บท
ตั้งค่า

๓ น่าเบื่อเมื่อได้ตัว (๒)

นั่งเล่นสักพักก็รู้สึกว่าดึกแล้วควรพักผ่อน จึงพากันเดินขึ้นมาบนห้องแต่เขายังไม่อยากจากหญิงสาว จึงยืนอ้อยอิ่งอยู่หน้าประตูนานกว่าปกติ จับมือบางเอาไว้แล้วจ้องหน้าเธอคล้ายกำลังตัดสินใจจะทำบางอย่าง

“ขอชาร์จแบตหน่อย”

“ชาร์จยังไง” ถามกลับด้วยความสงสัย คิดว่าเขาจะขอกอดเหมือนทุกครั้ง แต่คราวนี้ร่างสูงเลือกจะขอมากกว่านั้น ขยับเข้าไปใกล้หล่อนพร้อมกับโอบเอวบางให้แนบชิดกัน ก้มลงเล็กน้อยเพราะขนาดความสูงค่อนข้างต่าง นึกกังวลเหมือนกันว่าหล่อนจะขยับหนี แต่แปลกที่คราวนี้หล่อนสบตาเขาโดยไม่ได้ขยับไปไหน

“จูบ...ได้ไหม” เสียงที่เอ่ยขอดูเว้าวอนเหลือเกิน เธอกลืนน้ำลายลงคอแล้วหลบสายตาด้วยความเขินอาย ยืนอยู่หน้าห้องกลัวจะมีคนเดินผ่านไปมา หญิงสาวจึงตัดสินใจใช้คีย์การ์ดเปิดห้องตัวเองแล้วลากร่างสูงเข้ามาในห้องของตน

เขาถึงกับหลุดขำไม่คิดว่าหล่อนจะชวนเข้ามาในห้อง หัวใจชายหนุ่มเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น คาดหวังเหมือนกันว่าจะมีเรื่องราวมากกว่าการจูบ แต่เธอก็ดักทางเอาไว้อย่างรวดเร็วเมื่อประตูห้องถูกปิดลง

“แค่ แค่จูบนะ” เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงเลือกจะก้มลงปิดปากของเธอแล้วดันหญิงสาวให้ชิดประตู ดูดกลืนความหวานจากปากอวบอิ่มจนแทบรวมเป็นเนื้อเดียวกัน สัมผัสได้ถึงความสั่นไหวของเธอก่อนมือบางจะเลื่อนมาเกาะแขนหนาเอาไว้เพราะรู้สึกเหมือนแข้งขาจะอ่อนแรง

“อื้อ” เสียงครางดังในลำคอ ยิ่งสร้างความตื่นเต้นให้เขามากกว่าเดิม ครั้งแรกก็ต้องทำให้เธอประทับใจเสียหน่อย เปลี่ยนจากความร้อนแรงเป็นอ่อนโยนในชั่วพริบตา แม้ว่าความจริงเขาแทบจะกลืนกินเธอก็ตาม

รับรู้ถึงแรงประท้วงของหญิงสาวที่เปลี่ยนจากวางมือบนแขนเป็นทุบอกกว้างเพื่อบอกให้ปล่อย และเมื่อผละออกก็พบว่าปานอัปสรรีบสูดลมหายใจเข้าปิดอย่างรวดเร็ว มองเขาคล้ายจะกล่าวโทษแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรออกไป ก็ถูกเขาพูดบางสิ่งขึ้นมาก่อน

“เป็นแฟนกันนะ” หล่อนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ครางชื่อเขาเสียงเบาเหมือนไม่เชื่อว่าเป็นความจริง

“เพ้นท์...” กระพริบตาปริบแล้วมองร่างสูง ไม่คิดว่าเขาจะขอเป็นแฟนเร็วขนาดนี้

“ว่ายังไงครับ เป็นแฟนกันไหม” ถามย้ำอีกครั้งเมื่อเธอไม่ยอมตอบ ซึ่งหล่อนก็รอเวลานี้เหมือนกันเพราะอยากเป็นตัวจริงของเขา

“อือ เป็น” พยักหน้าแล้วยิ้มกว้าง เขาเห็นอย่างนั้นก็คว้าเธอเข้ามากอดแล้วจุมพิตปานอัปสรอีกครั้ง ส่วนเธอก็ยินยอมไม่ขัดเพราะได้รับความสุขจากชายหนุ่มเช่นเดียวกัน

ตอนนี้สถานะของเราไม่ใช่พี่น้องอีกต่อไป

เป็นแฟนกันแล้ว...

หลังคบกันเป็นแฟนพวกเราก็ยิ่งตัวติดกันมากกว่าเดิม บางครั้งเขาก็มารับเธอไปคอนโดมิเนียมเพื่อทำอาหารเย็นกินด้วยกันก่อนไปส่งที่ห้อง หรือบางคราวหล่อนก็แบ่งพื้นที่ในห้องของตัวเองให้อีกฝ่ายทำรายงานส่งอาจารย์โดยมีตนเป็นคนคอยช่วยตรวจความเรียบร้อยอีกที คบกับเด็กมหาลัยก็ให้ความรู้สึกสดชชื่นไปอีกแบบ

เราใกล้ชิดกันมากขึ้นและเขาสามารถจูบเธอได้โดยไม่ต้องขอ เจอหน้าก็จุ๊บอยู่ในห้องก็จูบแทบจะดูดวิญญาณด้วยซ้ำ แต่ยังดีที่ไม่เกินเลยมากกว่าที่ขีดเส้นเอาไว้ เธออยากรอเวลาให้ตัวเองพร้อมมากกว่านี้ก่อน

เย็นนี้เขามารับถึงห้องพร้อมกับบอกให้แต่งตัวสวยกว่าทุกวันเพราะจะพาไปดินเนอร์บนเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา หญิงสาวได้ยินก็เลือกเดรสมาสวมแล้วทำผมมัดรวบเพื่อไม่ให้ลมพัดจนเสียทรง ทุกอย่างเรียบร้อยก็เดินทางไปยังที่หมาย ก่อนขึ้นเรือแววตาของเธอมีความกังวลเล็กน้อยแต่ก็ยังยอมขึ้นตามความต้องการของเขา

จองไว้แล้วถ้าไม่ไปเสียดายเงินแย่

“ดอกไม้ครับ” ไม่เพียงแค่อาหารที่เตรียมไว้ เขายังมอบช่อดอกลิลลี่สีชมพูให้เธออีกต่างหาก หล่อนรับมากอดไว้แล้วมองด้วยแววตาเป็นประกาย แย้มยิ้มมีความสุขเป็นอย่างมากกับสิ่งที่ตัวเองได้รับ โดยไม่คิดว่าจะได้มาก่อน

ดอกไม้ช่อแรกจากแฟน...สร้างความประทับใจและกลายเป็นความทรงจำที่หล่อนจะไม่มีทางลืม

“ขอบคุณค่ะ” บอกเขาแล้วดมกลิ่นหอมของดอกไม้ เขาเห็นก็นึกชอบภาพตรงหน้า สงสัยต้องซื้อดอกไม้มาให้เธอทุกวันแล้วล่ะ

อาหารเริ่มทยอยมาเสิร์ฟกับบรรยากาศยามเย็นขอเมืองหลวง ลมเย็นพัดผ่านกับความสวยงามของทิวทัศน์ทำให้ทุกอย่างดูโรแมนติกเหมือนล่องเรือในต่างประเทศ เขาคิดมาอย่างดีว่าหล่อนต้องชอบอย่างแน่นอน

“บรรยากาศเป็นยังไงบ้าง สวยไหม” เริ่มลงมือทานอาหารแล้วถามเธอ เจ้าตัววางช่อดอกไม้ไว้ข้างกายแล้วจัดการอาหารตรงหน้า พลางพยักหน้าตอบแฟนหนุ่ม

“สวย”

“อาหารดีหรือเปล่า”

“ดี”

คำตอบสั้นจนเขาสงสัย อีกอย่างหล่อนก็ดูไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่ ใบหน้าหวานฉายแววอึดอัดจนเขาเริ่มสังเกตเห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง จึงได้วางช้อนส้อมของตัวเองลง จดจ้องดวงหน้าสวยพลางเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“ทำไมพูดน้อยจังเลย” เธอมองเขาแล้วกลืนน้ำลายลงคอ ไม่อยากขัดบรรยากาศแสนหวานตอนนี้แล้วก็ซาบซึ้งกับสิ่งที่ชายหนุ่มทำให้ทุกอย่าง หากจะมีเรื่องใดผิดก็คงเป็นเธอเองที่ไม่ได้บอกเขาตั้งแต่ต้นว่าตัวเองเมาเรือ

ไปเที่ยวทะเลก็ต้องกินยาแก้เมาเอาไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นแค่เรือออกได้สิบนาทีก็อาเจียนหมดไส้หมดพุงแล้ว

วันนี้เขามาบอกช้าทำให้เตรียมยาไม่ทัน อีกทั้งไม่กล้าบอกเขากลัวจะทำให้งานกร่อย สุดท้ายก็ต้องมานั่งเวียนหัวพร้อมจะอ้วกได้ทุกเมื่อ ยิ่งรู้สึกผิดกับชายหนุ่มมากกว่าเดิมที่ตัวเองเป็นต้นเหตุให้เขาหมดสนุก ค่าจองต่อคนราคาไม่ใช่น้อยจนนึกเสียดาย

“เอาจริงนะเพ้นท์...เราเมาเรือ” เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำให้เขาตกใจ ผิดเองที่ไม่สังเกตสีหน้าของหญิงสาวว่ากำลังไม่สบายตัว ถ้าลบเครื่องสำอางออกเชื่อว่าเขาต้องเห็นสีหน้าซีดเผือดของหล่อนอย่างแน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel