บท
ตั้งค่า

บทที่ 1

สิ่งที่หลงเหลืออยู่ในความทรงจำของภูตผีปีศาจก็คือเหตุการณ์ก่อนตาย บุคคลที่ยึดติด และสิ่งที่ติดค้างในใจ

สำหรับนางมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่ไม่มีวันลืม นั่นคือเหตุการณ์ก่อนตาย นอกนั้นล้วนลืมเลือนจนหมดสิ้น

นางจำเรื่องราวของตนไม่ได้นอกจากชื่อ แต่กระนั้น ในความทรงจำกลับมีภาพเหตุการณ์ก่อนตายฉายซ้ำไปซ้ำมา จึงรู้เหตุผลว่าทำไมถึงยังติดอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ และยังอยู่ในบ่วงแห่งความแค้น

เมื่อนานมาแล้ว มีผู้ชายคนหนึ่งยืนตรงหน้านาง อายุของเขาน่าจะราวๆ สามสิบ สายตาที่เขาใช้มองนางเต็มไปด้วยความรักใคร่ แม้นางไม่ใช่ก้อนน้ำตาล แต่ก็สามารถละลายเพียงเพราะคำพูดหวานๆ ของเขา

“ซูหนิง เจ้างดงามมาก งดงามยิ่งกว่านางฟ้านางสวรรค์เสียอีก”

ครั้งแรกที่ภาพเหตุการณ์และคำพูดของผู้ชายคนนั้นปรากฏในความทรงจำ นางจึงค้นพบว่าตนชื่อ ‘ซูหนิง’ อีกอย่าง สิ้นประโยคนั้นของเขา นางคงแสดงอาการเขินอายไม่มากก็น้อย เพราะสายตาที่เขาจ้องมองนางเปล่งประกายลึกล้ำยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยคำที่ทำให้ผู้หญิงทุกคนละลาย

“ข้ารักเจ้า”

ไม่ว่าใครได้ยินคำนั้นล้วนดีใจจนเนื้อเต้น นางเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

ทว่าเพิ่งอิ่มเอมกับคำรักชวนใจสั่น จู่ๆ หน้าอกของนางก็เกิดความเจ็บ เป็นความเจ็บปวดจากคำบอกรัก และความเจ็บที่เกิดจากของแหลมคมแทงทะลุเข้ามากลางอก

ไม่ใช่เพียงแค่คำว่ารักที่ทำร้ายนาง อีกสิ่งหนึ่งที่เขามอบให้นางก็คือความตาย!

แท้จริงแล้วมีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นก่อนที่นางจะตาย ในค่ำคืนที่อากาศเย็นเฉียบนางตื่นขึ้นมากลางดึก พบว่าสามีไม่ได้นอนอยู่ข้างกายอย่างทุกคืน นางนอนกอดตัวเองอยู่บนเตียงด้วยความเหน็บหนาว คิดเพียงแค่ว่าเขาอาจลุกไปเข้าห้องน้ำและอีกสักครู่ก็คงจะกลับ รอแล้วรอเล่า ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร สามีของนางก็ยังไม่กลับเข้าห้องเสียที นางจึงลุกขึ้นนั่ง ไร้ซึ่งอาการงัวเงีย

ตึง!

เสียงของหนักบางอย่างกระแทกกับผนังเรือนข้างนอก นางไม่เสียเวลาสวมรองเท้า ลงจากเตียงแล้วรีบวิ่งไปทางประตู สามีของนางอาจล้ม นางต้องรีบช่วย

ทว่า...

ซูหนิงยังเดินไปไม่ถึงไหนก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเห็นเงาร่างของชายหญิงคู่หนึ่งกอดรัดกันตรงหน้าต่างนอกเรือนเนื่องจากทางเดินด้านนอกยังมีโคมไฟบางจุดที่ยังไม่ดับ แสงจากโคมจึงสะท้อนเงาร่างของชายหญิงคู่นั้น ถึงมองไม่ชัด แต่ก็รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไร

ฝ่ายหญิงหันหลังแนบกับผนังเรือน ฝ่ายชายโน้มตัวลงโดยใช้แขนเท้ากับผนัง และคลอเคลียฝ่ายหญิง เสียงดัง ‘ตึง’ เมื่อครู่คาดว่าน่าจะเกิดจากที่ฝ่ายชายผลักฝ่ายหญิงกะทันหัน

ต่างฝ่ายต่างคลอเคลียอย่างเร่าร้อน หากผนังเรือนคือเชื้อเพลิง ปานนี้คงลุกเป็นไฟแล้วกระมัง สักครู่หนึ่งฝ่ายชายก็ผละออกไป แล้วกระซิบบอกฝ่ายหญิง

“คืนพรุ่งนี้ข้าจะไปหาเจ้า”

“เจ้าค่ะนายท่าน”

เสียงของทั้งคู่คุ้นหูยิ่งนัก แต่ซูหนิงยามนี้ราวกับวิญญาณลอยออกจากร่าง นางเดินกลับไปที่เตียง ล้มตัวลงนอนนิ่งๆ ดั่งว่าหลับไปแล้ว ทั้งที่ในอกรวดร้าว ทั้งที่อยากจะร้องไห้ ทว่าการรับรู้ความจริงอย่างกะทันหัน แม้แต่น้ำตาก็ไม่อาจไหลออกมา

นางนอนตะแคง เหม่อมองความมืด ชั่วครู่ในห้องก็เกิดเสียงเคลื่อนไหว เป็นสามีของนางที่กลับเข้าห้องแล้ว และขึ้นมานอนบนเตียงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เงาร่างชายหญิงที่สะท้อนบนผนังเรือนก็คือสามีของนางกับสาวใช้ที่เพิ่งเข้ามาทำงานในคฤหาสน์หลังนี้ได้เพียงสามเดือน...

ค่ำคืนต่อมา สามีก็ยังลุกออกจากห้องกลางดึก ซูหนิงที่แกล้งหลับสนิทลุกขึ้นและแอบเดินตามสามีไปยังสถานที่ที่พวกเขาใช้นัดพบกัน

เพราะเรือนของสาวใช้เป็นห้องรวม เรือนหนึ่งจะมีสาวใช้พักประมาณสามคน ดังนั้นสถานที่นัดพบเพื่อทำเรื่องอย่างว่าที่ดีที่สุดจึงเป็นห้องโถงหรือห้องหนังสือ

สามีของนางเดินเลี้ยวไปทางห้องหนังสือ ที่ตรงนั้นโคมไฟตามทางได้ดับลงแล้ว ทั้งมืดทั้งเย็นเฉียบ หากไม่เพ่งมองดีๆ จะไม่รู้เลยว่ามีคนยืนอยู่ ทว่านางสัมผัสได้ว่าสาวใช้นางนั้นยืนรอเจ้านายอยู่ที่หน้าห้อง

“นายท่านเจ้าขา ข้าคิดว่าท่านจะไม่มาเสียแล้ว ข้ายืนรอนายท่านตั้งนาน ทั้งหนาวทั้งคิดถึงนายท่าน”

พอเห็นสามีของนางเดินเข้าไปใกล้ สาวใช้นางนั้นโผเข้าสู่อ้อมกอดทันที ใช้แก้มถูไถกับหน้าอกของเขาพลางพูดด้วยเสียงออดอ้อนออเซาะ หากบอกว่าหญิงผู้นั้นคือนางคณิกานางก็เชื่อ

สามีโอบกอดร่างเย้ายวนของสาวใช้นางนั้น ก่อนจะประคองกันเดินเข้าห้องหนังสือ

ห้องหนังสือนี้ไม่มีเตียง และไม่ได้ปูด้วยพรม แต่เมื่อในใจพวกเขามีเพียงเรื่องกามตัณหา ไม่ว่าจะเป็นบนพื้นไม้หรือพื้นหญ้าพวกเขาล้วนทำได้หมด

นางก้าวไปหยุดหน้าห้องหนังสือ สิ่งที่เห็นทำเอานางสั่นเทิ้มไปทั้งตัว ความขยะแขยงจุกขึ้นกลางอก ทำให้นางอยากอาเจียนออกมา

พวกเขาปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากร่างกันแล้ว ต่างคลอเคลียกันบนพื้นไม้ ฝ่ายชายคร่อมอยู่เหนือร่างของฝ่ายหญิง กระทำเรื่องหฤหรรษ์ต่อกัน

ถึงแม้การตามจับผิดสามีที่นอกใจคือการกระทำแสนโง่เขลา ถึงแม้ว่านางจะรักสามีมาก แต่นางก็อยากมาเห็นกับตาตัวเอง อยากได้ยินกับหูว่าเขาจะเลือกทำอย่างไรหลังจากรู้ว่านางจับได้คาหนังคาเขา

“อ๊า...ลี่เอ๋อร์ มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ทำให้ข้ามีความสุข”

แล้วข้าล่ะ อยู่กับข้าไม่มีความสุขหรือ?

นางคิดอย่างเย้ยหยัน พลางมองสามีที่กำลังกระแทกกระทั้นท่อนลำเข้าออกในกายของสาวใช้นามว่าลี่เอ๋อร์

“อื้อ อ๊า...นายท่าน ข้าก็มีความสุขมากเจ้าค่ะ”

นางผู้นั้นตอบพร้อมยกสะโพกรับความหฤหรรษ์ เสียงเนื้อกระทบเนื้อฟังหยาบโลน กลิ่นกามตัณหาเข้มข้นจนทำให้ในลำคอของซูหนิงมีรสขมเปรี้ยวด้วยความอยากอาเจียน

“ลี่เอ๋อร์ แม้ข้าจะแต่งภรรยาแล้ว แต่ข้าจะรับเจ้าเป็นอนุ และจะรักเจ้าให้มากกว่านาง”

เมื่อสามีพูดเช่นนั้น ราวกับมีของแข็งกระแทกกลางใจ ในหัวก็ขาวโพลนไปหมด ซูหนิงเดินโซซัดโซเซเข้าไปในห้องหนังสือ หยิบแจกันที่ประดับบนโต๊ะข้างประตูไม้เขวี้ยงลงบนพื้นตรงตำแหน่งที่พวกเขากำลังทำเรื่องอย่างว่ากันอยู่

เพล้ง!

“กรี๊ด...”

“กะ เกิดอะไรขึ้น!”

ชายมักมากกับหญิงชู้ต่างตะโกนถามอย่างเลิ่กลั่ก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel