อาหารอร่อย
"ทำไมใช้เวลานานจังคะพ่อ นี่มันสองวันแล้วนะคะ อาจารย์ของพ่อยัง ..."
"น้องดาลูก...ใจเย็นๆ ของอย่างนี้มันต้องใช้เวลา แค่สองวันเอง ..."เสี่ยดิลกรีบพูดแทรกลูกสาวขึ้น ก่อนที่ลูกสาวจะพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมา
ลูกสาวมาหาเขาที่คอนโดส่วนตัว ในสองวันต่อมา หลังจากที่ลูกสาวของเขาอาบนํ้าในอ่างอาบนํ้าเสร็จ อาจารย์ทองอินก็ให้ลูกสาวของเขากลับบ้านไปเลย แล้วหลังจากนั้น อาจารย์ทองอินก็ให้ลูกศิษย์ของตัวเอง เข้าไปเอานํ้าคราบไคลของลูกสาวเขา ที่ตกตะกอนแล้ว เอาไปทำพิธี โดยที่อาจารย์ทองอินกับลูกศิษย์ พักที่คอนโดกับเขาด้วย จนครบสองวัน ถึงได้ให้ลูกสาวของเขากลับมาที่คอนโดอีกครั้ง
"วัยรุ่นสมัยนี้ใจร้อนกันจริงๆ หึหึ ..."อาจารย์ทองอินเดินออกมาจากห้องพัก ในมือก็ถือบางอย่างออกมาด้วย
"นั่นคืออะไรคะ ..."นาดาถามอาจารย์ทองอิน โดยที่สายตาของเธอ มองไปที่มือของอาจารย์ทองอินอย่างสนใจ ว่ามีอะไรอยู่ในมือ
"นั่งคุยกันก่อนหนูนาดา...ใจเย็นๆ ..."อาจารย์ทองอินบอกกับนาดาอย่างใจเย็น ก่อนที่เขาจะเดินไปนั่งที่โซฟาตัวเดี่ยว ที่ตรงข้ามกับที่นาดายืนอยู่
"ก็ได้ค่ะ ..."นาดายอมนั่งลงที่โซฟาอย่างว่าง่าย เพราะว่าพ่อของเธอ มองด้วยสายตาที่ปรามเธออยู่
"อ่ะนี่...เอาผงที่อยู่ในขวดนี้ ใส่ลงในนํ้าให้คนรักของหนูดื่ม หรือใส่ลงในอาหารให้เขากิน แล้วบริกรรมคาถานี้ ก่อนที่จะใส่ผงนี้ลงไปในนํ้าหรือลงในอาหาร จำเอาไว้...ใส่แค่พอประมาณ เอาให้กินทีละหน่อย จะได้ไม่มีใครสงสัย เวลาที่อาการของคนรักของหนูเปลี่ยนไป ..."อาจารย์ทองอินบอกนาดา พร้อมกับยื่นขวดที่มีผงสีขาวขุ่นบรรจุอยู่ รวมทั้งกระดาษแผ่นเล็กๆให้กับนาดาไปด้วย
"ผงนี้จะไม่เป็นอันตรายกันขันทองใช่ไหมคะ ..."นาดาพิจารณาผงสีขาวขุ่นที่อยู่ในขวด ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นไปสบตากับอาจารย์ทองอิน แล้วถามด้วยนํ้าเสียงที่เป็นห่วงคนที่เธอรัก
"ไม่ต้องห่วงหรอกหนูนาดา ไม่มีสารอันตรายอะไร ..."อาจารย์ทองอินบอกนาดาเสียงเรียบเรื่อย
"ค่ะ ดาหวังว่าจะสำเร็จนะคะ ..."นาดาหันไปสบตากับพ่อแล้วพูดขึ้น ก่อนที่เธอจะขอตัวกลับไป เพราะเธออยากรู้ผลแล้ว ว่าจะสำเร็จไหม
...
"แม่ครับ...ไหนแม่บอกว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องชีวิตคู่ของผมไงครับ ..."ขันทองถามด้วยนํ้าเสียงที่ไม่พอใจ ที่แม่มาขอให้เขาออกไปกินข้าว ที่ร้านอาหารที่แม่ของเขานัดกับแม่ของนาดาเอาไว้
"ขันทอง...แม่ขอ เพื่อนแม่บอกว่า ขอเป็นครั้งสุดท้าย แล้วจะไม่มาวุ่นวายกับลูกอีก เห็นแก่แม่เถอะนะ ..."ศุจีขอร้องลูกชายด้วยสีหน้าที่ลำบากใจ เธอก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะว่าเพื่อนของเธอขอร้องมา และขอเป็นครั้งสุดท้าย จะไม่มาวุ่นวายเรื่องนี้อีก เพื่อนของเธอบอกว่าสงสารลูกสาว เพราะว่าลูกสาวมาร้องห่มร้องไห้ ขอให้แม่ช่วย
"ไม่ครับ แม่ก็รู้นะครับ ว่าผมไม่อยากเห็นหน้าของผู้หญิงคนนั้น ..."ขันทองปฏิเสธท่าเดียว เขาเห็นใจแม่ แต่ถ้าเขายอมครั้งนี้ ก็ต้องมีครั้งต่อไปอีกแน่นอน
"แค่กินข้าวอิ่ม แล้วขันทองกลับก่อนได้เลย แม่ไม่ว่า...นะลูกแม่ขอ ..."ศุจีขอร้องลูกชายเสียงอ้อน
"ก็ได้ครับ แล้วจะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้วนะครับ และถ้าผมรู้สึกไม่ดี ผมขอกลับก่อนนะครับ แม่จะมาว่าผมเสียมารยาทไม่ได้นะครับ ..."ขันทองยอมไปในที่สุด เพราะว่าเขาทนที่แม่อ้อนเขาไม่ไหว
"จุ๊บ ขอบใจมากจ้ะลูกรักของแม่ งั้นขันทองรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะลูก แล้วเราออกไปกันเลยนะ แม่ไม่อยากให้เพื่อนของแม่รอนานจ้ะ แม่ไปแต่งตัวก่อนนะ ..."ศุจีบอกลูกชายด้วยนํ้าเสียงที่ดีใจ ก่อนที่เธอจะรีบออกจากห้องของลูกชายมา เพื่อที่เธอก็จะรีบไปแต่งตัวบ้าง
...
"น้องดาแน่ใจนะลูก ว่าจะได้ผล แม่ไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องพวกนี้เลย ..."วัลภาถามลูกสาวด้วยนํ้าเสียงที่ไม่ค่อยจะมั่นใจ กับสิ่งที่ลูกสาวกำลังจะทำนัก เพราะเธอไม่เชื่อว่ามันจะช่วยได้จริง ในขณะที่ตอนนี้ เธอกับลูกสาวนั่งรอเพื่อนของเธอ กับลูกชายของเพื่อนในร้านอาหารที่ได้นัดกันเอาไว้ ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง
"ดาก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะแม่ ก็ต้องลองดู แล้วดาก็จะทำทุกทาง เพื่อให้ขันทองมาเป็นของดาให้ได้ค่ะ แม่คะ...แม่รอดาอยู่ที่โต๊ะก่อนนะคะ เดี๋ยวดาจะไปห้องนํ้าค่ะ ..."นาดาสบตากับแม่อย่างรู้กัน ก่อนที่เธอจะลุกมาจากโต๊ะ ตามที่เธอบอกกับแม่ไป เธอไม่ได้ไปตัวเปล่า เธอหยิบกระเป๋าถือของเธอไปด้วย
"น้องดา...กลับมาเร็วๆนะลูก เพื่อนของแม่บอกว่ามาถึงแล้ว ตอนนี้กำลังจอดรถอยู่ ..."วัลภาบอกลูกสาวด้วยนํ้าเสียงที่ตื่นเต้น
"ค่ะแม่ ดาไปแป๊บเดียวค่ะ ..."นาดาหันไปตอบแม่ของเธอ ก่อนที่เธอจะรีบเดินไปเข้าห้องนํ้า ที่มีอยู่ภายในร้านอาหาร
"เฮ้อ...!! ..."นาดาถอนหายใจออกมาด้วยความตื่นเต้น หลังจากที่เธอเข้ามาในห้องนํ้าแล้ว ในห้องนํ้าไม่มีคนอยู่เลย มีเธอเพียงคนเดียวที่อยู่ในห้องนํ้าแห่งนี้ มันเป็นห้องนํ้าที่อยู่ในห้องอาหารที่มีระดับ ทำให้ห้องนํ้าไม่มีคนพลุกพล่าน มือของเธอสั่นเทาเล็กน้อย เวลาที่เธอหยิบขวดนํ้าออกมาจากกระเป๋าถือของเธอ พร้อมด้วยขวดที่บรรจุผงสีขาวขุ่น ที่ได้มาจากอาจารย์ทองอิน ถึงเธอจะไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่ แต่เธอก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้
นาดาหยิบกระดาษออกมาจากกระเป๋า แล้วคลี่กระดาษออกมาด้วยมือที่สั่นเทาเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเริ่มบริกรรมคาถา หลังจากที่เปิดขวดที่มีผงสีขาวขุ่นอยู่ในนั้นแล้ว
"โอมจิตคิดถึงลำโพง กูจะเสกให้ช้างกินช้างก็ลืมโขลง กูจะเสกให้โขลงกินโขลงก็ลืมไพร ขันทองอยู่มิได้ร้องไห้มาหากู โอมสวาหะ ..."นาดาบริกรรมคาถาจนครบสามจบ ก่อนที่เธอจะค่อยๆเทผงสีขาวขุ่นลงไปในขวดนํ้าที่เธอพกมาเอง แล้วรีบปิดฝาของขวดนํ้ารวมทั้งขวดผงสีขาวขุ่น ที่ได้มาจากอาจารย์ทองอินด้วย ก่อนที่เธอจะรีบเดินออกจากห้องนํ้ามา
"น้องดาเรียบร้อยแล้วใช่ไหมลูก ..."วัลภาถามลูกสาวด้วยนํ้าเสียงที่ตื่นเต้น หลังจากที่ลูกสาวของเธอเดินออกมาจากห้องนํ้าแล้ว
"ค่ะแม่ แก้วนี้ใช่ไหมคะของขันทอง ..."นาดาถามแม่ ก่อนที่เธอจะเทนํ้าที่มีอยู่ในแก้ว ลงในกระถางต้นไม้ ที่อยู่ทางด้านหลังของเธออย่างรวดเร็ว หลังจากที่แม่ของเธอพยักหน้าให้เธอแล้ว แล้วเธอก็เทนํ้าที่อยู่ในขวดที่เธอเตรียมเอาไว้ใส่แทน แล้วรีบเอาไปวางตรงที่ขันทองจะนั่ง ระหว่างที่เธอไม่อยู่ แม่ของเธอได้สั่งนํ้าเอามาไว้รอแล้วสี่ที่ รวมทั้งสั่งข้าวมารอด้วยเลย ตามที่ได้ตกลงกันก่อนที่จะออกมาจากบ้านแล้ว
"แล้วอาหารล่ะลูก...จะทำยังไง เพราะว่าทุกคนก็กินด้วยกันนะลูก ..."วัลภาถามขึ้นด้วยนํ้าเสียงที่ตกใจเล็กน้อย หลังจากที่เธอเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้
"ใส่ได้ค่ะแม่ เพราะว่าดาพูดแค่ชื่อของขันทอง แต่ถ้าแม่ไม่สบายใจ ดาจะแอบใส่ที่ข้าวของขันทองอย่างเดียวก็พอค่ะ ..."ไม่พูดเปล่า นาดาหยิบขวดที่บรรจุผงสีขาวขุ่นขึ้นมาแล้วเปิดผา ก่อนที่เธอจะบริกรรมคาถาอย่างรวดเร็ว เพราะว่าเธอจำได้ขึ้นใจแล้ว เธอทบทวนมาจากที่บ้านหลายรอบแล้ว แต่ที่ห้องนํ้า ที่เธอต้องอ่านโพยไปด้วย เพราะเธอตื่นเต้นและกลัวที่จะพลาด แต่ตอนนี้สถานการณ์มันบังคับให้เธอต้องรีบทำ เพราะไม่อย่างงั้น ขันทองกับแม่ของขันทองอาจจะมาเจอก็ได้ พอเธอบริกรรมคาถาเสร็จ เธอก็เทลงไปในจานข้าวของขันทอง ซึ่งถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็จะมองไม่เห็นเลย และผงสีขาวขุ่นละลายทันทีที่เจอข้าวร้อนๆ
"ใส่หมดขวดเลยเหรอ…!! มันไม่เยอะไปเหรอลูก ..."วัลภาถามลูกสาวด้วยนํ้าเสียงที่ตกใจ เพราะว่านาดาเทผงสีขาวขุ่นลงไปในจานข้าวจนหมดขวดเลย
"ใส่หมดเลยค่ะแม่ นาดาอยากเห็นผลไวๆค่ะ ..."นาดาบอกกับแม่ของเธอพร้อมกับอมยิ้มที่มุมปากไปด้วยเล็กน้อย
"ตัวเอง...ทางนี้ มานั่งกับเรามา ..."วัลภาทักขึ้นทันที ที่เธอเห็นเพื่อนของเธอกับลูกชายเดินเข้ามาในร้าน ไม่ทักเปล่า เธอลุกไปจูงมือของเพื่อนมานั่งที่ข้างๆเธออย่างเอาใจ
"คุณป้าศุจี สวัสดีค่ะ ขันทองขอบคุณนะที่ยอมมาทานข้าวกับดา ..."นาดายกมือไหว้แม่ของขันทองด้วยกิริยาที่สวยงาม ก่อนที่เธอจะทักขันทองด้วยรอยยิ้มที่สดใส ในขณะที่ขันทองแค่พยักหน้าให้เธอเท่านั้น
"สวัสดีจ้ะน้องดา ..."แม่ของขันทองรับไหว้นาดา ก่อนที่เธอจะนั่งลงตามที่เพื่อนของเธอชวน
"สวัสดีครับ ..."ขันทองยกมือไหว้แม่ของนาดาด้วยท่าทางที่ปกติ ก่อนที่เขาจะนั่งลง เขาทำหน้าเรียบเฉย ไม่ได้ยิ้มหรือแสดงความไม่พอใจอะไรออกมา
"สวัสดีจ้ะ ขันทองหิวไหมลูก ป้าสั่งอาหารมารอแล้ว ดูสิว่าถูกใจไหม ..."แม่ของนาดาถามขันทองอย่างเอาใจ และเธอมั่นใจว่าทุกเมนู ขันทองต้องชอบ เพราะว่าเธอได้ถามจากแม่ของขันทองมาแล้ว
"ชอบครับ ขอบคุณครับ ..."ขันทองยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณแม่ของนาดาตามมารยาท
"ลงมือทานกันเลยไหม ตัวเองกับลูกคงจะหิวแล้ว ..."วัลภาถามเพื่อนอย่างเอาใจ
"ขอบคุณมาก อุตส่าห์สั่งอาหารมารอเลย น่ารักจริงๆ ..."ศุจีพูดกับเพื่อนด้วยนํ้าเสียงที่เกรงใจ
"งั้นลงมือทานกันเลยนะ ขันทองทานเยอะๆนะลูก ..."วัลภาบอกขันทองอย่างเอาใจ ในขณะที่นาดาแอบชำเลืองมองขันทองไปด้วยอย่างลุ้นๆ เธอไม่ได้พูดหรือตักอาหารให้ขันทอง อย่างที่ควรจะเป็น เธอทำเป็นเฉยสงวนท่าทีของตัวเองเอาไว้ เพราะเธอกลัวว่าขันทองจะรำคาญเธอ แล้วกลับบ้านไปก่อนที่จะได้กินอะไร
"ขอบคุณครับ ขันทองพยักหน้าขอบคุณแม่ของนาดา ก่อนที่เขาจะกินข้าวเงียบๆไม่ได้คุยกับใคร เพราะเขาอยากรีบๆกิน แล้วก็รีบกลับ
"ดาว่าอาหารของร้านนี้อร่อยมากเลยนะคะ ..."นาดาชวนคุย โดยที่เธอไม่ได้เจาะจงว่าจะคุยกับใคร แต่เธอก็ลุ้นกับทุกคำที่ขันทองกินเข้าไป รวมกับเวลาที่ขันทองดื่มนํ้าไปด้วย
"อร่อยจริงๆน้องดา ป้าว่าอร่อยทุกเมนูเลย เป็นที่น้องดาเข้าใจเลือกเมนูด้วย ป้าชอบทุกเมนูเลยจ้ะ ..."ศุจีพูดกับนาดาด้วยนํ้าเสียงที่อ่อนโยน เธอแอบชำเลืองมองหน้าของลูกชายเล็กน้อย เธอดูว่าลูกชายอยู่ในอารมณ์ไหน พอเธอเห็นลูกชายนั่งกินข้าวเงียบๆเธอก็สบายใจ
"ขันทอง...ถ้าทานข้าวอิ่มแล้วไปไหนต่อไหมลูก หรือว่าจะกลับเลย ..."วัลภาถามขันทอง เธอถามเสียงเรียบเรื่อย เหมือนกับชวนคุยมากกว่า ไม่ได้ถามให้ขันทองรู้สึกอึดอัดใจกับคำถามของเธอ
"ทานเสร็จแล้วผมขอตัวกลับเลยนะครับ ผมมีเอกสารที่โชว์รูมที่จะต้องไปจัดการครับ ..."ขันทองบอกกับแม่ของนาดาด้วยนํ้าเสียงที่สุภาพ เพราะเขามากินข้าวครั้งนี้ นาดากับแม่ไม่ได้ยุ่งกับเขา หรือทำกิริยาให้เขารำคาญเลย เขาก็เลยสบายใจที่จะอยู่ด้วยจนกินข้าวอิ่ม ไม่ได้ลุกหนีไปก่อนอย่างที่เขาตั้งใจเอาไว้
"ดาก็จะกลับเลยนะคะ ดามีนัดกับเพื่อนจะทำงานส่งอาจารย์กันค่ะ ..."นาดาบอกกับทุกคนด้วยนํ้าเสียงที่สดใส โดยที่เธอไม่ได้เจาะจงว่าบอกกับใครเป็นพิเศษ
"น้องดาเป็นเด็กดีมากๆเลยลูก ..."ศุจีชมนาดาพร้อมกับแอบชำเลืองมองหน้าของลูกชายไปด้วย เพราะว่าลึกๆ เธอก็อยากได้นาดามาเป็นลูกสะใภ้อยู่ดี
"ขอบคุณค่ะคุณป้า ขนมหวานมาแล้ว ทานขนมหวานก่อนแล้วค่อยกลับกันนะคะ ..."นาดาบอกกับทุกคน พร้อมกับยิ้มไปด้วยอย่างอารมณ์ดี หลังจากที่เธอเหลือบไปเห็น พนักงานเสิร์ฟยกถาดของหวานออกมาพอดี ของหวานที่เธอสั่งเอาไว้รอแล้ว และพนักงานจะออกมาเสิร์ฟ หลังจากที่เก็บโต๊ะอาหารคาวแล้ว
"ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ผมไม่ทานของหวาน ..."ขันทองบอกกับทุกคน ก่อนที่เขาจะลุกขึ้น
"ขอบคุณมากนะขันทอง ที่มาทานข้าวกลางวันด้วย ..."นาดาพูดกับขันทอง ก่อนที่ขันทองจะเดินออกไป โดยที่เธอไม่ได้เซ้าซี้อะไรขันทองอีก เธอหันไปคุยกับแม่ของเธอและแม่ของขันทองต่อ ในขณะที่ขันทองแค่พยักหน้าให้ แล้วเดินออกไปเลย
"ตัวเอง...นี่วันเดือนปีเกิดของขันทอง ที่ตัวเองขอ ..."ศุจีพูดพร้อมกับยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆให้กับเพื่อนของเธอ เพราะว่าเพื่อนของเธอบอกว่า จะเอาดวงของทั้งคู่ไปดู ว่าทั้งคู่เป็นเนื้อคู่กันไหม
"ขอบคุณมากที่ตัวเองไม่ลืม แล้วเรื่องวันนี้ เราก็ขอบคุณมากๆนะ ที่ตัวเองพาลูกชายมาได้ ..."วัลภาพูดกับเพื่อน ก่อนที่เธอจะสบตากับลูกสาวของตัวเองอย่างรู้กัน
"ดาขอบคุณคุณป้ามากนะคะ ที่เอ็นดูดา ..."นาดาพูดพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ แม่ของขันทองด้วยท่าทางที่นอบน้อม และประจบเอาใจเต็มที่
"ไม่เป็นไรเลยน้องดา ป้าเต็มใจที่สุดเลยจ้ะ ..."แม่ของขันทองรับไหว้นาดาพร้อมกับยิ้มกว้างไปด้วย อย่างพอใจในตัวของนาดา ก่อนที่ทั้งหมดจะคุยกันไปเรื่อยๆ แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน เมื่อถึงเวลาที่สมควรกลับแล้ว