บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 ความสุขเล็กๆ ของคนแอบรัก

หลังจากบอกเรื่องที่จะไปเที่ยวที่ฟาร์มเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ให้คนเป็นแม่ได้รับทราบแล้ว ลดาก็กลับเข้าห้องเพื่อเตรียมของสำหรับการเดินทาง ใช้เวลาไม่นานก็เรียบร้อย เธอจึงรีบกระโดดขึ้นเตียงนอนเพื่อพักผ่อนพรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้า แต่ด้วยความตื่นเต้นดีใจทำให้กว่าจะข่มตาหลับลงได้ก็ปาเข้าไปหลังเที่ยงคืน ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคกับการตื่น

ทันทีที่นาฬิกาปลุกลดาก็รีบลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว แต่ด้วยความที่มัวแต่ขัดสีฉวีวรรณทำให้อาบน้ำนานกว่าปกติไปนิดหนึ่ง ทำให้พอเดินลงมาข้างล่างถึงก็ปรากฏว่าทุกคนกำลังรอเธออยู่

“แม่ว่ากำลังจะไปตามอยู่พอดีเลย” ญดาทักลูกสาวที่เดินฉีกยิ้มแหยๆ เข้ามาหา

“แหม...แม่ก็ อาธันน์บอกว่าเลทได้ถึงเจ็ดโมงเลยนะคะ” ปากก็พูดกับคนเป็นแม่ หากสายตานั้นเหลือบมองหนุ่มใหญ่แล้วแอบใจเต้นตึกๆ คนอะไรไม่รู้แค่ใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนเก่าๆ ก็ยังดูหล่อดูเท่

“ไม่ลืมอะไรนะ” ญดาถามลูกสาวที่จู่ๆ ก็เงียบไป

“มะ...ไม่ค่ะ เช็กดีแล้วตั้งแต่เมื่อคืน” เธอไม่ได้เอาอะไรไปมากนัก เน้นของใช้จำเป็นรวมไปถึงของขวัญที่ได้จากฟ้ารุ่งที่เช็กแล้วเช็กอีกกลัวลืม เพราะมันคือเครื่องรางเกี่ยวกับความรัก ที่ได้มันมาตอนไปเที่ยวญี่ปุ่น เห็นเธอยังไม่มีแฟนเลยซื้อมาฝาก ไม่คิดว่ามันจะประจวบเหมาะกันขนาดนี้ แถมเพื่อนตัวดียังแอบกระซิบอีกว่าเครื่องรางจากศาลเจ้านี้ขึ้นชื่อเรื่องความรักมาก เธอก็ได้แต่หวังว่าของสิ่งนี้มันจะช่วยได้บ้าง

“งั้นเราไปกันเลยไหม”

“ยังไงฝากลูกสาวด้วยนะโว้ย ถ้ามันดื้อก็จัดการได้เลย คิดซะว่าเป็นลูกเป็นหลาน”

“พ่อ...ลดาไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะคะ” หญิงสาวโอดครวญ รู้สึกตะขิดตะขวงใจแปลกๆ เมื่อได้ยินคนเป็นพ่อบอกให้เพื่อนของท่านเอ็นดูเธอเหมือนลูกเหมือนหลาน

“เราก็ดูแลตัวเองด้วยนะลดา อย่าไปกวนคุณอานักละ” ญดากำชับลูกสาวอีกแรง เพราะลำพังงานของชายหนุ่มก็เหนื่อยมากพอแล้ว ถ้าลูกสาวของนางไปแล้วเป็นภาระของอีกฝ่ายอีกคงไม่ใช่เรื่องดีนัก

“ค่ะ” ลดารับปากไม่เต็มคำนักเพราะการไปเที่ยวครั้งนี้เธอตั้งใจไปกวนชายหนุ่มโดยเฉพาะ แต่เป็นการกวนหัวใจและจะพยายามไม่ให้กวนการทำงานของเขา

“ไม่แน่ถ้าเสาร์อาทิตย์นี้พ่องานไม่เยอะอาจจะตามไปนะ”

“ลดาจะรอนะคะ” พูดไปแบบนั้นแต่ในใจภาวนาให้คนเป็นพ่อไม่ว่างด้วยเถิด แผนการพิชิตใจเพื่อนของท่านจะได้ไม่สะดุด

“ไปเถอะเดี๋ยวมันจะสาย ขับรถดีๆ ละ”

“งั้นไปนะครับ” ธันน์ลาภรรยาของเพื่อนก่อนจะหันไปบอกลาเพื่อนที่ขนกระเป๋าของลูกสาวไปไว้ท้ายกระบะรถ “ไปนะโว้ยชัย”

“โชคดีเพื่อน”

“ลดาไปนะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้ลาคนเป็นพ่อและแม่ ก่อนจะขึ้นไปนั่งเบาะข้างๆ คนขับ เมื่อธันน์เคลื่อนรถออกเธอก็ลดกระจกลงแล้วโบกมือบ๋ายบายบุพการีทั้งสอง จนลับสายตา เธอถึงเลื่อนกระจกขึ้นแล้วหันมาคุยกับพลขับ

“ลดาคงไม่ได้รบกวนคุณอามากจนเกินไปนะคะ” หญิงสาวถามหยั่งเชิง อย่างน้อยก็อยากรู้ว่าการไปในครั้งนี้เขาเต็มใจหรือแค่เกรงใจพ่อแม่ของเธอเท่านั้น

“ไม่หรอก ดีใจเสียอีกที่เราอยากไปเที่ยว” ชายหนุ่มหันมายิ้ม ซึ่งก็ทำให้ลดาผิดหวังเล็กๆ เมื่อมันดูอบอุ่นเหมือนยิ้มให้ลูกหลานคนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีอะไรแอบแฝง

“ค่ะ” เธอตอบรับสั้นๆ แล้วเงียบไป รอดูท่าทีของอีกฝ่ายซึ่งก็เงียบ แล้วจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปจนถึงจุดหมายปลายทางเหรอ ได้อึดอัดตาย อย่างน้อยเธอก็น่าจะใช้เวลาในช่วงนี้ให้เป็นประโยชน์ ต้องชวนคุยเพื่อสร้างความสนิทสนม ว่าแล้วลดาก็เริ่มเข้าสู่บทสนทนาพื้นฐาน “ใช้เวลานานไหมคะกว่าจะถึง”

“ก็ราวๆ ห้าหกชั่วโมงโน่นแหละ ห้ามบ่นละกันว่าเมื่อย” ธันน์บอกยิ้มๆ

“ไม่แน่นอนค่ะ ก็ลดาอยากมาเองนี่คะ เอาเป็นว่าถ้าอาเหนื่อยเปลี่ยนให้ลดาขับแทนบ้างก็ได้นะคะ” หญิงสาวขันอาสา

“รู้ทางเหรอ” ธันน์หันมาเลิกคิ้วมองขำๆ เมื่อเห็นหญิงสาวมีท่าทีลังเลเล็กน้อย

“อาก็คอยบอกทางสิคะ จะได้ไม่เผลอหลับด้วยไง” พูดจบลดาก็พยักหน้ายืนยันคำพูดของตัวเองว่ามันถูกต้องที่สุด ก่อนธันน์จะหัวเราะและถามกลับ

“ทำอย่างกับเราจะไม่เผลอหลับงั้นแหละ”

“ไม่แน่นอนค่ะ เมื่อคืนหลังจากจัดของเสร็จลดาก็รีบเข้านอนเลย”

นั่นคือคำพูดยืนยันอย่างหนักแน่นของลดา ทว่าผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงคนที่บอกว่านอนไวก็หลับคอพับคออ่อนมาตลอดทางรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ชายหนุ่มปลุก

“ลดา...ลดา...ลดา ตื่นได้แล้ว” ชายหนุ่มที่เติมน้ำมันเสร็จและวิ่งรถมาจอดหน้ามินิมาร์หันไปปลุกคนที่นอนหลับมาเกือบจะตลอดทาง

“ค่ะคะ” ลดาสะดุ้งตื่นขยี้ตามองซ้ายมองขวา แล้วถามเสียงงัวเงีย “ถึงแล้วเหรอคะ”

“เปล่า อาแวะปั๊มน่ะ จะเข้าห้องน้ำหรือเซเว่นไหม”

“ก็ดีค่ะ” ลดาปิดปากหาวแล้วคว้ากระเป๋าก้าวลงจากรถไปล้างหน้าที่ห้องน้ำ เสร็จก็แวะเข้าไปหาของกินรองท้องในมินิมาร์ท ก่อนจะเดินกลับมาที่รถ

“อ้าว ไม่ซื้ออะไรกินเหรอคะ” เธอทักเมื่อขึ้นรถมาเจอธันน์นั่งรออยู่ก่อนแล้ว

“อาดื่มกาแฟแล้วละ ออกเดินทางกันเลยนะ”

“ค่ะ ลดานี่แย่จัง บอกว่าจะไม่หลับ แต่กลับหลับมาตลอดทางเลย” เธอบ่นตัวเองอายๆ ขณะที่มือก็รื้อเลือกของกินในถุงใหญ่ว่าจะกินอะไรก่อนดี

“นอนไปเถอะ ก็เราเหนื่อยจากงานรับปริญญา เช้ามาก็ต้องเดินทางอีก”

“แล้วอาล่ะคะไม่เหนื่อยเหรอ เห็นพ่อบอกว่าเมื่อวานอาก็เพิ่งเดินทางมาถึง วันนี้ต้องเดินทางกลับแล้ว”

“ทนได้ เดินทางไกลบ่อยๆ” ชายหนุ่มหันมายิ้มให้แล้วหันไปมองถนนที่ตอนนี้ไม่ได้มีการจราจรแออัดอีกแล้ว รถมีวิ่งผ่านไปผ่านมาเป็นระยะๆ ซึ่งง่ายแกการขับขี่ แต่ถึงอย่างนั้นธันน์ก็ไม่ได้เร่งความเร็วมากนัก เขาเน้นไปช้าๆ แต่ถึงที่หมายชัวร์ๆ มากกว่า

“แล้วนี่กินอะไรบ้างหรือยังคะนอกจากกาแฟ” คนกินไม่หยุดปากหันมาถาม

“ยัง”

“งั้นลดาแบ่งให้” ว่าแล้วเธอก็ไปหยิบเอาฮอทดอกที่อุ่นพร้อมรับประทานยื่นให้ แต่เขาก็ปฏิเสธยิ้มๆ

“กินเถอะอาขับรถอยู่”

“งั้นลดาป้อนไหมคะ” พูดเองก็ตกใจเองที่เผลอปากไว เธอยิ้มเขินๆ ให้ธันน์เมื่อเขาหันมาเลิกคิ้วมอง “เอ่อ...” และในขณะที่ลดากำลังจะพูดแก้ตัว ชายหนุ่มก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน

“ก็ดีนะ”

“ได้เหรอคะ” หญิงสาวถามอย่างตื่นเต้น ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเออออ

“อื้อ” ชายหนุ่มพยักหน้าน้อยๆ

“งั้นนี่ค่ะ” ลดาใช้ไม้จิ้มฮอทดอกชิ้นหนึ่งแล้วยื่นไปจ่อตรงปากของชายหนุ่ม เมื่อเขาอ้ารับมันไปกินเธอถึงกับอมยิ้มเขิน

“อร่อยดีนะ” เขาชมไปเคี้ยวไป

“อร่อยก็กินเยอะๆ นะคะ ไม่ต้องกลัวไม่อิ่ม ลดาเตรียมเสบียงมาเยอะแยะเลย” หญิงสาวกลบเกลื่อนความอายด้วยการพูดเจื้อยแจ้วพร้อมกับจิ้มของกินใส่ปากธันน์เป็นระยะๆ “น้ำไหมคะ” ถามหน้าตื่นเมื่อเขาสำลัก

ชายหนุ่มพยักหน้า เธอก็รีบยื่นขวดน้ำที่มีหลอดไปจ่อตรงริมฝีปากของเขา แล้วนั่งมองพร้อมกับอมยิ้ม มาถึงตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนคู่รักพากันนั่งรถเที่ยวเล่นจังเลย แค่เริ่มต้นเธอก็มีความสุขอยากบอกไม่ถูก

“มีอะไรหรือเปล่าจ้องอาขนาดนั้น” ธันน์ถามยิ้มๆ เมื่อเห็นหญิงสาวนั่งจ้องเอาจ้องเอา

“ปะ...เปล่าค่ะ แค่คิดว่าจะหาอะไรให้อากินอีกดี” เธอเก็บขวดน้ำแล้วหยิบถุงของกินขึ้นมาค้นแก้เก้อ ก่อนจะเขินหนักเข้าไปอีกเมื่อธันน์ทัก

“ของเก่ายังกินไม่หมดเลยนะ”

“อะ...อ๋อค่ะ ลดากลัวอาอยากกินอย่างอื่นดูบ้าง ขนมไหมคะ” เธอแก้เขินด้วยการยกขนมขบเคี้ยวห่อใหญ่ขึ้นมาถาม

“ไม่หรอก อาไม่ค่อยชอบของพวกนี้เท่าไหร่ และที่สำคัญอาอิ่มแล้ว” ธันน์ปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม

“ค่ะ ถ้าอยากกินอะไรบอกลดานะคะ” เธอบอกก่อนจะหยิบขนมใส่ปากเคี้ยวพลางอมยิ้ม รู้สึกพอใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมาก

“เราชอบบริการคนอื่นอย่างนี้เสมอเหรอ” ธันน์เอ่ยถามขึ้นลอยๆ โดยที่สายตายังจับจ้องอยู่กับถนนตรงหน้า

“ไม่หรอกค่ะ ลดาทำให้เฉพาะคนที่อยากจะทำให้เท่านั้นแหละคะ” พูดเองก็อึ้งเอง เธอหันไปมองสีหน้านิ่งเรียบของธันน์แล้วรีบแก้ต่าง “เอ่อ...ลดาหมายถึงเฉพาะคนรู้จักน่ะค่ะ และอาเป็นเพื่อนพ่อก็ถือเป็นคนรู้จักของลดาเหมือนกันค่ะ” แก้ตัวออกไปแล้วแม้ธันน์จะพยักหน้ารับเหมือนจะเข้าใจ แต่เธอก็ยังรู้สึกว่าเหตุผลที่ตัวเองอ้างออกไปนั้นฟังดูไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่

“อิ่มแล้วง่วงจัง ลดาของีบหน่อยนะคะ” ว่าแล้วก็หลับตาหนีซะเลย ผ่านไปครู่ใหญ่ลดาแอบหรี่ตาข้างหนึ่งขึ้นมองธันน์เห็นเขากำลังตั้งใจขับรถมากโดยไม่สนใจเธอเลยสักนิด แล้วก็เกิดความคิดอยากจะทำอะไรแผลงๆ ขึ้นมา จึงหลับตาลงอีกครั้งแล้วค่อยๆ แกล้งเอนตัวลงให้ศีรษะซบลงที่ไหล่ของชายหนุ่มราวกับหลับลึก แม้จะหลับตาเธอก็รู้สึกได้ว่าเขาหันมามอง แต่ไม่ได้ผลักไส มาถึงตอนนี้ลดาก็ขออยู่ในห้วงแห่งความสุขอย่างนี้ไปอีกสักพัก ตั้งใจเอาไว้แบบนั้นแต่กลับเผลอหลับจริงๆ ไปเสียอย่างนั้นมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่โดนชายหนุ่มปลุก

“ลดา...ลดา...ตื่นได้แล้ว”

“คะ...คุณอาแวะปั๊มอีกเหรอคะ” หญิงสาวงัวเงียถาม มองซ้ายมองขวาทั้งที่ยังตื่นไม่เต็มตา

“เปล่าถึงฟาร์มแล้วต่างหาก”

“จริงเหรอคะ” ลดาอุทานถามหน้าตื่น แล้วรีบยืดตัวมองออกไปนอกรถ

“เป็นไง” ธันน์ถามเมื่อหญิงสาวเกาะขอบกระจกตาโต

“สวยมากเลยค่ะ ลดาตื่นเต้นจริงๆ นะคะเนี่ย เพิ่งเคยมาเที่ยวฟาร์มเป็นครั้งแรก” ปากก็พูดหากสายตานั้นมองดูความเขียวขจีของธรรมชาติที่อยู่โดยรอบฟาร์มไม่วางตา

“เดี๋ยวพรุ่งนี้อาพาทัวร์”

“อาว่างเหรอคะ” ลดาทิ้งตัวหันกลับมาถามชายหนุ่มอย่างสงสัย เพราะจำได้ว่าตอนที่เธอไปขอมาเที่ยวที่นี่เขาบอกว่าอาจจะไม่ว่าง

“ยกให้เราวันหนึ่ง”

“ขอบคุณค่ะ” ลดารีบยกมือไหว้ชายหนุ่มพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจ ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเริ่มต้นได้ดี และหวังว่ามันจะไปได้สวยอย่างนี้ไปตลอด

“ถึงแล้ว” ธันน์จอดรถหน้าบ้านหลังใหญ่ แล้วดับเครื่องยนต์ ลดาที่รอสัมผัสบรรยากาศแสนสวยและดูสดชื่นที่เห็นมาตลอดทางตอนนั่งรถเข้าฟาร์มรีบลงมากวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างตื่นเต้น ก่อนจะมาสะดุดตรงรีสอร์ตที่ถูกปลูกตั้งเป็นแถวไปตามแนวของเขตฟาร์ม

“รีสอร์ตน่าอยู่จังเลยนะคะ”

“อยู่ไหมล่ะอายกให้พักหลังหนึ่ง หรือจะพักบ้านใหญ่กับอา” ธันน์บอกอย่างตามใจ เพราะอยากให้หญิงสาวรู้สึกดีและประทับใจที่สุดให้สมกับที่เป็นรางวัลของความพยายามจากเพื่อนของเขา

“พักกับอาดีกว่าค่ะ” ลดาตอบอย่างไม่ลังเล แม้รีสอร์ตจะน่าอยู่แค่ไหนแต่มันก็ไม่ใกล้ชิดกับธันน์ เรื่องอะไรเธอจะตัดโอกาสของตัวเอง

“กลับมาแล้วหรือคะคุณธันน์” หญิงสูงวัยที่เดินตรงมาหาเอ่ยทักชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มกว้าง

“ครับป้า” ธันน์ยิ้มให้กับผู้สูงวัยเล็กน้อย ก่อนจะหันมาแนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน “นี่ป้าแต๋ว เป็นแม่บ้านของที่นี่ ป้าแต๋วครับนี่ลดาจะมาพักอยู่ที่นี่อาทิตย์หนึ่งครับ”

“สวัสดีค่ะ” ลดายิ้มทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ผู้สูงวัยอย่างนอบน้อม

“สวัสดีค่ะ ต้องการอะไรเรียกป้าได้นะคะ” นางเตือนใจรับไหว้และยิ้มรับหญิงสาวอย่างเอ็นดู

“ค่ะ”

“แล้วนี่กินอะไรกันมาหรือยังคะ ถ้ายังป้าจะได้ไปหาให้กิน” นางเตือนใจถามอย่างเป็นห่วง แม้ตอนนี้จะล่วงเลยเวลารับประทานอาหารมาเป็นชั่วโมงแล้ว

“โดนป้อนมาตลอดทางจนอิ่มแล้วครับ”

“อ๋อ...ค่ะ” คนพูดอาจจะพูดแบบไม่คิดอะไร แต่คนฟังอย่างนางเตือนใจกลับรู้สึกสะดุดหูกับคำตอบเมื่อครู่เสียเหลือเกิน “งั้นป้าเอาของขึ้นไปเก็บให้นะคะ”

“ไม่ต้องก็ได้ครับเดี๋ยวผมพาลดาไปเองดีกว่า ป้ามีอะไรก็ไปทำเถอะครับ”

“ค่ะ” รับคำแล้วนางเตือนใจก็เดินผละออกไป แต่ไม่กี่ก้าวนางก็ต้องหยุดแล้วหมุนตัวกลับมาหรี่ตามองคนทั้งคู่ที่เดินขึ้นข้างบนเล็กน้อย ก่อนจะเดินต่อ

“ห้องว่างมีอยู่สามห้องเราเลือกอยู่ได้ตามสบายเลยนะ” ธันน์บอกพร้อมกับชี้ไปที่ห้องว่างทั้งสาม

“ขออยู่ห้องอาได้ไหมคะ”

“หือ...”

“เอ่อ...ลดาหมายถึงขอพักห้องใกล้ๆ อาได้ไหมคะ” หญิงสาวรีบแก้ตัวอย่างเขินๆ เมื่อเผลอปากไวพูดอะไรตามใจอีกครั้ง “แบบว่าเผื่อมีอะไรฉุกเฉินจะได้เรียกอาง่ายๆ ไงคะ” เธอให้เหตุผลเสริมเข้าไปอีกอย่างกลัวว่าชายหนุ่มจะไม่เชื่อ

“ได้สิ” ธันน์อมยิ้มแล้วพาหญิงสาวเดินไปหยุดที่หน้าห้องห้องหนึ่ง “ห้องนี้เลย ข้างๆ เป็นห้องของอา” เขาพยักพเยิดไปยังห้องที่อยู่ติดกันทางด้านซ้ายมือ

“ขอบคุณค่ะ” ลดายกมือไหว้แล้วเปิดประตูห้อง “ว้าว น่าอยู่จัง” หญิงสาวเอ่ยปากชมพร้อมกับเดินเข้าไปด้านในกวาดสายตามองรอบๆ ห้องที่ถูกตกแต่งด้วยโทนขาวชมพูอย่างถูกใจ

“วันนี้ก็พักให้หายเหนื่อยก่อนนะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน” ธันน์บอกขณะถือกระเป๋าของหญิงสาวไปวางไว้บนเตียง แล้วเดินออกจากห้อง

“แล้วอาจะไปไหนเหรอคะ”

“อาว่าจะเข้าไปดูในฟาร์มหน่อย”

“ไม่พักก่อนเหรอคะ เพิ่งขับรถมาถึงเหนื่อยๆ” หญิงสาวถามอย่างเป็นห่วง เพราะเขาขับรถติดต่อกันนานตั้งหลายชั่วโมง ขณะที่เธอนั่งหลับมาตลอดทางยังรู้สึกล้าและเมื่อยไปทั้งตัว

“พักสิ แต่ขอขี่รถเข้าไปดูหน่อยค่อยกลับมาพัก”

“อาคงไม่คิดว่าลดาจุ้นจ้านมากไปนะคะ” เธอถามอย่างกลัวว่าการที่เขาและเธอเพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่กี่วันแล้วมาพูดนั่นพูดนี่จะทำให้เขาเกิดความรำคาญใจ ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทก็เถอะ อีกอย่างที่กลัวที่สุดคือกลัวจะเสียคะแนน

“ไม่หรอกดีใจเสียอีกที่มีคนคอยเป็นห่วง” ธันน์ยิ้มแล้วยกมือขึ้นโยกศีรษะได้รูปของเธออย่างเอ็นดู

“งั้นลดาขอตัวเก็บของก่อนนะคะ” เธอเลี่ยงพูดไปเรื่องอื่นแก้เขิน

“ตามสบาย อาไปนะ”

ลดาพยักหน้ารับมองตามหลังชายหนุ่มไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะปิดประตูแล้วจัดเก็บข้าวของออกจากกระเป๋าเข้าตู้ให้เรียบร้อย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel