลาหลงจู๊ของโรงประมูลมังกรเหินก็ขึ้นทำการประมูลเอง ซึ่งยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าของที่ประมูลในวันนี้นั้นสำคัญและมันล้ำค่าพลาดไม่ได้เพียงใด เขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่ชั้นสองที่เห็นห้องพิเศษทั้งหมดก่อนจะเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันดังว่า
“ท่านแขกผู้สูงศักดิ์ ท่านเจ้าตระกูลหวง เจ้าตระกูลหลง เจ้าตระกุลรั่ว เจ้าตระกูลโจว เจ้าตระกูลโอหยาง เจ้าตระกูลเจิ้ง และแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ข้าน้อยฟู่เสี่ยวหาน ขอต้อนรับสู่การประมูลครั้งสำคัญของโรงประมูลมังกรเหิน คืนนี้เรามีของล้ำค่าหายากมากมายที่เตรียมไว้เพื่อท่านทุกคน เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาพวกเรามาเริ่มกันเลย”
สิ่งของชิ้นแรกที่ถูกนำออกมาเป็นหีบไม้แกะสลักอย่างประณีต เขาเปิดฝาออก เผยให้เห็นหยกเขียวมรกตอันงดงาม เปล่งประกายแสงเขียวราวกับน้ำค้างบนใบไม้ในยามเช้า แขกทั้งหลายต่างส่งเสียงฮือฮาเบาๆ ด้วยความตื่นเต้นหลงจู๊ฟู่ยิ้มก่อนจะกล่าวขึ้น
"หยกเขียวมรกตนี้ ได้มาจากภูเขาหมื่นเมฆาในแดนไกล เริ่มต้นประมูลที่ 1000ตำลึง!"
การประมูลเริ่มขึ้นทันทีหลังจากที่หลงจู๊ฟู่เสี่ยวหานเปิด เหล่าแขกที่มาต่างก็ประมูลกันไปเพียงแต่พวกเขานั้นต่างก็รู้ดีว่าสิ่งที่เฝ้ารอนั้นยังไม่ออกมาดังนั้น พวกคนใหญ่คนโตที่อยู่ตามห้องพิเศษต่างๆ ก็ยังไม่ได้ทำการประมูลมีเพียงพ่อค้าประชาชนทั่วไปที่มาชมนั้นประมูลกันไป การประมูลดำเนินมาเรื่อยๆ
“มาถึงชิ้นที่5 เรามียาวิเศษอีกหนึ่งชิ้นที่ไม่อาจพลาด ยาชำระไขกระดูก ซึ่งสามารถชำระล้างพิษในร่างกายและเพิ่มพูนพลังภายในได้อย่างมหัศจรรย์!”
ฟู่เสี่ยวหานกล่าวด้วยน้ำเสียงทรงพลัง สายตาของผู้คนทั้งหมดหันไปยังเวทีอย่างสนใจ
“ราคาเริ่มต้นที่ 3,000 ตำลึง!” เสียงของเขาประกาศขึ้นพร้อมกับเสียงค้อนเคาะไม้บนแท่น
“4,000 ตำลึง!” ชายสูงวัยในชุดคลุมสีแดงตะโกนขึ้นทันที สายตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะได้ยาล้ำค่านี้ไป
“5,000 ตำลึง!” เสียงของหญิงสาวอีกคนดังขึ้น นางยกพัดสีชมพูขึ้นแสดงความต้องการ “ยาชำระไขกระดูกเช่นนี้ หากได้ไป ข้าย่อมสามารถเสริมสร้างพลังภายในได้” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นแน่นอนว่านางย่อมเป็นจองยุทธ ป้าจวงที่ดูการประมูลมาตลอดมองจ้องไปที่นางทันทีประหนึ่งเจอคนอาชีพเดียวกัน
“6,000 ตำลึง!” ชายอีกคนหนึ่งในชุดคลุมสีน้ำเงินยกมือขึ้น สายตาเขาแฝงไปด้วยความมุ่งมั่น “ยานี้ข้าต้องการให้บุตรชายของข้า!”
“8,000 ตำลึง!” จอมยุทธหญิงยังคงไม่ยอมแพ้ นางยิ้มเยาะเมื่อมองไปยังคู่แข่งของนาง
“ท่านคงต้องเสียใจที่พยายามจะแย่งชิงสิ่งนี้กับข้า”
“10,000 ตำลึง!” เสียงของชายในชุดคลุมสีทองดังขึ้น น้ำเสียงทรงอำนาจนั้นทำให้ทุกคนในห้องต่างหันไปมอง เขาดูเป็นคนที่มีฐานะและอำนาจ และความมุ่งมั่นของเขาก็ไม่อาจประมาทได้
เสียงซุบซิบดังขึ้นในหมู่ผู้เข้าร่วมงาน หลายคนเริ่มจับตาดูการแข่งขันนี้ด้วยความตื่นเต้น “ยาชำระไขกระดูกเช่นนี้ นานทีปีหนจะได้เห็นมาประมูล” ผู้หนึ่งกระซิบกับเพื่อนของเขา
“12,000 ตำลึง!” หญิงสาวชุดชมพูยังคงไม่ยอมแพ้ นางมองชายในชุดคลุมสีทองด้วยแววตาท้าทาย “ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าครอบครองสิ่งนี้ได้ง่ายๆ หรอก”
ชายในชุดคลุมสีทองหันไปมองนางด้วยรอยยิ้มเย็นชา
“15,000 ตำลึง!” เขายกมือขึ้นโดยไม่ลังเล ราวกับเงินทองเหล่านี้เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยที่เขาไม่ต้องคำนึง
เสียงคนในห้องก็ยิ่งดังขึ้นทันที ทุกคนต่างลุ้นระทึกกับการประมูลที่เข้มข้นนี้ ในที่สุด พนักงานประมูลก็ยกค้อนขึ้นพร้อมกับเคาะลงบนแท่น
“ยาชำระไขกระดูกตกเป็นของท่านในชุดคลุมสีทองที่ราคา 15,000 ตำลึง!”
ผู้คนในห้องต่างปรบมืออย่างชื่นชม และบรรยากาศก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลงเล็กน้อย ก่อนที่พนักงานประมูลจะนำโต๊ะมาตั้งด้านหน้าของฟู่เสี่ยวหานและนำกล่อง 3 ใบออกมา เขาเปิดกล่องด้านซ้ายและขวาออกซึ่งแน่นอนว่ามันคือ โสมอายุ 1000 ปี และเห็ดหลินจืออายุ 500 ปีนั้นเอง ตอนนี้เสียงสูดหายใจของแขกที่มานั้นดังขึ้นมาพร้อมกันทันที
จากนั้นเสียงของฟู่เสี่ยวหานดังขึ้นมาอีกครั้ง
“และแล้วก็ถึงเวลาที่ข้าคิดว่าทุกท่านรอคอยแล้ว!!!…..”
****** มีใครรอคอยหรือไม่เจ้าคะ?? *****