วันเกิด
นับดาว.....
"ดาวพรุ่งนี้วันเกิดเธอใช่ไหม" จู่ๆนนท์ก็ถามฉันขึ้นมาจนฉันงงเพราะฉันไม่เคยบอกเขา
"อื้อออ นายรู้ได้ไงอ่ะ"
"เรารู้แล้วกันน่าว่าแต่เธอจะไปเลี้ยงฉลองวันเกิดที่ไหน"
"ฉลองวันเกิดเหรอ ปกติทุกปีเราจะฉลองกับที่บ้านน่ะแต่ปีนี้คงไม่ได้ฉลอง" พอคิดถึงเรื่องนี้ฉันก็รู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูกเพราะทุกปีฉันจะฉลองวันเกิดพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวเล็กๆของฉันโดยมีครอบครัวของทิศเหนือมาร่วมงานด้วยแต่ปีนี้คงไม่มีแบบนั้นอีกแล้ว
"งั้นเอางี้ไหมถ้าเธอไม่รังเกียจเราอยากจะเลี้ยงวันเกิดให้เธอเอง"
"มันจะดีเหรอ"
"ทำไมจะไม่ดีเราเป็นเพื่อนกันนะ หรือเธอไม่คิดว่าเราเป็นเพื่อนกัน"
"ไม่ใช่แบบนั้น คือเราเกรงใจน่ะ"
"จะมาเกรงใจอะไร ไม่ต้องเกรงใจ"
"แล้วนายจะจัดที่ไหนล่ะ"
"อืมมมม ผับพี่ชายเพื่อนเราเอง"
"ผับเหรอ ตั้งแต่เกิดมาเราไม่เคยเข้าผับเลยอ่ะ แล้วอีกอย่างเราไม่ชอบกินเหล้าด้วย"
"ก็ไม่ต้องกินเหล้าก็ได้แค่ไปนั่งคุยกัน อันที่จริงเพื่อนของเราอยากรู้จักเธอน่ะ"
"เพื่อนของนายน่ะเหรออยากรู้จักเรา"
"อืมม พวกมันถามว่าเรามีเพื่อนใหม่หรือยังเราก็บอกไปว่ามีแล้วมันเลยบอกว่าอยากรู้จักเพราะเราไม่เคยมีเพื่อนผู้หญิง"
"อยากรู้จักเราเนี่ยนะ"
"อื้มมม พวกมันรู้ไงว่าเราคบคนยากมันก็เลยอยากรู้ว่าเธอเป็นคนแบบไหนทำไมเราถึงคบด้วย"
"เราต้องดีใจใช่ไหมเนี่ยที่นายมาคบกับเราน่ะ"
"ก็ต้องดีใจดิเพราะเราไม่ใช่คนที่จะคบกับใครก็ได้ถ้าไม่รู้สึกพิเศษจริงๆ"
"รู้สึกพิเศษงั้นเหรอ" ฉันไม่เข้าใจว่าไอ้คำว่ารู้สึกพิเศษของนนท์มันหมายถึงอะไร
"อื้มม มีหลายครั้งแล้วก็หลายคนบอกว่าเราหยิ่งแต่จริงๆแล้วเราแค่ไม่ชอบให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายถ้าคนๆนั้นไม่ได้พิเศษจริงๆ"
"อ่อ เป็น introvert ว่างั้นพวกโลกส่วนตัวสูงคบคนยาก"
"ประมาณนั้นมั้งไม่รู้ดิเราแค่เลือกคบคนเฉยๆ" ฉันเข้าใจนนท์เลยเพราะฉันก็เป็นแบบนั้น ทั้งชีวิตของฉันมีเพื่อนแค่สามคนนั่นก็คือยัยมิ้นที่คบกันมาตั้งแต่อนุบาลกับทิศเหนือที่รู้จักกันมาตั้งแต่เกิดแล้วก็มานนท์นี่แล่ะ สำหรับนนท์อาจจะเป็นเพราะเราเป็นคนคล้ายกันก็เลยคบกันได้คือทั้งมหาลัยเราคบกันอยู่แค่สองคนไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดจนบางครั้งก็ถูกมองถูกแซวว่าเราเป็นกันแต่ทั้งฉันทั้งนนท์ก็ไม่เคยแคร์คำพูดของคนอื่น ส่วนทิศเหนือน่ะเหรอตั้งแต่มันเข้ามหาลัยฉันแทบไม่เจอหน้ามันเลยอาจจะเป็นเพราะเราเรียนกันคนละคณะหรือไม่มันอาจจะกลัวว่าจะมีคนเข้าใจผิดถ้ามาคุยกับฉัน
"ว่าไงตกลงไหมถ้าตกลงเราจะได้โทรบอกเพื่อนให้มันจองโต๊ะไว้ให้" ฉันลังเลใจอยู่สักพักก่อนจะรับปากตกลงแต่มีข้อแม้ว่านนท์ต้องมาส่งฉันที่คอนโดไม่เกินเที่ยงคืนเพราะฉันเป็นคนไม่ชอบนอนดึกซึ่งเขาก็ตอบตกลง
คอนโด...
ฉันกลับมาถึงคอนโดหลังจากไปดูหนังกับนนท์มาพอเปิดประตูเข้ามาก็เจอทิศเหนือกำลังนั่งดูทีวีอยู่หน้าโซฟาแต่มันไม่ได้นั่งอยู่คนเดียวมันมีผู้หญิงคนนึงนั่งอยู่ด้วยแต่ไม่ได้นั่งแบบปกติผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่บนตักมัน ฉันมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกหน่วงที่ใจอย่างบอกไม่ถูก
พอมันได้ยินเสียงประตูเปิดทั้งมันทั้งผู้หญิงของมันก็หันมามองที่ฉัน ทำให้ฉันเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นชัดเจนเธอคือเพื่อนร่วมคณะของฉันเองชื่อว่ามีนา ฉันทำหน้าไม่ถูกทำตัวไม่ถูกเพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมามันไม่เคยพาใครมาที่คอนโดเลย
"อ้าววว นับดาวสวัสดี เธอเองสินะที่เป็นเพื่อนของเหนือที่เหนือบอกว่าอยู่กับเพื่อนที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กที่แท้ก็เธอนั่นเอง^^"
"อื้มมหวัดดี ฉันไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี่นะ"
"อื้มมม พอดีเหนือชวนเรามาดูหนังที่ห้องน่ะเราก็เลยมาว่าแต่เธอไปไหนมาเหรอ"
"ไป..." ฉันไม่ทันได้ตอบทิศเหนือก็ตอบแทนเรียบร้อย
"ไปดูหนังกับแฟนมามั้ง"
"อ่อกับนนท์น่ะเหรอ"
"ฉันไม่ได้..." ฉันกำลังจะพูดว่าฉันกับนนท์เราไม่ได้เป็นแฟนกันแต่ทิศเหนือก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
"มีนาฉันว่าเราเข้าไปดูหนังข้างในห้องกันดีกว่าฉันมีหนังที่สนุกกว่าเรื่องนี้ให้เธอดู" พูดจบประโยคทิศเหนือมันก็ลุกขึ้นแล้วเดินจูงมือมีนาเดินไปที่ห้องนอนของมัน
"เรื่องอะไรเหรอเหนือที่ว่าสนุกอ่ะบอกได้มั้ย"
"ไม่บอกเดี๋ยวไม่มันส์" มันพูดกับมีนาแต่สายตาจ้องมองที่ฉันฉันก็จ้องตามันกลับจนกระทั่งมันเดินเข้าห้องแล้วปิดประตู
ฉันพยายามเลิกสนใจแล้วกลับเข้าห้องเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็ออกมาต้มมาม่ากินเพราะรู้สึกหิว ฉันถือถ้วยมาม่ามานั่งกินตรงหน้าโซฟาเพราะจะดูซีรี่ส์เรื่องโปรดแต่...
"อื้อออ เหนือทำอะไร ไม่เอา"
"น่า นิดเดียวเอง"
"อื้อออเหนือ อย่าน๊าาาา" เสียงที่ดังลอดออกมาจากห้องนอนของทิศเหนือไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสองคนนั้นดูหนังหรือทำอะไรกันแน่ ฉันไม่อยากทนได้ยินได้ฟังอะไรแบบนี้ก็เลยปิดทีวีแล้วก็ลุกเอาถ้วยมาม่าไปล้างแล้วเดินกลับเข้าห้องนอนตัวเอง
อยากจะบอกว่าฉันนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะคิดอะไรไปต่างๆนาๆ แต่วันนี้เป็นวันเกิดของฉันฉันก็เลยต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อจะไปซื้อของใส่บาตรจากนั้นค่อยไปมหาลัย พอฉันเดินออกจากห้องมาก็เจอทิศเหนือกำลังยืนกินน้ำอยู่หน้าตู้เย็น ในสภาพที่ใส่แต่กางเกงขายาวตัวเดียว พอมันเห็นฉันเดินออกมาจากห้องมันก็วางแก้วน้ำลงแล้วเดินผ่านหน้าฉันฉันเพื่อกลับห้องของมันแต่ในขณะที่มันกำลังจะเดินผ่านหน้าฉันไปฉันเห็นรอยต่างๆที่อยู่บนตัวของมันรอยที่มีตั้งแต่ต้นคอมาลามลงจนถึงหน้าท้องฉันไม่ได้อยากจะมองหรอกนะแต่สายตามันมองเอง
"สุขสันต์วันเกิดนะ" มันเอ่ยขึ้นมาก่อนที่มันจะเปิดประตูเข้าห้องมันไป
ฉันหันหลังไปมองประตูห้องของมันที่เพิ่งปิดไป ไม่นานฉันก็ได้ยินเสียงบางอย่างเล็ดลอดออกมาจากห้องนอนของทิศเหนือ
"อื้อออ เหนือออขาาา เหนือขาาาา" แล้วจู่ๆน้ำตาของฉันก็ไหลออกมา ทั้งที่วันนี้เป็นวันเกิดของฉันแท้ๆแต่ทำไมฉันต้องมาร้องไห้กับเรื่องพวกนี้ด้วย
ฉันพยายามทำใจให้โล่งไม่เอาความเครียดหรือความไม่สบายใจมาใส่หัว ฉันใส่บาตรจนครบเก้าองค์หลังจากนั้นฉันก็เดินไปมหาลัยขณะที่กำลังเดินข้ามถนนเพื่อเข้าไปในมอรถของทิศเหนือก็ขับผ่านหน้าฉันไปซึ่งบนรถก็มีมีนานั่งมาด้วย
"กินอะไรดีเดี๋ยวเราจะไปซื้อมาให้" นนท์ถามฉันขณะที่เรากำลังเดินมาที่โรงอาหาร
"อะไรก็ได้"
"อีกแล้วนะกับคำนี้ขอซื้อได้ไหม"
"งั้นเอาก๋วยเตี๋ยวไก่ก็แล้วกัน"
"โอเคก๋วยเตี๋ยวไก่ไม่ใส่กระเทียมเจียวไม่ใส่ผักชี"
"อื้มมม" พอนนท์เดินไปสั่งอาหารฉันก็หาที่นั่งรอแต่แล้วสายตาเจ้ากรรมของฉันก็หันไปเจอทิศเหนือกับมีนานั่งอยู่ที่โต๊ะตรงข้ามกับฉัน ฉันไม่เคยเห็นทิศเหนือมานั่งกินข้าวที่นี่เลยและดูเหมือนเขาสองคนจะสนิทสนมกันมากหวานกันมากโดยไม่แคร์สายตาคนอื่นที่มองอยู่ จนฉันคิดว่าทิศเหนืออาจจะจริงจังกับมีนาก็ได้ อยากจะบอกว่ามีนาเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆเธอเป็นดาวคณะด้วยไม่แปลกที่ทิศเหนือจะชอบ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆอย่างที่ฉันคิดฉันอาจจะต้องบอกพ่อกับแม่ว่าฉันจะย้ายออกมาอยู่คนเดียวข้างนอกเพราะถ้าฉันยังอยู่ที่คอนโดเดียวกับทิศเหนือมันอาจจะทำให้มีนาไม่สบายใจก็ได้ถ้าเธอจะคบกับทิศเหนือจริงๆ
"เป็นอะไรวันนี้ก๋วยเตี๋ยวมันไม่อร่อยเหรอ" นนท์ถามฉันเพราะฉันแทบจะไม่ตักก๋วยเตี๋ยวเข้าปากเลย คือมันกินอะไรไม่ลงจริงๆยิ่งหันไปเจอทิศเหนือกับมีนาและเหมือนทิศเหนือมันจะรู้ว่าฉันมองมันมันก็ยิ่งทำตัวสวีทหวานกับมีนามากกว่าเดิม
"อื้มมม นนท์เราไปหาอะไรกินกันที่อื่นดีมั้ยเรารู้สึกเบื่ออาหารในโรงอาหารแล้วอ่ะ"
"อื้มมได้ดิเธออยากกินอะไรอ่ะ"
"อะไรก็..."
"อย่าพูดนะว่าอะไรก็ได้อีกแล้วน่ะ"
"เอางี้นายอยากพาเราไปกินอะไรที่ไหนก็พาไปเลยก็แล้วกัน"
"โอเค" หลังจากนั้นฉันก็ลุกออกจากโรงอาหารไปพร้อมกับนนท์ แต่ฉันไม่อยากเดินออกไปเฉยๆแบบนั้น
"โอ๊ย นนท์จู่ๆเราก็รู้สึกเจ็บขาอ่ะสงสัยนั่งนานจนขาเป็นตะคริวแน่เลย" ฉันแสร้งทำเป็นปวดขาเดินไม่ไหว
"แล้วนี่เธอเดินไหวไหม"
"ไม่ค่อยไหวอ่ะนายช่วยพยุงเราเดินหน่อยได้ไหมอ่ะ"
"อื้มมมได้ดิ" หลังจากนั้นฉันก็จับแขนนนท์แล้วนนท์ก็เอามือมาประคองหลังของฉันแล้วพาเดินออกไปซึ่งอยากจะบอกว่าทิศเหนือมองมาที่ฉันตลอดแต่ฉันพยายามไม่สนใจ