บทที่ 6 อ่อยสาว
วันต่อมา
ด้านเนเน่ร่างบางในชุดยูนิฟอร์มแม่บ้านที่พร้อมทำงานนั้น ถึงเมื่อคืนฉันจะนอนดึก เช้านี้ฉันก็ต้องรีบตื่นเพราะฉันต้องสแกนนิ้วเข้าทำงานเหมือนพนักงานทั่วไป ไม่มีอภิสิทธิ์ลูกหลานเจ้าของโรงแรมแต่อย่างใด และวันนี้หลังจากที่พี่เก๋หัวหน้าแม้บ้านสุ่มตรวจงานถึงแค่ชั้น 7 คนที่รับผิดชอบชั้น 8 อย่างฉันก็รอดตัวไป แต่ที่จะไม่รอดก็น่าจะวันนี้แหละ ร่างบางที่เดินมาหยุดที่หน้าห้อง 828 แต่ประตูห้องกับไม่ได้ถูกล็อคนั้น มือเรียวถือวิสะเปิดเข้าไปภายในห้อง
ทว่าขณะที่เดินเข้ามานั้น เนเน่ถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากเก็บเสียงแหกปากร้องของตน
“ทำไม จะตกใจอะไร ไม่เคยเห็น” ร่างสูงที่นอนบนเตียง สวมเพียงกางเกงชั้นในตัวเดียวนั้นเอ่ยทัก เนเน่เห็นเช่นนั้นตาเบิกกว้างอ้าปากค้าง
“เล็กแบบนี้ใครมันจะอยากเห็น ฉันไม่ได้อยากจะดูหรอกนะ” เนเน่ไม่พูดเปล่า แต่มือเรียวกับโยนผ้าห่มคลุมตัวให้กับร่างสูงนอนเปลือยบนเตียง
"พึ่งรู้ว่านายเป็นพวกชอบโชว์ของลับ”
“ฉันชอบโชว์ตรงไหน เธอต่างหาก เป็นแม่บ้านประสาอะไร ถึงได้เปิดประตูเข้าห้องลูกค้าแบบนี้” วาคิมที่นอนอยู่ในห้องดีๆ มีอย่างที่ไหนที่เปิดประตูพรวดพาดเข้ามาในห้องเขา เข้ามาในห้องไม่พอ แถมมาปากเสียว่ามังกรใหญ่เขาเล็กอีก “แบบนี้น่าจับจูบให้ปากเปลื่อย จับกระแทกเสียให้เข็ด” อยากจะรู้นักถ้าโดนของจริงยังจะปากดีว่าของเขาเล็กอยู่อีกไหม
เนเน่พอวาคิมว่ามาเช่นนั้น ใบหน้าสวยชะงัก ถึงจะจริงอย่างที่นายนั้นว่าก็เถอะ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด นั้นนะสิฉันเข้ามาในห้องเขาทำไม ร่างบางได้แต่งงงวยกับท่าทีพรวดพราดเจ้าห้องของเขา แต่นั้นเนเน่ซะอย่างเฉไฉไม่ใช่นิสัย แต่เรื่องอะไรจะยอมรับให้เขาหัวเราะเยาะ ฝันไปเถอะ
“ฉันแค่มาดูว่านายยังมีชีวิตอยู่ดีหรือป่าว” แต่นั้นคำพูดของเธอ ทำเอาใบหน้าหล่อเหลาหลุดยิ้ม
“ทำไม เป็นห่วงว่าที่ผัว เหรอ...”
“ว่าที่ผัว นี้นายจะบ้าเหรอ” เนเน่ถลึงตาใส่วาคิมเถียงเขาคอขึ้นเอ็น
“ทำไมจะปฏิเสธ” เขาถาม
“ไม่ได้เอากัน ใครจะเป็นผัว นายอะมั่วแล้ว”
“ไม่ใช่ แต่ก็เกือบได้แล้ว เหลือแค่เสียบและกระแทกใส่ กอดจูบ ทั้งดูดทั้งเลียฉันก็เร้าเธอมาหมดแล้ว” วาคิมเอ่ยด้วยเสียงเรียบเฉย ราวกับเรื่องที่เขาทำกับฉันนั้นธรรมดามาก วาคิมที่รื้อฟืนเรื่องเมื่อคืนมานั้น คนฟังใบหน้าสวยแดงซ่านขึ้นมาด้วยท่าทีเขินอาย เนเน่ทำหน้าไม่ถูก
“แล้วนายจะพูดมาอีกทำไม” เมื่อรู้ตัวว่าตนไม่ควรอยู่ในห้องสองต่อสองแบบนี้กับวาคิมนั้น ร่างบางสาวเท้าหันกลับไปทางประตูห้อง
!!พรึบ!! แต่นั้นคนบนเตียงกับไวกว่า มือหนาจับเข้าที่เรียวแขนเล็ก
“จะรีบไปไหน” เสียงเข้มเอ่ย ขณะที่บนตัวเขามีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันรอบเอว วาคิมอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย อ่า...ล้อตาล้อใจคนสวยอย่างฉันนัก นัยน์ตาคู่สวยก้มต่ำลงซิกแพคหนาเป็นหมัด ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนนั้นตรงหน้าเซ็กซี่มาก แต่นั้นคนตัวสูงกับทำในสิ่งที่เธอไม่คลาดคิด มือหนาแตะที่ริมฝีปากล่างตรงลอยฮ่อเลือดที่มันสะดุดตามเขา
!! พรึบ !! แต่นั้นกับถูกคนตัวเล็กปัดออก
“เถอะ น่า แค่จะดู รอยแผลนี้ฉันเป็นคนทำใช่ไหม” น้ำเสียงนุ่มละมุนหู ทำเอาคนฟังชะงัก แค่โดนวางยาปลุกเซ็กส์ วาคิมนี้อาการท่าจะเพี้ยน ปกติเขาเคยคุยดีกับฉันที่ไหน วาคิมสาวเท้าเข้าหาคนตัวเล็ก ส่วนอีกคนถอนหนีจนแผ่นหลังบางชนเข้ากับผนัง ใบหน้าอันหล่อเหลาโนเมเข้าหาในรัศมีใกล้ชิน อีกนิดจมูกเขาจะจนแก้มของฉันแล้ว นัยน์ตาทั้งสองคู่ประสานเข้าหากัน
!! ตึก ตัก !! เนเนารู้สึกได้ถึงความผิดปกติหัวใจเต้นสั่นอย่างไม่เป็นจังหวะ เธอสบตากับเขาแต่มันแค่แว็บเดียวเท่านั้น เนเน่เป็นฝ่ายหลบสายตาคมเข้มที่จ้องหน้าเธอมา
“ช่างเถอะ นายไม่ได้ตั้งใจ แค่โดนฤทธิ์ยาน่ะ” แต่นั้นทำเอาคนฟังถึงกับขำกึก
“รู้ได้ไงว่าฉัน ไม่ได้ตั้งใจ ฉันกัดจนเป็นรอยฮ่อเลือดซ้ำขนาดนี้ เป็นฉันหรือไง รู้ดีจัง”
“หมายความว่าไง” คนถามเอ่ยด้วยสีหน้างงงวย
“ไม่รู้สิ ในเมื่อคิดเองได้ว่าฉันไม่ตั้งใจ อย่างหลังก็น่าคิดออก" วาคิมทิ้งคำพูดไว้แค่นั้น พร้อมกับยักไหล่ให้เนเน่
“ฉันกัดปากเธอแรงขนาดนี้เลยเหรอ เอาคืนปะละ ให้ทำรอยกลับ หรือเธอฉันยอมให้เธอกัดฟรี ไม่คิดตัง”คนหน้ามึนไม่พูดเปล่า แต่ร่างสูงหุ่นหนากายกำยำที่โชว์ซิกกอวดมัดกล้าม กับยื่นริมฝีปากหนาโน้มเข้าหาฉัน เนเน่ที่ถูกทำเช่นนั้น ร่างบางยืนตัวแข็งทือ
“ตึก ตึก” ให้ตายสิ สั่นหมดแล้วใจฉันเนี้ย พึ่งจะสังเกตุ หุ่นเอ่ย กล้ามท้องเอ่ย เซ็กซี่อย่างที่เพื่อนๆ ฉัน เลื่องลือกันเซ็กซี่จริง
“ว่าไงเนเน่ ปากกับซิกแพ็คฉันอะไรน่ากัดน่าดูดกว่ากัน” เสียงเรียบที่เอ่ยมาเช่นนั้น ใบหน้าสวยชะงักตาโต หึ! นี้รู้งั้นเหรอว่าฉันแอบมองซิกแพคเขา
“นายบ้าป่าว ใครจะกัดปากนายกัน ไม่มี้...” คนตัวเล็กเอ่ยเสียงสูงพร้อมกับหลบสายตาเขาที่เอาแต่จ้องเธอ
“ไม่สน...” เขาถาม นับว่าเนเน่เป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาถอดผ้า อ่อย ยัยนี้สุดๆ แล้ว ปกติเคย ถอดผ้าอ่อยสาวแบบนี้ไหม ก็ไม่ ขาวจวั๊ะขนาด 56 ยังกล้าเมิน ต้องไซส์ไหนวะ ถึงจะยอม ชอบไซส์เล็กนิหว่า ต้องเป็นผู้หญิงประเภทไหนถึงการเมินผม
“อืม”
“เจ็บมากไหม” เขาถาม
“อะไร”
“ปากเธอที่โดนฉันกัด เจ็บมากป่าว”
“ไม่เจ็บแล้ว”
“จะไม่เปลี่ยนใจกัดหน่อยเหรอ ไม่ชอบปาก ไอ้แข็งๆ ใต้บล็อกเซอร์ก็พร้อมให้กัดเล่นนะ”
“บ้า...ฉันไม่พูดกับนายแล้ว พวกบ้า ผู้ชายแก๊งค์นี้นิสัยเหมือนกันหมด” เนเน่เธอคงหมายถึงไอ้ 4 ตัว 100บาทเพื่อนแฮงเฮ้าท์ของผมสินะ
“ฉันจะฟ้องไอ้มอส ไอ้ราม เธอว่าพวกมัน”
“ฉันไม่ได้เอ่ยชื่อใคร...” เนเน่ถลึงตาใส่เขา
“ช่วยหน่อย ชุดฉันมันเปียกออกจากห้องนี้ไม่ได้” เขาเอ่ยพร้อมกับยื่นชุดที่เขาใส่ตัวเมื่อคืนให้เธอ
“ฝากอบให้ด้วย ถ้าใส่กลับแบบนี้กลัวไม่สบาย”
“นายจะกลัวป่วยไปทำไม นอนแช่น้ำทั้งคืน ไม่เห็นว่านายจะป่วย”
“รู้ได้ไงว่าฉัน นอนแช่น้ำทั้งคืน ฉันทรมานขนาดนี้ เป็นเพื่อนร่วมสถาบันแบบไหน จะตายก็ยังไม่ช่วย” คนฟังตาขวาง
“ฉันก็ช่วยแล้วไง ใครลากนายไปนอนแช่น้ำ ขนาดนี้แล้วไม่สำนึกบุญคุณอีก”
“ฉันจะสำนึกบุญคุณเธอมากกว่านี้ ถ้าเธอช่วยให้ฉันได้เสียบ ว่างไหม จะช่วยตอนนี้ก็ยังไม่สายน่ะ สนปะ” ร่างสูงไม่เพียงแต่พูด แต่เขากับโน้มใบหน้าเข้าไปจะจูบแต่กับถูกมือของเนเน่ปิดปากห้ามเอาไว้
“ไม่ มีทางเด็ดขาด” ทว่าขณะที่เนเน่จะสาวเท้าหนีวาคิมนั้น
“ชุดฉันมันเปียก อบแห้งให้ด้วยถ้าเธอตุกติก รับรองเรื่องของเราถึงหูไอ้รามแน่” วาคิมที่เอ่ยมาเช่นนั้น เนเน่ได้แต่ส่ายหน้าอย่างไม่ยอม ไม่เด็ดขาด รามรู้โลกรู้ ร่างบางก้มหน้ายอมเก็บชุดของวาคิมที่ตกอยู่บนพื้นและหอบออกจากห้องด้วยท่าทีหน้าหงิกหน้าง้อไม่เต็มใจที่จะทำ วาคิมเหลือบมองร่างบางเดินไปจนกระทั้งลับตา ร่างสูงกระตุกยิ้มร้าย
“ปากนั้นน่าดูดชิบหาย” ผู้ชายอย่างเขาไม่เคยแก้ผ้าค่อยใคร กับมาถอดผ้าอ่อยยัยเนเน่ยัยผู้หญิงปากร้ายที่เคยมีเรื่องกับเขา
ย้อนไปเหตุการณ์เมื่อตอนปี 2 เขายังจำเหตุการณ์วันนั้นได้ วันนี้เธอวิ่งตัดหน้ารถเขา ถ้าเบรกไม่ทันยัยนี้คงกลายเป็นวิญญาณไปแล้ว แต่นั้นใช่ว่าเธอจะกลัวตายร่างบางที่ล้มก้นกระแทกบนพื้นถนนในมหาลัย
พอลุกขึ้นมาได้เท่านั้นแหละ ด่ากราดเขา ชี้หน้าด่าผม รู้กันทั่วทั้งคณะ เขายังจำเหตุการณ์วันนั้นได้ดี
“นี้มันถนนมหาลัย ไม่ใช่สนามแข่งรถ ตาไม่มี ไม่มองทาง หรือมองแต่ใต้กระโปรงผู้หญิง” ร่างบางมือเท้าสะเอวยืนด่าเขาที่หน้าตึกคณะวิศวะ
“เธอ ยัยบ้า กล้าดียังไงมาด่าฉันฉอดๆ แบบนี้” วาคิมที่จอดรถฮาเล่ได้ ถึงกับสาวเท้าลงจากรถวันนี้เขาพร้อมบวกกับยับผู้หญิงปากดีคนนี้
“ถึงเป็นผู้หญิงแต่ปากแจ๋วๆ แบบนี้ ผู้ชายอย่างผมก็พร้อมบวกละว่ะ” มีอย่างที่ไหนมายืนชี้หน้าของผม เสียลุคหล่อเท่ห์หมด ทว่าขณะที่วาคิมก้าวขาลงจากรถที่มีนักศึกษามุ่งดูนั้น
“ไอ้วาคิม ไอ้เน่มีอะไรหรือป่าววะ” ราม และมอสที่เดินเข้ามานั้น
“นายตาบอดนี้ ขับรถเฉียวฉัน”
“ฉันไม่ได้ตาบอด”
“เออ เพื่อนกันทั้งนั้นมีไรค่อยๆ เคลียร์กันดิว่ะ”
“เพื่อนเหรอ” เนเน่และวาคิมทั้งสองมองหน้ากันอย่างเอาเรื่องสุดๆ
“ฝันไปเถอะ/ฝันไปเถอะ...” เสียงเขาและเนเน่เอ่ยขึ้นอย่างพร้อมเพียงกัน
นั้นแหละคับ และวันนั้นผมก็เสียค่าทำขวัญ ที่แขนยัยนี้ถลอก ผมยอมจ่ายค่าทำขวัญไปห้าพัน เรื่องถึงยอมจบ และหลังจากนั้นผมและเธอก็เจอกันที่คณะบริหาร ตามโรงอาหารบ้าง ผมและเนเน่เราไม่ค่อยลงรอยกันก็เป็นอย่างที่เห็นนี้แหละ
“แต่เมื่อคืน ใครจะคิด ว่าผมจะได้จูบยัยผู้หญิงปากดี ที่เคยมีเรื่องกับตน” ทั้งจูบทั้งเลีย ถึงจะติดที่นิสัยแย่ไปหน่อย แต่ลองแล้วสัมผัสส่วนนั้นแล้วทั้งจูบทั้งดูด เห็นสายแข็งแบบนี้ ก็ทำผมใจสั่นเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ไม่ธรรมดานิหว่า
“ถึงจะไม่ลงรอยกัน แต่ถ้าลงร่องเสียวๆ ของเธอได้ก็ไม่ติดนะคับ” วาคิมได้แต่คิด