ไม่รู้อนาคต
"อาจารย์ครับ นี่คือนาดา...ลูกสาวคนเดียวของผมครับ ..."เสี่ยดิลิกแนะนำลูกสาวคนเดียวของเขา ให้กับอาจารย์ทองอินได้รู้จัก ในขณะที่พวกเขาอยู่ในคอนโดส่วนตัวของเสี่ยดิลกเอง เขานัดอาจารย์ทองอินให้มาหาเขาที่คอนโดของเขา เพราะว่าเขายังไม่อยากออกไปปรากฏตัว ให้คนเห็นเขามากนัก ในขณะเดียวกัน เขาก็ส่งคนของเขาให้สะกดรอยตามตรีภพด้วย เขาไม่ได้สั่งให้คนของเขาเก็บตรีภพ เพราะว่าเขาต้องการตัวของตรีภพตัวเป็นๆ เพื่อที่จะพาตรีภพไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพราะว่าสารวัตรกรณ์ต้องการจัดการกับตรีภพด้วยตัวเอง รวมทั้งเขาด้วย เขาคิดว่า…ความตายมันง่ายไปสำหรับคนอย่างตรีภพ
"พ่อคะ...พ่อจะทำอะไร...!! ..."
"จุ๊ๆ ใจเย็นๆน้องดา นี่คืออาจารย์ของพ่อ อาจารย์ทองอิน ไหว้อาจารย์ของพ่อก่อนลูก แล้วเราค่อยมาคุยกัน ว่าจะช่วยลูกได้ยังไง ..."เสี่ยดิลกบอกลูกสาว หลังจากที่ลูกสาวนั่งนิ่งอยู่ ไม่ยอมยกมือไหว้อาจารย์ของเขาสักที
"สวัสดีค่ะอาจารย์ ..."นาดายกมือไหว้อาจารย์ของพ่อ ด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยจะมั่นใจ ในตัวของอาจารย์ของพ่อสักเท่าไหร่ เพราะว่าอาจารย์ของพ่อ แต่งตัวด้วยชุดเสื้อผ้าธรรมดา เหมือนชาวบ้านทั่วไป ไม่ได้ดูภูมิฐานหรือน่าเคารพเลย ในความรู้สึกของเธอ
"หึหึ ..."อาจารย์ทองอินหัวเราะในลำคอเบาๆ หลังจากที่เขาเห็นแววตาที่ไม่เชื่อถือในตัวของเขา จากนาดาแล้ว
"ก็ตามที่ผมได้คุยกับอาจารย์นั่นแหละครับ อาจารย์พอที่จะมีวิธีช่วยลูกสาวผมได้ไหมครับ ..."เสี่ยดิลกถามอาจารย์ทองอิน ด้วยนํ้าเสียงที่จริงจัง
"มีสิ ต้องการขนาดไหนล่ะ หึหึ ..."อาจารย์ทองอินมองหน้าของนาดาแล้วถามขึ้น ก่อนที่เขาจะหัวเราะในลำคอเบาๆ เพราะว่านาดายังมองเขาเหมือนไม่เชื่อในตัวเขา และไม่มีความเคารพเขาจากแววตาที่มองมาเลย
"ขนาดไหน...? หมายความว่ายังไงคะ ..."นาดาขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย
"หนูต้องการให้คนที่หนูรัก รักหนูตอบขนาดไหนล่ะ รักหลงจนไม่กลับบ้าน รักจนอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่ได้เห็นหน้าของหนู หรือมาหาหนูไม่ได้ ได้มาเห็นหลังคาบ้านของหนูก็ยังดี ต้องการขนาดไหนล่ะ ..."อาจารย์ทองอินขยายความขึ้น เพราะว่านาดาทำหน้างงไม่เข้าใจเลยสักนิด ว่าพ่อของตัวเอง พาตัวเองให้มาเจอเขาทำไม
"พ่อคะ...มันคืออะไรคะ ดาไม่เข้าใจ ..."นาดาหันไปถามพ่อ เพราะเธอก็ยังไม่เข้าใจที่อาจารย์ของพ่อสื่ออยู่ดี ถึงจะอธิบายแล้วก็เถอะ
"ฮ่าๆ เด็กสมัยใหม่สินะ ถึงไม่รู้เรื่องพวกนี้ ..."อาจารย์ทองอินพูดขึ้นขำๆ
"น้องดาอยากให้ขันทองรักหนูตอบไม่ใช่เหรอลูก ก็นี่ไง...อาจารย์ของพ่อช่วยได้ ..."เสี่ยดิลกบอกลูกสาวด้วยนํ้าเสียงที่เอ็นดู
"ช่วยได้...? ยังไงคะ ..."นาดามองหน้าของพ่อกับอาจารย์ของพ่อสลับกันไปมาอย่างไม่เข้าใจ
"ทำเสน่ห์ยาแฝดไง ..."อาจารย์ทองอินบอกนาดา ก่อนที่เขาจะยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย หลังจากที่เขาเห็นนาดาอ้าปากค้างอย่างคิดไม่ถึงแล้ว
"ทำเสน่ห์ยาแฝด…? มี...มีจริงเหรอคะเรื่องแบบนี้ ..."นาดาถามออกมาด้วยนํ้าเสียงที่ไม่มั่นใจ เธอเคยดูในละคร แต่ละครก็คือละคร ไม่ใช่ชีวิตจริง
"แล้วน้องดาอยากลองดูไหมล่ะลูก ..."เสี่ยดิลกถามลูกสาวพร้อมกับมองหน้าของลูกสาวไปด้วย อย่างรอคำตอบ
"แล้ว...แล้วมัน เอ่อ...อ แล้วขันทองจะเป็นอันตรายไหมคะ จะเหมือนในละครไหมคะ ..."นาดาถามขึ้น เธอทั้งกลัวและก็ทั้งอยากลองด้วย
"ของอย่างนี้มันก็ต้องลอง แล้วหนูต้องการเลเวลไหนล่ะ หึหึ ..."อาจารย์ทองอินถามนาดาอย่างอารมณ์ดี เพราะเขารู้แล้วว่านาดาอยากลองขึ้นมาแล้ว
"ขอแค่ให้ขันทองคบกับดาก็พอค่ะ แล้วก็เป็นของดาคนเดียวค่ะ ห้ามขันทองเป็นอันตรายเด็ดขาด แล้วก็ห้ามถึงตายด้วย ..."นาดาบอกอาจารย์ทองอินเสียงเบา อย่างรู้สึกห่วงขันทอง แต่ความที่อยากได้ขันทองมาเป็นของตัวเองแค่คนเดียว มันมีมากกว่า แล้วเธอก็อยากรู้ด้วยว่า อาจารย์ทองอินจะทำได้จริงไหม
"งั้นเบาๆก่อน ถ้าไม่ได้ผลเราค่อยเพิ่มของเข้าไปอีก ...อาจารย์ทองอินบอกนาดาด้วยนํ้าเสียงที่เอ็นดู เพราะว่าตอนนี้ นาดาสับสนในใจจนยุ่งเหยิงไปหมด
"ไม่ได้ผล...? อาจารย์ไม่มั่นใจเหรอคะ...ว่าจะทำได้ พ่อคะ...!! ..."นาดาหันไปมองหน้าของพ่อ ด้วยสายตาที่เป็นคำถามปนไม่พอใจ เพราะว่าพ่อของเธอ เชื่อมั่นในตัวอาจารย์ของพ่อมาก แล้วคำว่าไม่ได้ผลมันคืออะไร
"ใจเย็นๆสิคะน้องดา ฟังอาจารย์เขาพูดให้จบก่อนลูก อย่าเพิ่งใจร้อนลูก ..."เสี่ยดิลกบอกลูกสาวคนเดียวของเขาด้วยนํ้าเสียงที่อ่อนโยน
"ที่อาจารย์บอกว่าอาจจะไม่ได้ผล ถ้าคนที่หนูรักชอบ…เป็นคนที่อยู่ในศีลธรรม รักษาศีลห้าอย่างเคร่งครัด และดวงแข็ง ..."อาจารย์ทองอินรีบอธิบายให้นาดาฟัง ก่อนที่นาดาจะโวยวายขึ้นมาอีก
"รักษาศีลห้า...? มันเกี่ยวด้วยเหรอคะ ..."นาดาถามพร้อมกับทำหน้าไม่เข้าใจไปด้วย
"เกี่ยวสิ แต่มีน้อยคนมากที่จะรักศีลห้าข้ออย่างเคร่งครัด และดวงแข็งพอ ลองดูก่อนนะ อาจารย์คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา แต่ถ้าไม่ได้ผลจริงๆ อาจารย์จะเติมของให้ และวิธีนั้น คนรักของหนูจะอยู่กับหนูไปจนวันตาย จะรักจะหลงหนูจนโงหัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว และไม่มีใครแก้ของได้นอกจากอาจารย์ หึหึ ..."อาจารย์ทองอินบอกนาดา ก่อนที่เขาจะยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยอย่างพอใจ เพราะเขารู้คำตอบแล้วว่านาดาตกลง ก่อนที่นาดาจะตอบเขาซะอีก
"ค่ะ ลองดูก็ได้ แต่ขันทองห้ามเป็นอันตรายนะคะ ..."นาดายํ้าอีกครั้ง อย่างรู้สึกห่วงขันทอง คนที่เธอรัก
"งั้นเริ่มพิธีเลย ..."อาจารย์ทองอินพูดเสียงเรียบ
"ทำยังไงคะอาจารย์ ..."นาดาถามอาจารย์ทองอิน ก่อนที่เธอจะหันไปสบตากับพ่อ ซึ่งพ่อพยักหน้าให้เธออย่างเห็นด้วย
"หนูเข้าไปอาบนํ้าในห้องนํ้า อาบในอ่างอาบนํ้านะ ขัดผิวกายให้ทั่วไปทั้งตัวทุกซอกมุม พอสะอาดทั่วไปทั้งตัวแล้ว ปล่อยเอานํ้าที่อาบแล้ว...ทิ้งไว้อย่างนั้นแหละ รอให้มันตกตะกอนคราบไคล แล้วที่เหลือ อาจารย์จะให้ลูกศิษย์ของอาจารย์จัดการต่อเอง ..."อาจารย์ทองอินบอกนาดาเสียงเรียบ
"ค่ะ ..."นาดาพยักหน้ารับคำ ก่อนที่เธอจะรีบทำตามที่อาจารย์ทองอินบอก เพราะว่าเธอก็อยากรู้แล้ว ว่าอาจารย์ทองอินจะทำอะไรต่อ และจะได้ผลไหม ขันทองจะรักเธอหลงเธอไหม
...
"ขันทอง...ทำไมเงียบ ขันทองโกรธแม่เหรอ ..."ศุจีถามลูกชายคนเดียวของเธอ หลังจากที่ลูกชายไม่พูดไม่ทักเธอสักคำ ในขณะที่ทุกคนในครอบครัวกินอาหารเย็นพร้อมหน้าพร้อมตากันอยู่
"เปล่าครับ ผมไม่ได้โกรธแม่ ..."ขันทองตอบแม่ โดยที่เขาไม่ได้พูดอะไรอีก เขาก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อเงียบๆ
"ไม่โกรธแม่...แล้วทำไมขันทองไม่พูดกับแม่เหมือนเดิมล่ะ ..."ศุจีถามลูกชายด้วยนํ้าเสียงที่ง้องอนลูกชายเต็มที่
"มีเรื่องอะไรกันแม่ลูก ..."พ่อของขันทองถามพร้อมกับมองหน้าของเมีย และหน้าของลูกชาย สลับกันไปมาด้วยความสงสัย เพราะเขาก็รู้สึกว่าวันนี้ บรรยากาศในบ้านมันดูอึมครึมแปลกๆ
"จริงค่ะ แม่มีอะไรกับน้องหรือเปล่าคะ ทำไมวันนี้น้องดูเงียบๆ ..."พลอย พี่สาวคนโตของขันทองเองก็เห็นด้วยกับพ่อ เธอก็เลยถามสองแม่ลูกที่คนหนึ่งเมิน คนหนึ่งก็เหมือนจะง้ออยู่
"ขันทองทำไมไม่คุยกับแม่ล่ะ บอกพี่ได้ไหม ..."ไข่มุก พี่สาวคนรองของขันทองถามน้องชายด้วยนํ้าเสียงที่เป็นห่วง เธอกับพี่สาวคนโต รักน้องชายมาก เพราะว่ามีน้องชายเป็นคนเล็กแค่คนเดียว และขันทองก็เป็นน้องที่น่ารักด้วย ไม่ดื้อกับพวกเธอเลย ตามใจพวกเธอทุกอย่าง
"ผมไม่ได้โกรธอะไรแม่หรอกครับ แต่ที่ผมไม่คุยกับแม่ เพราะว่าผมไม่อยากทะเลาะกับแม่ แล้วผมก็ไม่อยากพูดเรื่องที่แม่จะให้ผมหมั้นกับนาดาด้วย ..."ขันทองมองหน้าของทุกคนแล้วพูดขึ้น
"หมั้น...!! ..."ทั้งสามคนร้องออกมาด้วยความตกใจพร้อมกัน ก่อนที่ทั้งสามคนจะหันไปหน้าของศุจีด้วยสายตาที่เป็นคำถาม
"หมั้นอะไร...หมั้นกับใครนะคะแม่ ..."พลอยถามแม่ด้วยความตกใจ เพราะเธอมั่นใจ ว่าเธอไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน
"เออ...อ น้องนาดาจ้ะ น้องดาเขาเป็นลูกสาวของเพื่อนแม่ แม่เห็นว่าน้องดากับขันทองรู้จักกัน เรียนที่เดียวกัน แล้วน้องดาก็ทั้งสวยแล้วก็ทั้งน่ารักด้วย กิริยามารยาทก็ผู้ดีเหมือนกับแม่ของเธอ ที่เป็นเพื่อนของแม่ แม่ก็เลยอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ เพื่อให้ครอบครับของเราเป็นทองแผ่นเดียวกัน แม่ก็เลย ..."
"แม่…!! แม่คะ...นี่มันพ.ศไหน สมัยไหนแล้วคะแม่ ทุกคนมีสิทธิ์เลือกคู่ชีวิตเองแล้วค่ะ แล้วทางนั้นเขายอมเหรอคะ โดนผู้ใหญ่บังคับแบบนี้ ..."ไข่มุกโวยวายขึ้น ก่อนที่แม่จะพูดจบ
"ยอม ..."
"ยอมสิครับ เพราะว่าเขาเป็นคนจัดการเองทุกอย่าง ถ้าผมพูดไป...ก็จะหาว่าผมนินทาผู้หญิง เธอตามตื้อผมที่มหาวิทยาลัยมาตลอด พอผมไม่เล่นด้วย เธอก็ให้แม่ช่วย แล้วแม่ก็ช่วยเธอด้วยการมาขอให้ผมหมั้นด้วย แล้วพ่อ...พี่พลอย...พี่มุกคิดยังไงครับ ..."ขันทองรีบฟ้องทุกคน ก่อนที่แม่ของเขาจะพูดจบ
"ห๊ะ...!! แม๊...!! แม่ทำกับน้องได้ยังไงคะ ..."ไข่มุกหันไปโวยวายกับแม่อย่างไม่พอใจ
"แม่ได้ถามน้องก่อนหรือเปล่าคะ ก่อนที่แม่จะให้น้องหมั้นกับผู้หญิงคนนั้น ..."พลอยถามแม่เสียงเข้ม
"เอ่อ...อ ..."
"ไม่ครับ แม่ไม่ถามผมสักคำ แถมยังขอให้ผมหมั้นต่อหน้าสองคนแม่ลูกคู่นั้นด้วย ..."ขันทองรีบฟ้องพี่สาว ก่อนที่แม่จะได้พูดอะไร เพราะว่าพี่สาวทั้งสองคน รักและตามใจเขามาก ยังไงพี่สาวทั้งสองคนก็ต้องเข้าข้างเขาอยู่แล้ว
"แม่ทำกับน้องแบบนี้ได้ยังไงคะ ..."ไข่มุกถามแม่ด้วยนํ้าเสียงที่ไม่พอใจ ในขณะที่แม่นั่งเงียบ ไม่มีโอกาสได้แก้ตัวอะไรเลย
"ทำไมคุณถึงไม่ถามลูกก่อนล่ะ เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าให้ลูกเป็นคนเลือกคู่ชีวิตเอง ขันทองขยันทำงานช่วยที่บ้านมาโดยตลอด เขาก็เป็นเด็กดีนะ ผมว่าคุณทำกับลูกแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ คุณควรที่จะถามลูก ..."
"ก็ฉันมั่นใจไงคะ ว่าคนที่ฉันเลือกให้ เป็นคนดีและรักลูกของเราจริงๆ น้องดาจะดูแลขันทองลูกของเราอย่างดีเลยค่ะ เพราะน้องดารักขันทองมาก ฉันดูออกค่ะ ..."ศุจีบอกกับสามีของเธอด้วยนํ้าเสียงที่มั่นใจ
"ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ว่าเขารักน้องจริงไหม...นะคะแม่ แต่มันอยู่ที่น้องรักเขาด้วยไหม คนสองคนรักกัน ถึงจะมีงานหมั้นและงานแต่งเกิดขึ้น เรื่องความเหมาะสมหรือความเห็นชอบจากผู้ใหญ่ มันหมดยุคสมัยไปแล้วนะคะแม่ ..."พลอยบอกกับแม่เสียงเข้ม
"อือๆ เป็นอันว่าแม่ขอโทษก็แล้วกัน แม่จะไม่ยุ่งกับเรื่องคู่ของลูกอีกก็ได้ แต่ถ้ามันเกินไป แม่ก็ไม่ยอมเหมือนกันนะ ..."ศุจีพูดด้วยนํ้าเสียงที่จริงจัง
"เกินไปยังไงเหรอครับแม่ หน้าตา...ฐานะ...การศึกษาหรือว่าเพศสภาพด้วย ..."
"ว๊าย...!! เพศสภาพอะไรลูก ผู้หญิงแค่นั้นนะลูก แม่ไม่ยอม ..."
"แม่คะ...พอเถอะค่ะ คนที่จะอยู่กับน้องตลอดชีวิต คืนคนที่เขาเลือกเองค่ะ ไม่ใช่แม่เลือก จะเป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย น้องก็เป็นคนเลือกเองค่ะ ..."พลอยพูดแทรกขึ้น ก่อนที่แม่จะพูดจบ
"แต่ผู้ชายแม่ก็ไม่ไหวนะ ..."ศุจีพูดเสียงแข็งอย่างไม่ยอม
"ขันทองจะรักชอบผู้หญิงคนไหนก็ได้ลูก แต่ต้องไม่ใช่เพศเดียวกัน พ่อก็รับไม่ไหว ถ้ามันเกินไป ..."พ่อของขันทองพูดขึ้นมาอย่างเห็นด้วยกับคู่ชีวิตของเขา
"แค่ลูกมีความสุขก็พอไม่ใช่เหรอครับ ทำไมจะต้องมีเงื่อนไขด้วย ..."ขันทองถามขึ้น ที่เขาถามไม่ใช่ว่าเขาจะมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่เขากำลังนึกถึงพ่อแม่ของสตาร์ ที่ขอให้ลูกมีความสุขก็พอ แค่อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อนแค่นั้น เงื่อนไขมีแค่นั้นจริงๆ
"จริงค่ะ แค่ลูกมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองเเลือกก็พอไม่ใช่เหรอคะ ทำไมต้องมีเงื่อนไขด้วย ..."พลอยถามพ่อกับแม่ด้วยความไม่พอใจ เพราะเธอไม่อยากให้น้องชายของเธอกดดัน
"อย่าให้มันเกินไปนะยายพลอย ยายมุก แม่ยอมให้น้องคบกับผู้หญิงคนไหนก็ได้แล้วไง แต่ถ้าเป็นเพศเดียวกัน แม่รับไม่ได้จริงๆ ..."ศุจีว่าให้ลูกสาวเสียงดุ
"ผมไม่รู้อนาคตนะครับ ว่าผมจะมีแฟนเป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย หรือผมอาจจะไม่มีแฟนเลยก็ได้ แต่ผมอยากให้พ่อกับแม่เปิดใจกับเรื่องคู่ของผมนะครับ อนาคตไม่มีใครรู้ได้ ไม่ว่าผมจะมีแฟนเป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย ผมจะไม่ทำให้ใครเดือดร้อนกับสิ่งที่ผมเลือก แล้วผมก็ไม่อยากสัญญาอะไรกับพ่อแม่ด้วย เพราะผมกลัวว่าจะทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังในตัวผม แต่ผมอยากให้พ่อกับแม่เชื่อมั่นในตัวผม ว่าผมจะเลือกคนที่ทำให้ผมอยู่ด้วยแล้วมีความสุข แค่นั้นก็พอแล้วไม่ใช่เหรอครับ กับคนที่เป็นพ่อกับแม่ต้องการ แค่ลูกมีความสุข ..."ขันทองมองหน้าของพ่อกับแม่นิ่งหลังจากที่เขาพูดจบแล้ว
"ไม่…!! ยังไงแม่ก็ไม่ยอม …"ศุจีตอบกลับลูกชายเสียงแข็ง เพราะว่าเธอรับไม่ได้จริงๆ