Chapter 3 แค่คนคุย 50%
ตั้งสติสิอัน ตั้งสติ!
นี่เพื่อนไง แล้วเขาก็มีเจ้าของแล้วด้วย
จะมาใจสั่นกับรักแรกอีกไม่ได้นะ...
ถึงจะฐานะแตกต่างกัน แต่เวกัสกับเธอเติบโตมาในละแวกบ้านใกล้กัน เรียนโรงเรียนเดียวกันมาตั้งแต่มัธยมต้น เป็นโรงเรียนรัฐบาลชื่อดัง พอมาเรียนมหาวิทยาลัยก็สอบเข้าที่เดียวกันอีก
เธอเริ่มมองเขาเป็น ‘ผู้ชายคนหนึ่ง’ ตอนช่วง ม.3 แต่เพราะเป็นความรักที่โคตรเป็นไปไม่ได้เลย เพราะสนิทกันมานาน เล่นหัวกันจนอีกฝ่ายคงไม่มองว่าเธอเป็นผู้หญิงด้วยซ้ำ หญิงสาวจึงพยายามหักห้ามใจ ค่อย ๆ ตัดใจและมองเขาเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งมาตลอด
ทำยาก แต่อันนาคิดว่าเธอทำได้
เวลาผ่านมาจนเธอขึ้น ม.6 พี่โจ้ รุ่นพี่ที่เรียนจบไปแล้ว ขอเธอเป็นแฟน เขาเป็นผู้ชายหน้าตาดี เป็นนักกีฬาโรงเรียน และกำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยชื่อดัง สมัยอยู่โรงเรียนเดียวกัน เขาเป็นคนดังของโรงเรียนเลยละ ถึงอันนาจะไม่รู้สึกหวั่นไหวอะไรเลย แต่เพราะเขาหล่อ เธอจึงคิดว่าถ้าได้ลองคบกัน เธอจะรักเขาได้ง่าย ๆ
ช่วงมีแฟนก็ดี หัวใจมันหวิว ๆ แต่ก็ไม่รักอยู่ดี...
คงเพราะไม่รักนั่นแหละ เมื่อคบกันเป็นปี แล้วพี่โจ้ขอมีอะไรกับเธอ อันนาจึงขอแยกทางกับเขา
เธอพังมากตอนเลิกกับพี่โจ้... เพราะเธอสงสารเขา ยิ่งเขาเป็นคนดี เข้าใจเหตุผลของเธอ เข้าใจว่าไม่รักคือไม่รัก อันนาก็ยิ่งรู้สึกผิดที่เหมือนเล่นกับหัวใจเขา ทำเขาเสียเวลามาตั้งนมนาน
ช่วงนั้นเธอเมาเหมือนหมา แล้วในขณะเดียวกัน เวกัสก็มีแฟนจริงจังพอดี
อันนาจึงเพิ่งได้รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอไม่เคยตัดใจจากเวกัสได้เลย...
แต่เธอจะงมงายรักเขาแบบนี้ไม่ได้ มันเจ็บ... หญิงสาวจึงลองเล่นทินเดอร์ เผื่อจะมีรักใหม่ซ่อมใจจากอาการอกหัก และอาการพังที่ทำให้พี่โจ้เสียใจด้วย แล้วเธอก็ได้คุยกับพี่คิงหนุ่มฮอตของมหาวิทยาลัย
ครั้งนี้อันนาคิดว่าจะไม่รีบ ถ้าไม่รู้สึกอะไร เธอจะไม่คบกับเขา เหมือนที่ทำกับพี่โจ้
แต่ก็เนี่ย คุยกันมาจะเป็นปีแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพี่คิงก็ยังไม่คืบหน้า เขาทักมาทุกเช้า บอกราตรีสวัสดิ์ทุกคืน วิดีโอคอลคุยอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็ไม่ชวนเธอไปเที่ยว ไปเดต เจอกันในมหาวิทยาลัยก็แค่ทัก หยุดคุยด้วยแป๊บ ๆ เขาก็บอกว่าต้องไปก่อน รีบไปเรียนทุกที
ไม่ต้องพูดถึงความรู้สึกของเธอเลย เอาเป็นว่าคุยกันมานานขนาดนี้แล้วเนี่ย สถานะของเธอกับพี่คิงยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรดูจะพัฒนาได้
มันก็เกินไปปะ?
หยุดอยู่ ‘แค่คนคุย’ มานานขนาดนี้เนี่ย!