บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 แรกพบสบตา พาหัวใจหวั่น (2)

“รู้น่า ไปขอถ่ายภาพคู่เก็บเป็นที่ระลึกดีกว่า แกมาด้วยจะได้ไม่ผิดสังเกต” ลดาว่าพลางลากแขนเพื่อนเดินตรงไปหาพวกผู้ใหญ่ที่ยืนคุยกันอยู่

“พ่อคะ” ลดาเข้าไปสะกิดคนเป็นพ่อ

“ว่าไงลูก”

“ลดาอยากถ่ายภาพร่วมกับทุกคนอีกครั้งน่ะค่ะ แบบว่าคราวก่อนขาดเพื่อนพ่อไปคนหนึ่ง” ลดาบอกเสียงแผ่ว พยายามเก็บท่าทีกระดี๋กระด๋าให้มิด เห็นอย่างนี้พ่อของเธอนั้นก็หวงลูกสาวใช่ย่อยเหมือนกัน ขืนไปแสดงท่าทีว่าสนใจผู้ชายรุ่นพ่อละก็โดนด่าแน่ๆ

“จริงด้วย เอาสิ” ลภชัยเออออเหมือนเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ “ทุกคนมาถ่ายภาพกลุ่มหน่อยเร็ว โดยเฉพาะมึงไอ้ธันน์ ยังไม่มีภาพสักชอต”

“ก็คนเพิ่งมาถึง”

“แป๋มถ่ายให้เองค่ะ” ปฐมาอาสา รู้ว่าจุดประสงค์หลักของการเรียกทุกคนที่เหลือมารวมเฟลมภาพถ่ายในครั้งนี้คืออะไร ทำให้เมื่อถ่ายภาพกลุ่มเสร็จก็ร้องขอชอตสำคัญ “ขอภาพคู่ลดากับคุณธันน์หน่อยนะคะ ยังไม่มีสักภาพเลย”

ลดาได้ยินอย่างนั้นแทบอยากจะคลานเข่าเข้าไปกอดเพื่อนรัก ไม่เสียแรงที่คบกันมายาวนาน มองตาก็รู้ใจ เดี๋ยวหลังจากนี้คงต้องหาเวลาไปเลี้ยงขอบคุณนอกรอบกันหน่อยแล้ว

“ได้สิ”

คำตอบรับจากธันน์ทำให้ลดาแอบกำกำปั้นแล้วเขย่ามันอย่างถูกใจ และยิ่งช่างภาพจำเป็นสั่ง เธอก็ถึงกับเปิดยิ้มกว้าง

“ชิดๆ หน่อยค่ะเดี๋ยวตกเฟลม” ปฐมาบอกพลางโบกมือให้ธันน์ขยับเข้าไปใกล้ๆ เพื่อนรักอีกหน่อย เมื่อพอใจจึงกดชัตเตอร์ “ขออีกภาพนะคะ ทั้งคู่หันหน้าเข้าหากันแล้วเอียงข้างนิดๆ ค่ะ”

ลดาทำตามคำสั่งของช่างภาพจำเป็นอย่างรู้งานและรู้ใจ ให้เพื่อนรักได้กดชัตเตอร์และเปลี่ยนท่าโพสต์อยู่อีกสองสามภาพธันน์จึงถูกปล่อยตัว

“ขอบคุณนะคะ” ลดาบอกพลางส่งยิ้มหวานให้เพื่อนของพ่อ จากนั้นก็รีบวิ่งไปหาปฐมาเพื่อดูผลงาน “แป๋มขอดูภาพหน่อยซิ”

“ฝีมือระดับนี้สวยอย่างกับมืออาชีพ” ปฐมายื่นกล้องให้เพื่อนแล้วยอตัวเอง

“สวยจริงๆ ด้วยอะ อาธันน์หล่ออย่างกับนายแบบแน่ะ” ลดามองภาพคนที่เธอเอ่ยถึงแล้วถอนหายใจอย่างเสียดาย เพราะทำได้แค่ชื่นชม แล้วร้องเพลงขึ้นลอยๆ ว่า “ที่บ้านมีอีกไหม มีอีกไหม มีอีกคนไหม มีอีกคนไหมเธอ...”

“คนนี้ไม่มีสิทธิ์จะไปจีบน้องชายเขาหรือไง” ปฐมาถามคนที่เป็นเอามากเสียงกลั้วหัวเราะ นี่ถ้าไม่คิดว่าอีกฝ่ายมีภรรยาแล้ว ป่านนี้บีบน้ำตาให้พ่อไปสู่ขอแล้วมั้ง

“บ้า ฉันหมายถึงลูกชายอะไรอย่างงี้ เผื่อมี และถ้ามีก็น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเราหรือเปล่า” ลดาเอาเรื่องของธันน์มาเม้าท์มอยกับเพื่อนรักอย่างสนุกปาก และคิดไปว่าหากเขามีอย่างที่เธอว่าจริงมันก็คงจะดีไม่น้อย

“ไม่ได้พ่อก็จะเอาลูกว่างั้นเถอะ”

“ก็งานเขาดี พ่อลูกงานก็คงดีไม่ต่างกันมั้งแก” พูดจบลดาก็ปิดปากหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ

“สาธุ...ขอให้เขามีแต่ลูกสาว” ปฐมาพนมมือยกขึ้นเหนือศีรษะ เห็นแล้วลดาก็ฟาดเข้าที่แขนของเพื่อนรักอย่างหมั่นไส้

“ยายแป๋ม แกมันชอบสกัดดาวรุ่ง”

“ถ้าฉันจะสกัดจริงๆ ไม่ช่วยแกเรื่องถ่ายรูปหรอกจริงไหม อย่าลืมของเซ่นฉันละ” ปฐมาทักท้วงอย่างไม่ได้จริงจังนัก ที่ทำไปทั้งหมดก็รู้ว่าเพื่อนชอบและดีใจแหละ ถือว่าเป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ในวันรับปริญญา

“เรื่องนั้นรู้น่า ขอบใจมากนะจ๊ะเพื่อนร๊ากกก...” ลดาโผเข้าไปกอดและซบไหล่ปฐมาอย่างออดอ้อน

“ไม่ต้องมากอดเลย เตรียมทรัพย์ไว้ให้ดีละกัน ฉันจะกินจนกระเป๋าแกฉีกขาดกระจุย” เธอแกล้งขู่

“อย่างแก ฉีกไม่กลัวกลัวไม่ฉีก” ลดารับคำท้า รู้ดีว่าคนอย่างปฐมาเป็นกินน้อย ที่ว่าหิวมากๆ ยังไม่เท่าเธอหิวธรรมดาเลย กินอย่างกับแมวดม เธอมักเตือนบ่อยๆ ว่าให้กินเยอะๆ เพราะถ้าว่ากันตามตรงคือปฐมาติดจะผอมไปด้วยซ้ำ ไม่รู้เพราะพฤติกรรมการกินหรือพันธุกรรม

“ลดา...”

“คะแม่” หญิงสาวขานรับคนเป็นแม่ แต่ตานั้นกลับมองไปที่ร่างสูงของใครอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ คนเป็นพ่อ

“จะถ่ายรูปที่ไหนอีกไหม ถ้าไม่ แม่กับทุกคนว่าจะกลับแล้วนะ จะได้ไปซื้อของไปย่างกินที่บ้านเย็นนี้ไง”

“กลับเลยก็ได้ค่ะ ลดาก็ร้อนและเหนียวตัวอยากอาบน้ำจะแย่” ลดาบอกพลางเดินนำปฐมาไปหาทุกคน

“งั้นเอาอย่างนี้เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา แม่จะไปซื้อของกินกับชลและนาถ ส่วนพ่อก็พาทุกคนไปรอที่บ้านโอเคไหม” ญดาเสนอความคิด เพราะกว่าจะฝ่าการจราจรของที่นี่ออกไปได้ก็กินเวลาไม่น้อย ไหนกว่าจะวิ่งรถไปถึงบ้านอีก ถึงการจราจรจะไม่หนาแน่นเท่าที่นี่ แต่ถนนก็ไม่ได้โล่ง สู้แวะซื้อของและกลับบ้านทีเดียวเลยน่าจะประหยัดเวลาได้มากกว่า

“โอเคตามนั้น งั้นก็แยกย้าย ไอ้ธันน์จำได้ใช่ไหมว่าบ้านกูอยู่ไหน” ลภชัยหันไปถามเพื่อนรัก เพื่อความแน่ใจว่าอีกฝ่ายจะหาทางไปบ้านของตัวเองถูก เพราะล่าสุดธันน์มาที่บ้านเขามันก็หลายปีมาแล้ว จากวันนั้นถึงวันนี้ถึงบ้านจะตั้งอยู่ที่เดิมแต่สภาพแวดล้อมหลายๆ อย่างมันก็เปลี่ยนแปลงไปมาก

“คิดว่าได้ ถ้าหลงเดี๋ยวโทร.ถามละกัน” ธันน์ที่ไม่อยากให้เพื่อนมายุ่งยากบอกตัดบทอย่างเกรงใจ อีกทั้งยังเชื่อในการจดจำเส้นทางที่แม่นยำของตัวเองอยู่

“โอเค งั้น ลดา แป๋มไปขึ้นรถ” เรียกแล้วลภชัยก็เดินนำทั้งสองสาวไปที่รถ

“ฉันควรเสนอตัวนำทางดีไหม” ลดากระซิบกระซาบถามความเห็น

“เก็บอาการนิดหนึ่งเพื่อน เขาไม่ได้อยากได้คนนำทาง เขาบอกว่าจำทางไปบ้านแกได้ และอีกอย่างท่องไว้เขามีเจ้าของแล้ว” ปฐมาเตือนสติเพื่อนรัก แล้วหัวเราะเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าตกใจเหมือนคนที่เพิ่งตื่นจากภวังค์ต้องมนต์อะไรสักอย่าง

“โทษทีขอดึงสติแป๊บ...ความหล่อมันมอมเมาฉัน” ลดายกมือขึ้นมานวดขมับตัวเองแรงๆ ก่อนมือทั้งสองข้างจะนิ่งชะงักเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ว่าแต่อาธันน์มาบ้านฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ถึงได้บอกว่าจำทางไปบ้านฉันได้น่ะ” เธอถามอย่างสงสัย อยากรู้ถึงอยากรู้มากเพราะตอนที่ชายหนุ่มมาเธอไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ถึงไม่เจอและเพิ่งมาเจอเอาตอนนี้

“ถามพ่อแกดูสิ” ปฐมาพยักพเยิดหน้าไปยังผู้สูงวัยที่เดินนำเธอและเพื่อนรักห่างออกไปค่อนข้างมาก

“จริงด้วย ถามเรื่องนี้พ่อคงไม่สงสัยมั้งเนาะ”

“ก็ถ้าแกไม่แสดงอาการอยากรู้จนออกนอกหน้าน่ะนะ”

“แน่นอน” ลดาบอกให้ปฐมาวางใจ และการถามเรื่องนี้มันก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเชื่อมโยงไปถึงข้อมูลเรื่องอื่นๆ ของธันน์ด้วย เธอเชื่อว่าสามารถหลอกถามมันจากคนเป็นพ่อได้อย่างแนบเนียนแน่นอน คิดอย่างหมายมาดก่อนจะขึ้นไปนั่งบนรถ โดยที่เธอนั่งคู่คนเป็นพ่อ ส่วนปฐมานั่งเบาะหลังแต่ก็ใช้มือเกาะหลังเบาะตลอดเวลา เพื่อที่จะได้คุยกันถนัด

“ถามสิ” ปฐมากระซิบบอกเพื่อนพลางพยักพเยิดหน้าไปที่ลภชัย หลังจากที่นั่งรถมาได้ระยะหนึ่ง แต่ลดายังเงียบ

“เดี๋ยวๆ ขอเรียกความกล้าก่อน” ว่าแล้วลดาก็เบือนหน้าไปทางประตูรถแล้วแอบสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เริ่มคิดว่าจะชวนคนเป็นพ่อคุยและปูเรื่องเข้าเรื่องที่เธอจะถามนี้อย่างไรดีไม่ให้เป็นที่สงสัย

“พ่อขับรถออกมาเลยแบบนี้โดยไม่รออาธันน์ ไม่กลัวอาธันน์จะหลงทางเหรอคะ” แล้วหญิงสาวก็เริ่มถามพลางเอี้ยวตัวมองกลับไปด้านหลังที่มีรถติดยาวเหยียด แต่ไม่เห็นแม้เงารถยนต์ของธันน์

“ก็มันบอกว่ามันจำได้” ลภชัยบอกอย่างไม่เป็นกังวล เพราะถ้าจำไม่ได้หรือหลงธันน์ก็คงโทร.หาเขาเองอย่างที่เจ้าตัวบอกนั่นแหละ

“อาธันน์เคยมาบ้านเราด้วยเหรอคะ” เมื่อปูทางเรียบร้อย ลดาก็รีบถามเข้าเรื่องที่ตัวเองสงสัยทันที และคำตอบที่ได้รับก็ทำเอาคนฟังอย่างเธอเจ็บจี๊ดไปทั้งใจ

“เคยมาสิ ตอนนั้นรู้สึกมันจะพาเมียมาเที่ยวกรุงเทพฯ เลยแวะมาเยี่ยม แต่ก็มาแป๊บเดียว” ลภชัยตอบคำถามของลูกสาวอย่างไม่ติดใจสงสัยอะไร

“แล้วทำไมคราวนี้อาธันน์ไม่เอาเมียมาด้วยล่ะคะ ลดาอยากเห็น” หญิงสาวบอกคนเป็นพ่ออย่างสนใจ เอาจริงๆ เธอก็ทั้งอยากเห็นและไม่อยากเห็นนั่นแหละ แต่ถึงอย่างนั้นความอยากเห็นก็ยังมีมากกว่า จะได้รู้ว่าหน้าตาของผู้หญิงที่ครองใจผู้ชายอย่างธันน์เป็นอย่างไร สวยแค่ไหน

“คงไม่ได้เห็นแล้วละ”

“ทำไมคะ หรือเมียอาธันน์ไม่ชอบกรุงเทพฯ” ลดาละล่ำละลักถาม

“เปล่า แต่พวกเขาเลิกกันมาได้หลายปีแล้ว”

“เลิกกัน!” ทั้งสองสาวถามขึ้นพร้อมกันอย่างตกใจระคนดีใจ โดยเฉพาะลดา ถ้าตอนนี้ไม่ใช่อยู่บนรถ เธอคงกระโดดตัวลอย

“ทำไมคะ” ลดาเผลอถามออกไปด้วยความอยากรู้

ลภชัยที่ถือโอกาสในช่วงรถติดหันมามองสองสาวยิ้มๆ พร้อมกับเอ่ยล้อว่า “สนใจจังน้า...”

“เปล๊า! พวกเราก็แค่อยากรู้อยากเห็นแค่นั้นเองค่ะ เนาะยายแป๋ม” ลดาปฏิเสธเสียงสูง รีบแก้ตัวเป็นพัลวัน แล้วทิ้งท้ายด้วยการหาพรรคพวก

“ค่ะ เรียกง่ายๆ ว่าชอบเผือก” ปฐมายอมรับแบบตรงๆ เธอจึงโดนเพื่อนรักมองค้อน

“เมียมันทิ้ง...” และยังไม่ทันที่ลภชัยจะพูดจบลดาก็รีบแทรกขึ้น

“ทิ้ง! หล่อขนาดนี้โดนทิ้งเหรอคะ” เธอถามอย่างสงสัย

“หล่อมันกินได้ไหมล่ะ” ลภชัยถามลูกสาวกลับ หน้าตาดีหล่อเลิศเลอเพอร์เฟกต์ขนาดไหนมันก็อยู่ด้วยกันไม่รอดหรอก เพราะการใช้ชีวิตคู่มันมีองค์ประกอบหลายอย่างและสำคัญมากกว่าเรื่องหน้าตา

“แหม...มันก็ไม่ได้หรอกค่ะ” ลดาแก้ตัวเสียงอ่อย เมื่อรู้สึกว่าเธอเอาเรื่องหน้าตามาตัดสินเรื่องนี้ และลืมคิดไปว่าถ้าคนเราเลือกที่จะอยู่ด้วยกันเพียงแค่หน้าตาเท่านั้น คนหน้าตาดีๆ ก็คงไม่โดนทิ้งหรือผิดหวังในเรื่องความรักสินะ “แต่ถ้ารักกันจริงก็ต้องช่วยกันทำมาหากินสิคะ หรืออาธันน์ขี้เกียจ” ลดาลองเดาสาเหตุและมุ่งเน้นไปที่ฝ่ายชาย ถ้าหน้าตาดีและขยันฝ่ายหญิงก็ไม่น่าทิ้ง ดังนั้นมันน่าจะเป็นปัญหาอื่น

“คนที่ขี้เกียจคือฝ่ายหญิงโน่น พอลำบากไม่มีเงินให้ใช้จ่ายมือเติบเหมือนเดิม เขาก็ตีจาก” ลภชัยแย้งด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง เอ่ยถึงอดีตภรรยาของเพื่อนรักทีไรรู้สึกฉุนขาดทุกที ผู้หญิงอะไรหน้าตาก็สวยดีอยู่หรอกแต่ใจดำเหลือเกิน ตอนทิ้งไม่คิดถึงตอนที่รักกันเลยสักนิด

“เกิดอะไรขึ้นคะ” ลดาถามอย่างสนใจ

“ฟาร์มม้าเกิดภาวะขาดทุน หนี้สินรุงรังแทบสิ้นเนื้อประดาตัว ผู้หญิงที่ไหนเขาจะอยู่ด้วย” ลภชัยสรุปให้ลูกสาวฟังสั้นๆ และมันคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ธันน์กับอดีตภรรยาระหองระแหงสุดท้ายก็เลิกรากันในที่สุด

“แต่คนที่เป็นคู่ชีวิตกันก็ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุข ฝ่าฟันปัญหาช่วยเป็นแรงกายแรงใจให้กันสิคะ” ลดาออกความเห็นเสียงเข้ม รู้สึกโกรธผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาทันที เพียงแค่รู้ว่าอีกฝ่ายทิ้งธันน์ไปยามที่ชายหนุ่มลำบากต้องการกำลังใจ

“พูดน่ะมันง่าย แต่เอาเข้าจริง การเผชิญความลำบากและปัญหาจริงๆ มันก็นะ ผู้หญิงเขาก็หวังให้ผัวเลี้ยงให้ได้อยู่อย่างสุขสบาย ตอนมีเงินมันทำได้ แต่พอหมดเงินจะเอาอะไรไปเปย์เขาล่ะจริงไหม” ลภชัยหันมาถามสองสาวเสียงขืน พูดถึงทีไรสะเทือนใจทุกที แม้มันไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แต่เขาก็รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด

“ถ้าผู้หญิงเป็นแบบนั้นก็ปล่อยไปเถอะ เนาะยายแป๋ม” ลดาหันมาหาปฐมา ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย แล้วโน้มตัวกระซิบ

“แกจะได้เสียบแทนใช่ไหม”

ลดาพยักหน้าหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ อย่างน้อยความหวังที่เคยดับสนิทมันก็เริ่มเรืองรองขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนมันจะสว่างจ้าเมื่อได้ยินคำพูดต่อมาของคนเป็นพ่อ

“ก็ปล่อยไงมันถึงได้เป็นโสดมาจนถึงทุกวันนี้”

“อาธันน์ยังไม่มีใครจริงๆ เหรอคะ” ลดาถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นและออกอาการดีใจจนออกนอกหน้า ปฐมาเห็นแล้วต้องรีบสะกิดและขยิบตาเป็นสัญญาณเตือนเมื่อเพื่อนรักหันมามอง และนั่นทำให้ลดาถึงรู้ตัวทำตาโตหันไปมองคนเป็นพ่อที่เลิกคิ้วมองอยู่แล้วยิ้มแหย่ๆ แก้ตัวเสียงแผ่วว่า “คือ...ก็ยังเห็นว่าอาธันน์ยังดูไม่แก่เลยสักนิด น่าจะมีคนเข้ามาบ้างอะไรบ้างนะคะ”

“ตั้งแต่เมียมันทิ้งไป มันก็หมกตัวอยู่แต่กับงานในฟาร์มปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทุกอย่างอยู่หลายปีกว่ามันจะเข้าที่เข้าทางและเห็นผลจะเอาเวลาที่ไหนไปมีล่ะ” ลภชัยบอกเท่าที่รู้ นอกเสียจากว่าเพื่อนเขามันจะซุกเอาไว้และยังไม่อยากเปิดตัว

“นั่นสินะคะ” ปากก็พูดกับคนเป็นพ่อหากสายตานั้นหันมามองปฐมาแล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้อย่างรู้กัน จากที่คิดว่าจะแอบมองแอบชื่นชอบธันน์ให้พอเป็นอาหารตาอาหารใจ แต่เมื่อตอนนี้สถานะของชายหนุ่มมันเปลี่ยน เป้าหมายของเธอมันก็ต้องเปลี่ยนเช่นกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel