บทที่ 4
ในเมื่อเขาเห็นว่าเธอไม่ยอมเขา แล้วเขาต้องไปหาผู้หญิงอื่น เธอก็ไม่เห็นความจำเป็นอะไรที่จะต้องมาหวงเนื้อหวงตัว
ม.ร.ว.หญิงคิดในใจ เมื่อสติของเธอกำลังจะหลุดออกไปจากร่างเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ เธอดื่มราวกับว่ามันเป็นน้ำเปล่า ทั้งที่ตัวเองไม่ใช่นักดื่ม ความน้อยใจ เสียใจ และอยากประชดคนรัก ทำให้เธอมองจ้องชายหนุ่มที่พึ่งเข้ามานั่งในผับข้างเธอ ก่อนจะตัดสินใจ ว่าเธอจะหวงตัวไปให้คนรักอีกทำไม ในเมื่อวันวิวาห์มันไม่มีทางที่จะมาถึง เธออยากจะประชดเขา ด้วยการเสียพรหมจรรย์ที่เฝ้าแหนหวงให้คนแปลกหน้าสักคน ใครก็ได้…
เมื่อมองเห็นนัยน์ตาคมกริบ เหมือนกับตาเหยี่ยว ที่บังเอิญจ้องมองเธอชั่วแวบ หญิงสาวก็เดินราวกับสะกดไปหาเขา และเริ่มลีลาของสาวนักยั่ว จนในที่สุดชายหนุ่มก็พาเธอขึ้นรถแท็กซี่ ออกมายังโรงแรมหรู และกึ่งโอบกึ่งประคองเธอมายังห้องที่เขาเปิดไว้
“อาบน้ำก่อนไหม? คนสวย” น้ำเสียงห้าวทุ้มเอ่ยถามเธอ นัยน์ตาคมกริบมองจับจ้องนัยน์ตากลมหวานที่มองเขาอย่างเบลอๆ เธอสวยมาก กันดิศบอกกับตัวเอง และเขาคงจะไม่ปล่อยให้คืนนี้เสียไปเปล่าๆ
“ฉันง่วง เวียนหัวจังเลย” หญิงสาวตอบเสียงอ้อแอ้ ก่อนจะนอนลงบนเตียงกว้างทั้งแบบนั้น กันดิศมองแล้วก็หัวเราะน้อยๆ เขานอนข้างๆ ร่างบางแล้วท้าวคางมองเธออย่างพินิจ แม่สาวคนนี้เป็นใครกันนะ ตอนแรกก็ยั่วเขา แล้วจู่ๆ ก็จะนอนนิ่งไปง่ายๆ แบบนี้นี่นะ
เฮ้อ...สงสัยสิ่งที่คิดไว้ มันจะไม่ใช่เสียแล้วละมั้งนายกันดิศ
ชายหนุ่มมองไล่ไปยังใบหน้าหวาน ที่หลับตาพริ้ม เขาไล้มือไปที่แก้มนิ่มอย่างจะสำรวจ นิ้วเรียวแข็งแรงไล้สัมผัสผะแผ่ว ไปทั่ว ปาก คอ คิ้ว คาง นัยน์ตาที่หลับกะพริบลืมขึ้น ก่อนที่เธอจะมองหน้าคมสันของเขาเหมือนจะละเมอ พลางเอ่ยถามเสียงพร่า
“คุณว่าฉันสวยไหม?”
“สวยมาก ที่รัก” กันดิศตอบเสียงพร่า เมื่อมองสบนัยน์ตาหวานระยับนั่น อารมณ์ที่ทำท่าจะนิ่งสงบกลับปะทุขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมือน้อยประคองใบหน้าของเขาไว้ ก่อนจะโน้มคอของเขาลงไป ให้ใกล้กับเธอ
ริมฝีปากได้รูปประกบจุมพิตกับริมฝีปากอิ่มทันที และดูดดื่มเอาอย่างกระหาย จนคนถูกจูบแทบจะหายใจไม่ทัน ปลายลิ้นรุ่มร้อนส่งเข้าไปกวาดไล้หาความหวานทุกอณู และเหมือนจะไม่พอ เพราะเมื่อเขาถอนจูบออกมาเพียงแค่ได้หายใจ ชั่วครู่กันดิศก็ประกบจุมพิตลงไปใหม่
มือใหญ่ดึงทิ้งเสื้อผ้า ออกจากร่างบางอิ่มเนียน พร้อมๆ กับเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองไปด้วย จนในที่สุดเขาก็เปลือยเปล่าเหมือนกันกับเธอ หญิงสาวมัวแต่หลับตาแน่น จึงไม่ได้เห็นร่างแกร่งงดงามของเขา หากแต่เขาเห็นร่างบางซ่อนรูปนั้นเต็มตา กันดิศคิดว่าคุ้มค่าจริงๆ ที่เขาพาเธอมาที่นี่ คืนนี้..
จมูกโด่งได้รูปไล่จุมพิตเรื่อยลงมา จนถึงทรวงอกสาวที่พุ่งชูชันท้าทายสายตาเขา เขาสัมผัสมันอย่างละมุนละไม หากแต่เร่าร้อนด้วยปลายลิ้นอุ่น สร้างความปั่นป่วนให้กับหญิงสาว ที่ไม่เคยถูกพาไปสัมผัสอารมณ์รักแบบนี้มาก่อน เธอจิกปลายนิ้วกับบ่าของเขาแน่น เมื่ออารมณ์สาวถูกปลุกให้โลดแรงจนสุดระงับ
นี่มันอะไรกันนะ หญิงสาวถามกับตัวเอง ฤทธิ์แอลกอฮอล์บวกกับฤทธิ์ของอารมณ์พิศวาสทำให้ม.ร.ว.จินต์จุฑาทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ปล่อยให้ชายแปลกหน้ากอดจูบลูบไล้ไปทั่วร่างบางเนียน แต่สัมผัสจากเขาก็ช่างอ่อนโยนและเร่าร้อน จนทำให้เธอเผลอร้องครางออกมาอย่างสุดกลั้น เมื่อใบหน้าคมสันไล่จุมพิตต่ำลงไปเรื่อยๆ จนสัมผัสกับสิ่งที่เธอหวงแหน เธอพยายามไขว้ขาปิดบังไว้ หากแต่เสียงห้าวทุ้มกระซิบปลอบเธอด้วยน้ำเสียงกระเส่าเร่าร้อน
“ใจเย็น ที่รัก ผมไม่ทำให้คุณเจ็บ รับรองว่าคุณจะมีความสุข” สัมผัสที่ตามมาหลังเสียงกระซิบนั่น ทำให้หญิงสาวถึงกับครางลึกๆ ในลำคอ เมื่อเขากำลังสำรวจทั่วดอกไม้งามของเธอด้วยปลายลิ้นอุ่นซ่านที่สร้างความเร่าร้อนให้กับม.ร.ว.จินต์จุฑา จนต้องบิดกายไปมาอย่างเร่าร้อน
โอ..ใครก็ได้บอกเธอที ว่าเขากำลังทำอะไรกับเธอกันนะ
หญิงสาวถามตัวเองเมื่อความรู้สึกที่เขาก่อ กำลังจะดันขึ้นถึงขีดสุด จนต้องสะอื้นออกมา กันดิศหัวเราะเบาๆ พลางละมือจากผิวเนื้อเนียนตรงนั้น แล้วไล่จุมพิตขึ้นสูง มาหยอกเอินกับทรวงนุ่มใหม่ สร้างความรัญจวนให้กับเจ้าของร่างหวานอุ่น ต้องกัดริมฝีปากและจิกเล็บที่ไหล่เขาอย่างอึดอัด กับอารมณ์ที่เขาก่อให้กับเธอและมันกำลังอัดแน่น ไม่ได้รับทางออก
“ขอผมสิ...แล้วผมจะให้” น้ำเสียงสั่งนั้นฟังแล้ววาบหวิวยิ่งนัก ม.ร.ว.หญิงมองเขาตาแป๋ว อย่างไม่เข้าใจว่าเธอต้องร้องขออะไร แต่เธออึดอัดยิ่งนัก ยิ่งเมื่อเขาสัมผัสเรื่อยไล้หนักบ้าง เบาบ้างตามเนื้อตัวเธอเหมือนจะไม่ยอมปล่อยให้ว่างเว้น เธอกัดริมฝีปากแน่น ก่อนจะเอ่ยเสียงหวานพร่า
“ฉันไม่เข้าใจ หยุดเถอะค่ะ มันทรมาน” เธอครางเมื่อปลายนิ้วของเขาเลื่อนลงต่ำ หาความสำราญจากกลีบดอกไม้นุ่มอีกครั้ง
“บอกสิ ว่าอยากให้ผมรัก” กันดิศเองก็ระงับอารมณ์อย่างสุดกลั้นแล้วเหมือนกัน เธอมีเนื้อตัวที่หวานล้ำ นิ่มเนียน และแนบแน่น พระช่วยเถอะ! เขาไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อนเลย เธอราวกับสาวไร้เดียงสา ที่สะท้อนสะท้านยามเขาแตะต้อง
“ฉันอยากให้คุณรัก กรุณา อย่าทรมานกันแบบนี้เลย” หญิงสาวพูดตามเหมือนกับถูกมนต์สะกด และกันดิศก็ไม่อยากรั้งตัวเองไว้อีกต่อไป
“ได้ ที่รัก” น้ำเสียงแหบพร่า พร้อมกับร่างหนาหนักที่ทาบทับลงบนร่างเนียน ทำให้เธอถึงกับสะดุ้งสุดตัวด้วยความปวดแปลบ ความวาบหวิวหายไป กลายเป็นความเจ็บอย่างสุดประมาณ มือเรียวจิกแขนเขาแน่น แล้วเริ่มข่วนเขา
“ปล่อยนะ เจ็บ ปล่อย”
“คุณพระ นี่คุณยัง โอ๊ย! อะไรกันนี่” กันดิศชะงักนิ่งค้าง มองใบหน้าหวานละมุนที่กำลังส่ายไปมา และพยายามดันเขาออกอย่างบ้าคลั่ง เพราะความเจ็บปวดที่ถูกชำแรกเยื่อพรหมจรรย์ แม้ว่าเขาจะปลุกเร้าเธอจนพรั่งพร้อมแล้วก็ตามที
“ปล่อย ฉันเจ็บ” เธอพยายามทั้งข่วน ทั้งจิกผิวเนื้อของเขา กันดิศถอนใจ ก่อนจะกอดร่างบาง เขานิ่งค้างไว้แบบนั้น ไม่ได้ขยับเคลื่อนไหวต่อ แม้ร่างกายจะปวดร้าวและรอการปลดปล่อย
“ใจเย็นๆ ที่รัก ทุกอย่างแก้ไขได้ ไว้ใจผม ทำไมคุณไม่บอก ช่างเถอะ” ริมฝีปากอุ่นร้อนประกบมาบนริมฝีปากอิ่ม ที่ถูกดูดดื่มความหวานอย่างหนักหน่วงจนแทบช้ำ จูบเธออย่างอ่อนโยน มือใหญ่ไล้ไปทั่วร่างอิ่มอีกรอบ กระซิบปลอบด้วยคำหวานจนร่างบางผ่อนคลาย และยอมปล่อยวางให้กับเขา เมื่อเธอคลายอาการต่อต้านลง ร่างใหญ่ก็ค่อยขยับเป็นจังหวะพิศวาส หญิงสาวครางเบาๆ เมื่ออาการเจ็บแปลบในตอนแรกหายไป ตอนนี้เธอรู้สึกเร่าร้อน จนทนแทบไม่ไหว รอให้เขาปลดปล่อยเธอจากความทรมานที่ไม่รู้จักนี่เสียที
กันดิศค่อยพาคนใต้ร่างเขา ไปแตะคว้าปลายสายรุ้งด้วยกัน ร่างงามกระตุกเกร็งเมื่อสัมผัสปลายทางแห่งความสุข พลางหอบหายใจอย่างเหนื่อยล้า ก่อนจะปรือตาพริ้มหลับลง ร่างสูงเองก็หอบหายใจเมื่อแนบซบร่างบาง เขารู้สึกว่าเป็นการมีเซ็กซ์ที่มีความสุขมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา มันอิ่มเอิบไปทั้งกายใจ
“คุณเป็นใครกันนะ แต่ถึงจะเป็นใครก็ตาม เราคงต้องทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้แน่นอน ที่รัก” ชายหนุ่มกระซิบบอก พร้อมกับจุมพิตหน้าผากมนเบาๆ พลางโอบกระชับร่างงามไว้ในอ้อมแขน ดูเหมือนคืนนี้บุพเพจะเล่นตลกกับเขาเสียแล้วละมัง ถึงพัดพาสาวบริสุทธิ์ให้เข้ามาในอ้อมแขนของเพลย์บอยหนุ่มอย่างเขาแบบนี้