บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 10 ความรู้สึก 2

“วันนี้พี่ไปส่งนะข้าว วันนี้พี่เข้าบริษัทช่วงเช้าพอดี” วัชระที่บังเอิญเปิดประตูห้องออกมาเจอกับฟางข้าวที่เพิ่งจะปิดประตูห้องพอดี เขาบอกหญิงสาวขณะที่เร่งฝีเท้าเดินมาหยุดตรงหน้าเธอ

“รับทราบค่ะ” เมื่อเธอตอบรับ เขาจึงแกล้งผายมือให้เธอเดินนำหน้าไป ฟางข้าวเองก็ทำเป็นเชิดหน้าขึ้นและเดินนำออกไปก่อนจะหันมาหัวเราะให้กัน

หญิงสาวมาถึงมหาวิทยาลัยก่อนลลัลนาเหมือนดังเช่นปกติของทุกวัน เธอตรงไปนั่งที่โต๊ะที่ประจำ ก่อนจะเปิดกระเป๋าหยิบหนังสือออกมาเปิดอ่าน

ฟางข้าวมักจะพกหนังสือเล่มเล็กๆติดกระเป๋าของเธอไว้เสมอไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เปรียบเสมือนว่าหนังสือเป็นเพื่อนสนิทของเธออีกคนหนึ่ง เวลาที่เธอไม่มีอะไรทำหรือต้องอยู่คนเดียวก็มักจะหยิบหนังสือขึ้นมาเปิดอ่าน

ที่หญิงสาวชอบอ่านหนังสืออาจจะเป็นเพราะว่าเธอต้องอยู่คนเดียวบ่อยๆเวลาที่มารดาทำงานหนักจนไม่ค่อยมีเวลาให้เธอ การอยู่บ้านคนเดียวมันเหงามากสำหรับเธอ

ฟางข้าวไม่ใช่คนชอบเที่ยวหรือออกไปสังสรรค์เท่าไหร่นัก เธอจึงเลือกที่จะหาหนังสือมาอ่าน จากที่อ่านเพื่อแก้เหงาก็กลายเป็นอ่านเพราะชอบ จนตอนนี้เธอมีห้องหนังสือส่วนตัวของเธอเอง ซึ่งก็คือห้องหนังสือที่คั่นกลางอยู่ระหว่างห้องนอนของเธอกับห้องที่วัชระใช้อยู่ตอนนี้นั่นเอง

หนังสือในห้อง เธอเป็นคนไปเลือกซื้อไปหามาเองทั้งหมด นั่นคงเป็นเหตุผลอีกอย่างหนึ่งว่าทำไมฟางข้าวถึงมีหนังสือติดตัวตลอดเวลา

“มาแล้ว” ลลัลนาทักฟางข้าวทันทีที่เธอนั่งลง

“แก วันนี้ฉันไปนอนกับแกนะ” ฟางข้าวหันมาบอกลลัลนา

“เอาสิ เบื่อๆอยู่พอดี ทำชาบูกินกัน”

“โอเค”

“กินชาบูเหรอ ไปด้วยสิ” ระหว่างที่สองสาวกำลังนัดแนะกันอยู่ ณดลได้เข้ามาได้ยินพอดี จึงส่งเสียงขอไปด้วย

“ได้สิ หลายๆคน สนุกดี” ลลัลนาไม่ทันได้คิดอะไร แต่กลับกัน ฟางข้าวหน้าเจื่อนไปชั่วเสี้ยววินาทีหนึ่ง ก่อนจะปรับให้เป็นปกติโดยที่ลลัลนาไม่ทันได้สังเกต

หลังเลิกเรียน ฟางข้าว ลลัลนา และ ณดล แวะไปห้างสรรพสินค้าใกล้ๆเพื่อไปซื้อของมาทำชาบูที่คอนโดของลลัลนา เมื่อซื้อของเสร็จก็พากันมาที่ห้องของลลัลนา ระหว่างที่ช่วยกันจัดเตรียมของนัทธีก็มาพอดี

“ทำอะไรกันอยู่” เมื่อเขาเข้ามาก็ตรงมาหาลลัลนา หอมแก้มเธอเบาๆก่อนจะเอ่ยปากถาม

“ทำชาบูทานกันค่ะ พี่นัททานด้วยไหมคะ”

“หืม ปาร์ตี้เหรอ ทานกันไปเถอะ ถ้าอย่างนั้นวันนี้พี่นอนห้องฝั่งนู้นนะ”

“ค่ะ” ลลัลนายิ้มให้เขา เขาเองก็ไม่ได้ว่าอะไร ก่อนจะออกจากห้องของเธอไป

“ดีจัง อาจารย์ตามใจแกน่าดู” ฟางข้าวพูดแซวเพื่อนรักสีหน้าหม่นลงเล็กน้อย

“ก็ไม่เชิงนะ เขาก็เอาแต่ใจตัวเองนิดๆเหมือนกันแต่เขาแค่ไม่พูดน่ะ”

หลังเตรียมของเสร็จสองสาวช่วยกันจัดโต๊ะส่วนณดลเตรียมเครื่องดื่ม วันนี้มีปาร์ตี้เขาเลยซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาด้วย

“แก ฉันยืมเสื้อเปลี่ยนหน่อยนะ” ฟางข้าวชี้เสื้อนักศึกษาของตัวเอง แล้วเดินเข้าห้องนอนลลัลนาไป

“ดล เราถามอะไรหน่อยสิ” ลลัลนาเอ่ยทักขึ้นหลังจากที่ฟางข้าวเดินเข้าห้องเธอไปแล้วณดลมองตาม

“อะไรเหรอ”

“ดลชอบข้าวเหรอ” ณดลชะงัก นิ่งไปสักพัก

“เราก็ยังไม่แน่ใจว่าแค่ชอบ หรือมากกว่านั้น”

“แล้วข้าวรู้ไหม”

“ไม่รู้สิ เราดูไม่ออก”

“แล้วเคยบอกข้าวไหม” เพียงคำถามเดียวณดลถึงกับนิ่งอึ้งไป พอดีกับที่ฟางข้าวเปิดประตูออกมา

“มีอะไรกันเหรอ ทำไมหน้าเครียดจัง” ฟางข้าวถามเพื่อนพลางมองหน้าลลัลนากับณดล

“ไม่มีอะไร ลงมือกันเถอะ หิวแล้วล่ะ” ลลัลนาตัดบทและเดินนำไปที่โต๊ะ ฟางข้าวจึงเดินตามไป

ระหว่างที่ลงมือกัน ฟางข้าว ลลัลนา ณดล นั่งคุยกันไปเรื่อยๆจนดึก ฟางข้าวที่ดื่มไปเยอะพอสมควรเริ่มมึน พอดีกับที่นัทธีเข้ามาในห้อง ณดลเลยอาสาไปส่งฟางข้าวเพราะไม่อยากรบกวนความเป็นส่วนตัวของนัทธีกับลลัลนา

“ข้าว เดินไหวไหม” ณดลถามฟางข้าวให้แน่ใจ เพราะหลังจากออกจากลิฟต์ ฟางข้าวเดินไปหยุดไปจนเขาเริ่มไม่แน่ใจว่าเธอจะเดินไปถึงรถไหม

“ไหว แค่มึนๆ” ฟางข้าวพูดเสียงเบา ก่อนจะนั่งลงไปที่พื้น

“แบบนี้ไม่ใช่แค่มึนแล้วข้าว” ณดลหัวเราะเอ็นดูก่อนจะย่อตัวลงอุ้มหญิงสาวขึ้นมาในอ้อมแขนและเดินตรงไปที่รถ ฟางข้าวดิ้นขลุกขลักเล็กน้อย

ณดลวางฟางข้าวที่เบาะข้างคนขับ ปรับเบาะเอนให้หญิงสาวแล้วเอื้อมตัวไปคาดเข็มขัดให้และปิดประตู ก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นประจำที่นั่งคนขับ เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้นรถก็เคลื่อนตัวออกไป

ฟางข้าวเองหลังจากที่ณดลอุ้มเธอขึ้น หญิงสาวเขินอายจนไม่กล้าสบตาเขา ได้แต่เกร็งตัวปล่อยให้เขาอุ้มเธอมาวางที่เบาะรถ และหลังจากชายหนุ่มขับรถออกจากคอนโด ฟางข้าวก็เข้าสู่ห้วงนิทราไป

ณดลขับรถไปสักพักก็หันมามองคนข้างตัว นั่นทำให้เขาได้เห็นว่าหญิงสาวได้ปล่อยให้เขาขับรถคนเดียวเสียแล้ว เพราะตัวเธอเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้วนั่นเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel