ตอนที่ 18 เพื่อนสนิท…คิดไม่ซื่อ
EP 18
"คุยไรกัน?" ยูริที่เห็นเพื่อนชายสามคนเดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกันเอ่ยถามขึ้น
"เข้าใจผิดนิดหน่อย ไม่มีไร" พระรามตอบคำตอบเดียวกับเวหาทำให้ยูริที่สงสัยอะไรมากมายหายข้องใจ
"อ่อ"
"กูว่าพวกเราเข้าเรียนกันดีกว่า เดี๋ยวแม่งเจ๊ปากแดงเช็คสายอีก วิชานี้คู่มวยมึงไม่ใช่ไงไอ้ราม" เคพูดพร้อมกับเดินไปหยิบกระเป๋าที่เก้าอี้
"..." พระรามส่ายหัวเบาๆเมื่อนึกถึงอาจารย์ประจำวิชาที่ไม่ค่อยถูกชะตานัก
"เออ งั้นก็เข้าเรียน" คินพูด ร่างหนาเดินนำเพื่อนๆออกไปเป็นคนแรกตามด้วยพระรามและเค รั้งท้ายคือยูริและเวหาที่เดินเคียงคู่กันไป
พอถึงห้องเรียนทุกคนก็ต่างนั้งประจำที่ ซึ้งกลุ่มนี้ก็เป็นกลุ่มสุดท้ายที่เข้าทีหลังเพื่อนตลอดส่งผลให้ขัดใจกับเจ๊ปากแดงเป็นอย่างมาก
"ถ้าอีกสองวิพวกเธอยังมาฉันจะเช็คสายแล้วนะ"
"...ก็มาแล้วนี้ไง อาจารย์บ่นทำไม?" พระรามสวนกลับในทันควัน
"ฉันไม่ได้ขอความคิดเห็นนาย"
"ผมก็ไม่ได้ขอความคิดเห็นอาจารย์เหมือนกัน.."
"ฉันมีสิทธ์พูดเพราะฉันเป็นผู้คุมสอน"
"ผมก็มีสิทธ์พูด เพราะอาจารย์กับผมก็คนเหมือนกัน" พระรามตวัดขาไขว้ห้าง มือประสานกันไว้บนโต๊ะ ลิ้นหนาดันกระพุ้งแก้มกวนประสาทหญิงวัยกลางคนที่ขึ้นชื่อว่าอาจารย์
"กฤติเดช!"
"ไอ้รามเบาหน่อย" เวหาหันไปบอกเพื่อน แต่รอยยิ้มนึกสนุกกลับผุดขึ้น
"หึ.." พระรามยอมสงบปากสงบคำอย่างงายดาย จนอาจารย์ที่กำลังจะปรี๊ดแตกกับเด็กกวนประสาทสงบสติอารมณ์แล้วหันกลับไปสอนต่อ จนเวลาล้วงเลยผ่านไปจนหมดเวลาเรียน นักศึกษาทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับห้อง
"กูไปหาข้าวล่ะ.." ร่างหนาลุกขึ้นจากโต๊ะเป็นคนแรกในมือมีโทรศัพท์เปิดแชทแฟนสาวค้างเอาไว้
"เบื่อคนติดแฟนว่ะแม่ง ไปเถอะที่รักเรากลับบ้านไปจู๋จี๋กันดีกว่า" คินโอบแขนกอดคอพระรามแล้วสองร่างก็เดินออกจากห้องพร้อมกัน
"ไอ้ยูมึงจะกลับพร้อมพวกกูเลยป้าวว่ะ" เคถามเพื่อนสาว
"ไม่ว่ะ พวกมึงกลับเถอะ"
"เออๆงั้นก็ขับรถกลับดีๆ ไปละ"
"อืม" ลํ่าลากันเสร็จเคก็เดินตามหลังเพื่อนๆไป เหลือเพียงเวหาและยูริที่ยังคงเหลืออยู่เพียงสองคน
"ที่มึงจะให้กูไปหาอยู่รถตอนเลิกคลาสมึงมีเรื่องอะไรก็คุยตรงนี้เถอะ.." ยูริพูดขึ้นทำลายความเงียบมือบางกระชับสายกระเป๋าเป้ รอคำตอบจากเวหา
"อยากได้ทริปพิเศษไหม กูมีงานให้มึงทำ"
"งานอะไร"
"ตามมาสิ"
"เท่าไหร่?"
"ไม่อั้น"
"อืม" เธอตอบตกลงโดยที่ไม่คิดอะไร เพราะถ้าไม่รับงานจากเวหาเธอก็ไม่มีทางไปหางานที่ไหนอีกแล้ว โดนดักทางเอาไว้หมด...
ตกลงกันเสร็จสับทั้งสองก็เดินออกมาจากห้องเรียนมุ้งหน้าไปยังโรงรถที่อยู่ไม่ไกลนัก
"เวทำไมมาช้าคะ แล้วนี้ยูจะกลับพร้อมกับเราหรอ" ข้าวฟ่างที่ยืนพิงรถอยู่ เมื่อพบเข้ากับร่างของแฟนหนุ่มเธอจึงรีบวิ่งมาเกาะแขนเวหาในทันที
ยูริยืนนิ่งเงียบเธอมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยแววตาเฉยชา แต่ซ้อนไปด้วยความเจ็บปวดอยู่ภายในใจลึกๆก่อนที่เธอจะเบือนหน้าหนี
"ข้าวจะช็อปปิ้งไม่ใช่รึไง.."
"ใช่ค่ะ" เธอพยักหน้าตอบ
"แล้วมีทีไรหมดน้อยบ้างละ ข้าวของเต็มไม้เต็มมือตลอด"
"เวจะให้ยูมาถือของให้เราหรอคะ?"
"ใช่ครับ เวกลัวข้าวหนักไง"
"ขอบคุณนะคะ^^"
ฟอด~ ข้าวฟ่างยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มชายหนุ่มด้วยท่าทางดีใจ
"ป่ะยูไปกัน เดี๋ยวเราจิ๊กเงินเวมาซื้อให้ซักชุด" ข้าวฟ่างพยักเพยิดเรียกยูริที่ยืนนิ่ง แล้วเธอก็ควงแขนแฟนหนุ่มเดินนำหน้าไปขึ้นรถ
ยูริค่อยๆหลับตาลงเพื่อให้ตัวเองดูโอเคที่สุด ก่อนที่เธอจะเดินตามไปขึ้นรถภาพเหตุการณ์บาดตาบาดใจเมื่อกี้ยังคงวกวนอยู่ภายในหัว
@ห้างสรรพสินค้า
เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงข้าวฟ่างก็ยังคงลากเวหาเข้าไปเลือกซื้อเสื้อผ้าร้านนู้นร้านนี้ตามอำเภอใจโดยที่เวหาไม่ปริปากบ่นซักคำ แต่คนที่หอบข้าวของมากมายเต็มร่างแทบจะเดินไม่ไหวของพะรุงพะรังเต็มร่างเล็ก..
"เวข้าวอยากกินบิงซูววว เราไปกินกันนะคะ~"
"หื้มม ไปกินไอติมอยู่ห้องดีกว่าไหม อร่อยกว่าเยอะเลย" มุมปากกระตุกยิ้มพอใจเมื่อได้แกล้งแฟนสาวให้หน้าแดงเล่นๆ
ปึก !
"เวพูดอะไรเนี้ยย อายยูหมดแล้ว"
"ยูมันไม่อะไรอยู่แล้ว จริงไหมยู?"
"อืม กูไปรอที่รถนะ" พูดจบร่างเล็กก็รีบเดินออกมาจากที่ตรงนั้น ที่ที่ไม่ใช่ของตัวเอง..
ยูริรีบสับขาเดินให้เร็วที่สุด เธอมุ้งหน้าเข้าไปยังห้องนํ้าชั้นล่างของห้าง ประตูห้องสุดท้ายถูกเปิดออกมือบางปิดชักโครกลงแล้ววางของเอาไว้ เธอปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น...
มันอึดอัดในใจแทบระเบิด..
"...." ใบหน้าหวานเชิดขึ้นบนเพดาน ปล่อยนํ้าตาให้รินไหลอาบแก้มเนียนใส มือบางยกขึ้นปิดปากกลั้นเสียงร้องให้ ดวงตากลมโตคลอเบ้าไปด้วยหยาดนํ้าตาเหตุการณ์เก่าๆแทรกเข้ามาในหัว..
'มึงชอบผู้หญิงแบบไหนว่ะ..' ร่างเล็กที่ยืนเหม่อมองไปยังวิวทิวทัศน์บนชั้นบนสุดของดาดฟ้าตึกเรียนเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่สุดในกลุ่มออกไป..
'สเป็คกูก็ข้าวฟ่างยังไงล่ะ ตัวเล็ก น่ารัก อ่อนหวาน ยิ้มเก่ง ขี้อ้อน กูแพ้เต็มๆ' ใบหน้ายามเอ่ยถึงผู้หญิงที่รักบ่งบอกว่ามีความสุขขนาดไหน ทำเอาคนถามถึงกลับนิ่งเงียบมันจุกอยู่ในใจ..
'อ๋อ'
'....'
'แล้วผู้หญิงแบบไหนที่มึงจะไม่มีทางชอบเลยล่ะ?'
'ก็ตรงข้ามกับข้าวฟ่างทุกอย่างไง ถ้าแบบมึงให้กูเอามาทำเมียก็ไม่ไหว' เวหาพูดพลางกลั้วขำออกมา แต่คนที่โดนพูดแซว กลับเจ็บขึ้นมาจริงๆเหมือนสิทธ์ของเธอมันเป็นมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว..
'อ่อ มึงนี้เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ'
'ก็อยู่แล้ว ถ้ากูได้รักใครแล้วก็จะไม่มีวันเปลี่ยนใจ..' ยิ่งถามยิ่งหน่วงอยู่ในใจ ยูริผลักร่างหันหลังให้กำแพงดาดฟ้าแทน ลมเย็นๆสะบัดกระทบใบหน้าให้แห้งเผือดภายในพริบตาก่อนที่หยาดนํ้าสีใสจะหยดแหมะลงบนพื้น..
'ผู้หญิงคนนั้นโชคดีจริงๆ'
'อิจฉาแฟนกูละสิ ที่ได้แฟนเป็นกู' เวหาพลิกร่างกลับมาอยู่ท่าเดียวกันแบบเธอ
'หลงตัวเอง'
'ใช่หรอ' เวหาจับมือบางขึ้นมาบีบเล่นอย่างนึกสนุก ส่งผลให้ยูริเบือนหน้าหันไปมองไม่เข้าใจนักแต่เธอก็ปล่อยให้เวหาบีบมือเธอเล่นอยู่แบบนั้นตามอำเภอใจ
ครืด~ ครืด~ จู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็สั่นเครือขึ้นมา มือบางรีบปาดนํ้าตาออกออกก่อนจะล้วงหยิบมันขึ้นมาดูรายชื่อบนหน้าจอ
'ไอ้เว'
"อะไร" เสียงแผ่วเบากรอกลงไป ยูริพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น มือบางซับคราบเปียกชื้นตามใบหน้าออกแล้วหันกลับไปหิ้วของแล้วเดินออกมาจากห้องนํ้า
(มึงอยู่ไหน)
"กูมาเข้าห้องนํ้า เสร็จแล้วพอดี"
(เออรีบมา จะกลับแล้วข้าวฟ่างเพลีย)
"เออเดี๋ยวไป"
ตี้ด ! สิ้นสุดการคุย ร่างเล็กเดินมายังโรงรถก็พบเข้ากับสองร่างของคู่รัก
"มึงช้าจังว่ะ"
"..."
"เอาน้าา ยูมาช้าแค่แปปเดียวเองเราไปกันเถอะ ป่ะยู" เวหายอมเงียบ ร่างหนาเดินอ้อมขึ้นไปนั้งยังอีกฝั้ง ตามมาด้วยข้าวฟ่างและยูริที่ขึ้นไปนั้งประจำที่ ยูรินั้งนิ่งเงียบราวกับคนไร้ความรู้สึกเธอเหม่อมองนอกหน้าต่างอยู่ตลอดเวลามาหลายนาที..
"ยูจะให้ไปส่งหอเลยไหม"
"ไปสนามแข่งไอ้ราม"
"ขยันจังนะ วันเรียนก็ไม่เว้น" เวหาที่ได้ยินคำตอบจากยูริเอ่ยขึ้นเขาขัดหูขัดตากับความขยันเกินเหตุของเธอ
"ก็มีงานให้ทำอยู่ที่เดียว" เพราะที่อื่นอยู่ๆเธอก็ถูกไล่ออกซะงั้น
"ยูซ่อมรถเป็นด้วยหรอ"
"นิดหน่อย"
"ยูมันมีรุ่นพี่คนสนิทคอยสอนอยู่หน่ะ.." ดวงตาคมกริบเหลือบมองคนหลังเบาะ
"หื้มม ผู้ชายหรือผู้หญิงละเนี้ย"
"ผู้ชาย"
"ทำไมยูไม่จีบเลยล่ะ ข้าวอยากให้ยูมีแฟนเราจะได้ไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นคู่ยูมากับพวกเราคงเหงาแย่"
"จะมีใครมาชอบคนแบบฉัน" เธอพูดออกมา คำพูดของเวหาวกเข้ามาในหัว
"เอางี้ไหม เดี๋ยวข้าวพาแต่งตัวสวยๆยูไม่โสดแน่คราวนี้" คำพูดของแฟนสาวส่งผลให้เวหาเริ่มไม่เห็นด้วย ลำพังไม่แต่งตัวผู้ชายยังมองขนาดนี้ ถ้าขืนลุกขึ้นมาแต่งตัวเหมือนวันนั้นขึ้นมาล่ะก็ผู้ชายคงตามมาจีบเป็นแถว
ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ..
"ข้าวจะลงที่คอนโดเลยไหม"
"อ่า ใช่ค่ะ"
"เดี๋ยวเวต้องไปส่งยูที่สนามแข่งแล้วก็มีทำธุระต่อนะ"
"โอเครรรร" ไม่นานรถก็เลี้ยวเข้ามาจอดหน้าคอนโดของข้าวฟ่าง
"บายนะคะ"
"บายครับ" ร่างเล็กของข้าวฟ่างลงจากรถไป เธอยืนรอให้รถของเวขับหายออกไปจนสุดสายตาจึงเดินกลับเข้าไปในห้อง
18:30 AM.
"วันนี้ก็มีเพียงเท่านี้ อาจารย์หวังว่าสิ่งที่เรียนไปทุกคนจะจำได้นะ แล้วก็ขอให้โชคดีกับคะแนนสอบ" พูดจบอาจารย์ประจำคลาสเรียนก็เดินออกจากห้องไป นักศึกษาทุกคนจึงต่างพากันถอนหายใจออกมาเมื่อหลุดพ้นจากการเรียนที่แสนจะปวดหัว
พิมเสนเก็บข้าวของแล้วรีบเดินออกมาจากห้อง เพราะเธอต้องไปจัดการเรื่องย้ายห้องพักเพราะอยู่ห้องเดิมความทรงจำเดิมๆและความหวาดหวั่นก็ทำให้เธอไม่กล้าอยู่คนเดียว แต่เมื่อเดินออกมาถึงหน้าตึกก็ต้องหยุดชะงักเมื่อพบเข้ากับร่างของผู้หญิงสามคนที่ยืนดักรออยู่ก่อน..
"เธอคือพิมเสนใช่ไหม?" หนึ่งมาสามคนเอ่ยคน
"พวกเธอมีอะไรรึป่าว"
"ป้าวแค่ได้ยินข่าวว่าเธอเป็นแฟนไหม่พระรามเลยอยากมาเตือน" ใบหน้าหวานเอียงคอด้วยความงุนงง
"ฉันไม่ได้เป็นแฟนกับเขา เราเพื่อนกัน ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อนนะ" พิมเสนทำท่าทีจะเดินผ่านพวกเธอไปแต่คำพูดที่ได้ยินก็ทำให้เธอหยุดชะงักทันที..
"ถ้าไม่อยากเสียใจเหมือนที่พวกฉันเคยเจอ รียถอยห่างจากนายนั้นเถอะ...ฉันเตือนในฐานะผู้หญิงด้วยกัน.."
"แต่ถ้าเธอไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร ไม่เจอกับตัวเองคงไม่รู้ ไปเถอะพวกมึง.." สามสาวเดินผ่านร่างเธอไป
พิมเสนยืนนิ่ง ทำไมเธอจะไม่เชื่อในคำเตือนของผู้หญิงพวกนั้นกันล่ะในเมื่อมันเคยเกิดขึ้นกับคนไกล้ตัวเธอแล้ว แต่มันจะเลวร้ายขนาดนั้นกันเลยหรอ..
ถึงขนาดมีคนมาเตือน..?
.
.
.
กฎของการเป็นเพื่อนกัน คือห้ามรู้สึกเกินเพื่อน..
