EP 3 - อยู่คอนโดมิเนียมเดียวกัน
@คอนโดมิเนียมของเฟียร์
เจ้าของใบหน้าเฉี่ยวในชุดนักศึกษารัดรูปออกมายืนรอรถที่เธอเรียกอยู่ที่หน้าคอนโดมิเนียม มือเรียวหยิบแอร์พอดสวมเข้าที่หูพลางหยิบสมาร์ตโฟนออกมาเลื่อนหาฟังเพลงที่ชอบ
ทว่าอยู่ ๆ เสียงสนทนาจากบุคคลคนด้านหลังที่เพิ่งเดินมาถึง กลับรบกวนเสียงเพลงจากหูฟังของเธออย่างไม่ได้ตั้งใจ เรียวคิ้วสวยขมวดกันเป็นปมอย่างหงุดหงิด
มือเล็กที่จับสมาร์ตโฟนเอาไว้ก่อนหน้าตั้งใจกดเพิ่มเสียงเพลงในมือถือให้ดังขึ้นเพื่อกลบเสียงรบกวน
ทว่า… เธอดันกดผิดเป็นลดเสียงเพลงลงแทน
“ไม่ให้พี่ไปส่งแน่นะ”
“ค่ะ ก็พี่ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องระหว่างเรานี่คะ”
“พี่ไปส่งได้ แค่ไม่ให้ใครเห็นก็พอ”
เสียงทุ้มที่ฟังแล้วคุ้นหู จากตอนแรกที่ไม่คิดจะใส่ใจ ทว่าพอตั้งใจฟังเสียงนั่น…
ใช่ มันคือเสียงของ เพลิง
จากที่เฟียร์ต้องการจะเพิ่มเสียง เธอกลับกดลดเสียงเบาจนสุด
“อย่าลำบากพี่เพลิงเลยค่ะ พายไปเองง่ายกว่า”
แล้ว… เฟียร์ก็เผลอยืนฟังบทสนทนาของคนทั้งคู่ที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากเธอนัก สายตาคู่เฉี่ยวทำทีเป็นเมินเฉยและมองนิ่งไปยังถนนทางเข้าคอนโดมิเนียมด้านหน้าเหมือนไม่ได้สนใจ
แต่… สน
ความจริงเฟียร์ก็พอรู้อยู่บ้างว่าตลอดระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ย้ายมาอยู่คอนโดมิเนียมใหม่นี้ เธอและเพลิงพักอาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียมเดียวกัน หญิงสาวเห็นเขาเดินผ่านตาไปบ้าง แต่ก็ไม่เคยได้ทักทายกันเลยสักครั้ง
อย่าว่าแต่เจอหน้ากันที่มหาวิทยาลัยเลย ถึงจะอยู่กลุ่มเดียวกันก็จริงแต่ใช่ว่าเธอกับเขาจะคุยกัน ด้วยนิสัยที่เป็นคนที่ไม่เข้าหาใครก่อนของทั้งคู่ และไม่ใช่คนเฟรนด์ลี่อย่างพายุ ซึ่งรายนั้นเข้ากับคนง่ายและมักจะชวนเธอคุยก่อนเสมอ
แต่กับเพลิงไม่ใช่ เขาเป็นคนนิ่ง ๆ ที่เธอมักจะบังเอิญสบตากับเขาแบบเงียบ ๆ นอกนั้นก็แทบไม่ได้เคยคุยกันเลยสักคำ
“งอนพี่ ?”
“พายไม่มีสิทธิ์งอนพี่อยู่แล้ว ที่ทำแบบนี้เพราะพี่เป็นห่วงพายนี่ พายฟังมาล้านรอบแล้วค่ะ ฟังจนจำขึ้นใจเลย”
เสียงหวานที่กำลังพูดคุยง้องอนกับคนข้างกายอยู่ทำเอาดวงตาเฉี่ยวหรี่ลงก่อนจะเบนหน้าหนีไปอีกทาง พร้อมกับทำปากคว่ำด้วยความรู้สึกหมั่นไส้อย่างบอกไม่ถูก
ไม่ใช่ว่าอะไร แค่รู้สึกเลี่ยนหูก็เท่านั้น
“งอนจริงสินะ ง้อยังไงดีล่ะ”
เสียงบทสนทนายังดังต่อเนื่องราวกับเขาไม่เห็นเธอที่ยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ และที่น่าหงุดหงิดใจคือน้ำเสียงแปดเสียงเก้าของเขานี่สิ
จำเป็นต้องทำเสียงหวานขนาดนั้น ?
เฟียร์เบะปากคว่ำก่อนจะยกแขนเรียวทั้งสองข้างขึ้นมากอดอก ใบหน้าเฉี่ยวยังคงมองตรงไปทางถนนเพื่อหารถที่จะมารับ หากแต่หูของเธอก็คอยฟังคนข้าง ๆ ต่อไป
“ไม่รู้ค่ะ”
“แล้วคืนนี้อยากมาหาพี่อีกไหม”
ช่างกล้า ? เฟียร์เบะปากให้กับการชวนกันมาค้างคืนแบบโจ่งแจ้งไม่อายใครของเพลิง
ดูเอาเถอะ เรื่องแบบนี้จำเป็นต้องพูดออกมาแบบนี้ ช่างไม่ให้เกียรติผู้หญิงเลยสักนิด ! แต่ดูท่าแล้วอีกฝั่งที่เป็นผู้หญิงก็เหมือนจะไม่คิดอะไร กลับมีสีหน้าดีใจเสียด้วยซ้ำ
“ล่อซื้อเด็กเหรอคะ”
“แล้วพี่ทำสำเร็จไหมคะ”
หวานเวอร์ หวานเกินเบอร์มาก เฟียร์ได้แต่แอบฟังอย่างหงุดหงิด ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าจะฟังไปเพื่ออะไร แต่เธอก็ดันแอบฟังไปแล้วตั้งแต่ต้น
“แต่เราต้องกินยานะครับ”
“ก็ได้ค่ะ ยอม”
ทุเรศจริง ๆ คู่นี้ !!
ทว่าในตอนนั้นเอง
“อ้าวนั่น อุ๊บ พี่เฟียร์นี่คะ” สาวน้อยข้างกายของเพลิงหันมาเห็นเฟียร์ที่ยืนอยู่ไม่ไกล
‘แกก็ควรจะเห็นฉันตั้งนานแล้วไหม มัวแต่หลงผู้ชายอยู่นั่นแหละ’
“เรารู้จัก ?” เพลิงเลิกคิ้วตั้งคำถามพลางมองไปทางเฟียร์ที่ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจเขากับสาวน้อยที่ยืนอยู่
“ค่ะ ที่มหา’ลัยพายพี่เฟียร์ดังมากเลยนะคะ ได้ยินว่าย้ายมหา’ลัย ที่แท้ไปเรียนมหา’ลัยเดียวกับพี่เพลิงนี่เอง” ที่เธอรู้เป็นเพราะเข็มกลัดกระดุมที่ติดอยู่บนเสื้อนักศึกษา
พะพายมองไปทางเฟียร์ด้วยสายตาชื่นชม เพราะรุ่นพี่สาวเป็นคนดังมากที่มหาวิทยาลัยของเธอ ชนิดที่ว่าไม่มีใครไม่รู้จักเฟียร์ ดาวคณะนิเทศศาสตร์
เพลิงมองแววตาเป็นประกายของคนข้างกายด้วยความประหลาดใจที่เห็นคนของตัวเองมองเฟียร์ด้วยความชื่นชมเหมือนกับเจอไอดอลประมาณนั้น ก่อนที่สายตาของเขาจะหันไปเห็นรถที่เรียกเอาไว้ขับเข้ามารับพอดี
“รถมาแล้วครับ” เขาละสายตาจากเฟียร์ก่อนหันไปบอกสาวน้อยข้างกายให้ขึ้นรถ
“เคค่ะ ไว้ดึก ๆ เจอกันนะคะ”
เพลิงเปิดประตูรถและส่งหญิงสาวขึ้นรถไป
แต่เมื่อเขาหันกลับมามองเฟียร์อีกครั้ง ก็ไม่เจอเธอแล้ว