ตอนที่ 22 หนีความรู้สึก
EP 22
กริ๊งงง กริ๊งงง ! เสียงนาฟิกาปลุกยามเช้าจากโทรศัพท์มือถือ ส่งผลให้พิมเสนงัวเงียลุกขึ้นจากเตียงมือบางคลำหาร่างหนากลับพบแต่ความว่างเปล่า เธอกวาดสายตามองหาเสื้อผ้าของพระรามที่ถูกถอดไว้เมื่อคืนก็ไม่เหลือแม้แต่ร่องลอย..
@มหาลัย คณะวิศกรรมศาสตร์
"มึงไหวป่ะนิไอ้ราม ดูเมื่อยๆนะ" คินที่นั้งสังเกตุอาการของเพื่อนเอ่ยถามขึ้น เขาเห็นท่าทางไม่สู่ดีของเพื่อนก็นึกเป็นห่วง
"เชี้ยยย..ตัวมึงร้อนจี๋เลยว่ะ ไปห้องพยาบาลไหม" เคยื่นมือไปอังหน้าผาก เจ้าของใบหน้าบึ้งตึง
"กูเห็นด้วย" ยูริพูดเสริม
"ไม่ต้อง"
"ปฏิเสธขนาดนี้พวกกูบังคับมึงได้ซะที่ไหน" เคพูด
"เออไอ้ราม เมื่อคืนมึงมีเรื่องอะไรกับพิมว่ะ พิมทักมาถามกูว่ามึงไปไหน"
"...." พระรามนิ่งเงียบไม่ตอบใดๆ
"อย่าพึ่งถามอะไรมันเลย มันคงยังไม่อยากพูดอะไร" เวหาเป็นคนพูดให้คินหยุดถาม
"แต่ดูท่าทางเธอเป็นห่วงมึงมากนะ ถึงขั้นทักกูมา"
"...."
'แต่คนที่ฉันพึ่งรู้ว่าตัวเองชอบ..'
'...มันเป็นนายนะ'
คำพูดจากริมฝีปากเล็กวกวนอยู่ในหัวไม่หยุด ถึงตอนนั้นเขาจะเมาจนแทบจะไม่ได้สติแต่เหตุการณ์ทุกอย่างเขาก็จำได้แม่นรวมถึงคำพูดของพิมเสน..
ที่บอกรักเขา..
"...กูรู้แล้ว" พระรามตอบออกมาเสียงแผ่วเบา เขากำลังเสียสติกับการที่ได้รู้ความจริงว่าพิมเสนชอบเขา มันก็รู้สึกดี แต่มันก็รู้สึกกลัวอยู่เหมือนกัน..
"เรียนต่อเถอะ จารย์มาล่ะ" เคพูดปิดท้ายบทสนทนา เมื่อเจ๊ติ๋มเดินเข้ามาในห้อง ทุกคนจึงใจจดใจจ่อกับการเรียนจนถึงคาบพักเที่ยงของวัน
"กฤติเดช มารับหัวข้อชิ้นงานที่เธอต้องทำส่งครู.." พระรามลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปรับหัวข้องานจากอาจารย์ วันนี้ชายหนุ่มเงียบผิดปกติ จึงทำให้เจ๊ติ๋มแปลกใจ แต่พอหล่อนให้งานเสร็จก็รีบเดินออกไปจากห้องพร้อมความสงสัยเมื่อนักเรียนคู่กัดเงียบผิดปกติ
"ป่ะ แดกข้าวกันพรรคพวก"
"เอาดิ" เวหาตอบพร้อมกับลุกขึ้นจากเก้าอี้ และทุกคนก็เดินมาหยุดที่โรงอาหารของคณะ สาเหตุเพราะยูริอยากประหยัดเงิน ไม่อยากออกไปกินข้างนอกเพราะราคาแพง ซึ่งเพื่อนๆในกลุ่มทุกคนต่างยอมเธอ ไม่นานทุกคนก็ได้อาหารในมื้อนี้มาตั้งตรงหน้า พระรามที่มีท่าทางแปลกๆมาครึ่งวันหยิบช้อนขึ้นมาและกำลังจะตักข้าวเข้าปากแต่...
หมับ ! มือบางของใครบางคนจับไว้ที่ข้อมือของพระรามไว้ซะก่อน ตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนภายในโต๊ะ
"?" เรียวคิ้วขมวดยุ้งพร้อมกับสะบัดมือออก
"นายไม่สบายอยู่นะ กินโจ๊กร้อนๆดีกว่า" พิมเสนชูถ้วยโจ๊กที่เธอไปซื้อในร้านค้าพร้อมกับนํ้าไม่เย็นมากขึ้น ร่างเล็กอยู่ในชุดนักศึกษาประจำคณะแพทย์
"ไม่กิน"
"แต่อาหารที่นายกำลังกินอยู่ มันผิดอาการไข้ของนายนะ"
"..." ชายหนุ่มไม่สนใจคำพูดของพิมเสน มือหนายังคงพยายามงับข้าวเข้าปาก แต่เธอก็กลับยื้อมันไว้อีกครั้ง ส่งผลให้พระรามชักสีหน้าไม่พอใจ "ปล่อย"
"ไม่ จนกว่านายจะยอมกินโจ๊ก และกินยาที่ฉันเตรียมไว้ให้" พิมเสนแทรกตัวเข้าไปนั้งพื้นที่ว่างข้างๆพระราม เธอยืนยันที่จะให้เขากินให้ได้
"กลับไป.."
"นายกินกะ..."
หมับ !..
พรึบ !..
"เชี้ยไอ้ราม คุยกันดีๆดิว่ะ" เคสบถออกมาเมื่อพระรามฉุดถ้วยโจ๊กสาดลงพื้นหมดและบีบถ้วยโจ๊กแน่น สร้างความตกใจให้คนบริเวณนั้น
"น่ารำคาญ.."
"ฉันทำอะไรผิด ฉันแค่เป็นห่วงนาย.." พิมเสนไม่เข้าใจกับการกระทำใจดำของคนข้างกายแม้แต่น้อย
"ฉันไม่ต้องการ.." พูดจบพระรามก็ลุกผลุนผลันออกจากโต๊ะ
"เดี๋ยวไอ้ราม!" คินเรียกไว้แต่กลับไม่ทัน
"เดี๋ยวกูจัดการเอง" เวหาลุกขึ้นจากเก้าอี้วิ่งตามเพื่อนไป ทุกคนในกลุ่มนี้เขาเป็นคนเดียวที่พระรามไว้ใจที่สุด..
พิมเสนนั้งนิ่งเธอหลุบตามองตํ่า ทั้งที่เมื่อคืนเธอก็ดูแลและสารภาพไปทุกอย่างแล้ว แต่ทำไมพระรามกลับไม่เห็นค่า..
"เธอไม่ต้องตามไปนะ ไอ้รามเวลามันโกรธมันเป็นแบบนี้แหละ" ยูริที่เห็นใจผู้หญิงด้วยกันเอ่ยปลอบใจเธอที่กำลังเสียความรู้สึก มือบางลูบแผ่นหลังเนียนเบาๆ
"ฉันแค่ไม่เข้าใจเท่านั้นเอง.."
"มีเรื่องอะไรกันก็ค่อยๆเคลียนะ ไอ้รามเวลามันโกรธมันโกรธจริงจังมากกว่าจะหายก็ต้องใช้เวลานิดหน่อย ยังไงก็เพื่อนกันค่อยๆคุย" เคพูดเสริม
"ที่เธอทักฉันมาเมื่อคืนเพราะเธอกับไอ้รามทะเลาะกันใช่ไหม"
"อืม เราเข้าใจผิดกันนิดหน่อย"
"เอาหน่า ยังไงเพื่อนกันก็ตัดไม่ขาด มีทะเลาะกันบ้างปกติ" ยูริพูดให้พิมเสนคลายจากอาการตึงเครียด
อีกด้าน..
พระรามที่เดินมาหลังตึก แผ่นหลังกว้างพิงเข้ากับผนัง มือหนายกขึ้นลูบหน้าตัวเอง ทำไม ทำไมพิมเสนต้องเป็นเพื่อนกับนาเดียร์?
เขาได้แต่ถามตัวเองซํ้าๆในใจ..
มันทรมานที่ต้องมาเก็บอะไรไว้คนเดียวไว้แบบนี้ มันทรมานที่ภายในใจมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว..
"ไอ้ราม.."
"...."
เวหาเดินเข้ามาหาเพื่อน ดวงตาคมปราดเหลือบมองคนข้างกายที่ดูจากหน้าก็รู้ว่าชายหนุ่มไม่โอเคขนาดไหน "กูรู้ว่ามึงกำลังเก็บเรื่องทุกข์ใจไว้คนเดียว กูจะไม่บังคับให้มึงเล่า แต่อย่าลืมว่าทำตามความรู้สึกตัวเองดีที่สุด"
"...." พระรามก้มหน้าลงตํ่า ถ้าทำง่ายแบบนั้นเขาคงทำไปแล้ว..
"มึงยังมีกูที่ปรึกษาได้ทุกเรื่อง ตอนไหนที่ต้องการระบาย อย่าลืมกู"
"...กูอยากอยู่คนเดียว" พระรามที่กำลังจะแสดงความอ่อนแอออกมาอีกครั้งเอ่ยบอก เขาไม่อยากให้ใครเห็นนํ้าตาของตัวเองในตอนที่เป็นไอ้ขี้คลาดแบบนี้..
"อืม ถ้าไม่ดีขึ้นมึงก็กลับไปห้องซะ ไม่ต้องฝืนทำเป็นเข้มแข็ง" เวหาตบไหล่พระรามเบาๆสองสามที ตั้งแต่คบกันเป็นเพื่อนมาเขายังไม่เคยเห็นพระรามแย่ขนาดนี้มาก่อน..
ครั้งนี้มันคงสาหัสจริงๆ..
เมื่ออยู่คนเดียวตามลำพัง หยดนํ้าสีใสก็หยดแหมะลงพื้นหญ้าสีเขียวชอุ่ม เขาร้องให้กับตัวเองออกมากับสิ่งที่ตัดสินใจจะทำลงไปนับตั้งแต่วันนี้..
"โธ่เว้ย!.." มือหนาเสยผมขึ้นลวกๆใบหน้าราวกับคนจะขาดใจอยู่ร่อมร่อ "ทำไม..ทำไมว่ะ!" ในใจมันเกิดคำถามเดิมวนซํ้าๆ...
20:30 AM.
"มึงโทรหากูมีไร" ยูริที่มาห้องของเวหาเอ่ยถามขึ้นเมื่อยืนอยู่กลางห้อง
"ทำอาหารให้กูกินหน่อย"
"ออกไปซื้อสิ"
"ไม่ว่ะ กูอยากให้มึงทำให้กิน" ร่างหนาที่พึ่งอาบนํ้าเสร็จเดินมาหาเธอ เอวสอบมีเพียงผ้าขนหนูพันรอบเอวไว้หมิ่นเหม่อ มือหนากำลังขยี้เรือนผมชุ้มนํ้าไปด้วย
"...." ยูรินิ่งเงียบ ตั้งแต่ทำอาหารให้เวหากินสมัยปีหนึ่งนับตั้งแต่นั้นมาเวหาก็ไม่เคยขอให้เธอทำให้กินเลย ครั้งนี้มันแปลกๆ
"กูไม่ได้ให้มึงทำให้กินฟรีๆหรอก กูจ้าง5000ขาดตัว"
"จะกินไร"
"นี้ไง" เวหายื่นรายชื่อเมนูอาหารที่ต้องการนู้นนี้นั้นอย่างเอาแต่ใจให้เธอ
"มึงไม่กินกุ้ง"
"กูอยากกินวันนี้"
"แปลกๆนะ"
"ตรงไหน"
"มึงมีปมเรื่องกุ้งไม่ใช่รึไง เลยไม่ยอมแตะมันเลย"
"จำได้ด้วย?" เวหาเอ่ยถามออกมาพร้อมรอยยิ้มยียวนกวนประสาท
"กูก็จำของเพื่อนทุกคนได้"
"อ๋ออออออ แบบนี้นี้เอง"
"กูไปทำอาหารล่ะ" ยูริตัดบทแก้เก้อ ที่จริงเธอจำของเวหาได้คนเดียวต่างหาก จำได้ละเอียดทุกอย่าง
เมื่อเดินเข้ามาในครัวมือบางก็หยิบผ้ากันเปื้อนมาสวมใส่และเริ่มหยิบจับอาหารอย่างทะมัดทะแมง เธอทำแบบนั้นอยู่คนเดียวไปเรื่อยๆจนเวลาผ่านไปอาหารเมนูสุดท้ายก็มาถึง..
"ไข่เจียวราดข้าว..ไข่ไก่ห้าฟองเอาเฉพาะไข่แดงมาทอด ไม่ใส่ซอสที่มีสีดำเพราะสีมันไม่สวย.." ยูริหยุดอ่านเธองุนงง แล้วถ้าไม่ให้ใส่ซอสสีดำเธอจะใส่อะไรลงไปดีล่ะ? "บ้าน้าาาา.." เธอสบถออกมาและเริ่มแยกใข่แดง ใส่เครื่องปรุงตามที่ชอบทำ
ไม่ให้ใส่ซอสสีดำเธอคงเสกเมนูที่อร่อยให้ไม่ได้..
กลิ่นหอมที่ลอยโชยเข้ามาในห้องส่งผลให้เวหาที่นั้งเขี่ยไอแพดอยู่ปลายเตียงด้วยสภาพเดิม เดินตามกลิ่นเข้ามาในครัว
"หอมจัง"
"ธรรมดา" ยูริตอบในขณะที่ใช้ตะหลิวพลิกใข่เจียว
"ตามสูตรไหม"
"ไม่ซักเท่าไหร่ ว่าแต่ทำไมนายกินยากขนาดนี้ ต่อก่อนเห็นกินอะไรง่ายๆ"
"ไม่รู้สิ อยู่ๆก็อยากกินแปลกๆ" เวหาเดินเข้ามาช้อนหลังเธอ มือหนาค่อยๆจับเรือนผมเธอขึ้น
"ท ทำอะไร" ความไกล้ชิดทำเอาหัวใจของเธอเต้นระสํ่าระส่ายเอาเรื่อง
"รวบผมขึ้นให้ คอมึงเปียกเหงื่อหมดแล้ว"
"...." ยูริปล่อยให้เวหารวบผมขึ้นให้ ภายในใจก็แอบรู้สึกดี มือบางตักใข่เจียวมาโบ๊ะที่หน้าข้าวสวยแล้วบีบซอสมะเขือเทศใส่เป็นรูปหัวใจอย่างสวยงาม.. แต่จู่ๆความเปียกชุ่มที่งับเข้าที่ลำคอก็ทำเอาเธอสะดุ้งขึ้นไม่เป็นท่า..
"อ๊ะ.. เวมึงทำอะไร" ท่อนแขนกำยำสอดเข้าใต้เรียวแขนเธอและยื่นไปปิดแก๊ส เวหารั้งร่างเธอถอยหลังมาเรื่อยๆ ริมฝีปากยังคงซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่น
"ซับเหงื่อให้ไง.." เขาตอบเสียงอู้อี้
"ปล่อย"
"..."
"ไอ้เว!" ยูริพยายามดิ้นเมื่อถูกมือหนาปลดผ้ากันเปื้อนเธอออกอย่างง่ายดาย
"อยากได้เงินเพิ่มไหม.."
"...มึงพอเถอะ" ร่างเล็กดิ้นผลุนๆ แต่กลับสู้แรงของเวหาไม่ได้
ครืด~ ครืด~ เสียงโทรศัพท์ส่งผลให้เวหาที่กำลังหลงไหลอยู่กับลำคอระหงจำใจผละออกด้วยท่าทางอ้อยอิ่ง เมื่อชายหนุ่มรู้ดีว่าใครเป็นคนโทรมา
"ไปรับโทรศัพท์เถอะ.." ยูริที่กำลังตกใจกับเรื่องราวกระทันที่เกิดขึ้นเธอรีบตั้งสติและเดินถือจานใข่เจียวมาวางไว้ที่โต๊ะ พร้อมจัดเครื่องดื่มจนเสร็จเรียบร้อย ร่างเล็กเดินมายืนรอรับเงินที่มุมไกล้ๆประตู..
"ว่าไงครับ"
(ข้าวกำลังไปถึงนะคะ)
"เร็วๆนะคิดถึงจะแย่แล้ว.."
(โอเคค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะ)
"โอเคครับ"
ตี้ด ! สายถูกตัดไปเวหาเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาสวมด้วยท่าทางยิ้มๆก่อนจะฉีกเช็คเงินสดเดินมาหายูริ..
"ขอบใจสำหรับค่าเสียเวลา.."
"มึงไม่ได้จะกินเองงั้นหรอ?"
"ใช่ กูให้มึงทำกับข้าวให้ เพราะข้าวอยากกิน"
"อ๋อ" ยูริรับเงินมา พร้อมกับฝืนยิ้ม สมเพชตัวเองสิ้นดี
"มึงกลับไปได้แล้ว.."
"อืม" เธอขานรับแล้วเดินออกมาจากห้องพร้อมปิดประตูเสียงดัง..
ไม่เป็นไรความรู้สึกเธอมันก็แค่ของเล่น..
.
.
.
เตรียมซดมาม่าหม้อใหญ่ได้เลยเตือนไว้ก่อน55555555555555
