บทย่อ
ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือภูตผีปีศาจ สิ่งเดียวที่ต้องการนั่นก็คือ...ความรัก 'ซูหนิง' วิญญาณอาฆาตที่สูญเสียความทรงจำ ติดอยู่ในวังวนความแค้น ไม่อาจไปสู่สุคติ กระทั่งวันหนึ่ง โลกมืดมนของนางได้เปลี่ยนไปเพราะเซียนหนุ่มนามว่า 'เสิ่นเจียงหวง' คนที่อ้างตนว่าเป็นสหายสมัยเด็ก เขาได้สอนให้รู้ว่าสิ่งที่นางโหยหามิใช่การแก้แค้น หากแต่เป็น 'รักแท้' และในชาติภพที่สอง ซูหนิงในชาตินี้ก็คือ ‘หนิงเอ๋อร์’ มีสัญญาหมั้นหมายกับ ‘เสิ่นเจียงหวง’ ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ทั้งสองสมควรอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ทว่า...เมื่อเสิ่นเจียงหวงพบหนิงเอ๋อร์อีกครั้ง กลับมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เขากังขาในโชคชะตา ความรักครั้งนี้จึงไม่ง่ายสำหรับเขาและนางเสียแล้ว!
บทนำ
นางยืนมองผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังนอนหงายอยู่บนพื้นไม้ซอมซ่อภายในคฤหาสน์เก่าด้วยดวงตาเย็นชา บั้นเอวของเขากระเด้งขึ้นและลงเป็นจังหวะของ ‘ตัวผู้ที่กำลังผสมพันธุ์’ พร้อมกับเปล่งเสียงครางอันเนื่องจากสุขสมกับกามารมณ์ที่นางเป็นคนสร้างขึ้นมา
ในห้วงฝันของผู้ชายคนนั้น เขากำลังถูกสตรีงดงามผู้หนึ่งนั่งคร่อมบนท่อนลำ ช่วงบนของสตรีผู้นั้นคืออาภรณ์บางสีขาวและยังเปิดกว้าง เผยทรวงอกอิ่มขาว ยามนางควบขับบนแก่นกายของเขา อกอิ่มคู่งามนั้นจะกระเพื่อมไหวตามแรงจังหวะ ช่างน่ามองยิ่ง บางครั้งผู้ชายคนนั้นก็จะยกมือขึ้นมาบีบขยำอกอวบ เคล้นคลึงอย่างไม่ยั้งกำลังมือ จนฝากรอยนิ้วสีแดงบนอกขาวอวบนั้น
แต่ทว่า ต่อให้มีความรู้สึกสุขสมและภาพที่เห็นจะคล้ายกับความเป็นจริงสักแค่ไหน สุดท้ายสิ่งเหล่านั้นก็คือมายาที่นางสร้างขึ้นมาอยู่ดี
ความจริงผู้ชายคนนั้นควรมองออกตั้งแต่แรกแล้วว่า สตรีที่กำลังควบบนท่อนลำของเขามิใช่มนุษย์ เนื่องเพราะสตรีที่นางสร้างขึ้นมามีผิวขาวซีดเกิดมนุษย์จริง ถึงแม้หน้าอกจะอวบอิ่มน่าบีบคลึง ริมฝีปากแดงสวย ใบหน้างดงามเย้ายวน แสดงอารมณ์หลากหลาย ยามสุขสมก็เปล่งเสียงครางไพเราะ แต่ผิวกายกลับเย็นเยือก ดวงตาไร้แวว มิใช่มนุษย์อย่างเห็นได้ชัด
ทว่า...กามตัณหามิเข้าใครออกใคร ต่อให้อีกประเดี๋ยวร่างวิญญาณนั้นจะดูดกลืนพลังวิญญาณของเขา เขาก็คงยินยอมอย่างเต็มใจ
นางเบ้ปากอย่างดูแคลน
‘บุรุษเจ้าชู้’ ก็เป็นเช่นนี้ ต่ำทรามและเห็นแก่กามตัณหา ทว่าอย่างน้อยๆ ก่อนความตายจะมาเยือน นางก็ยังมอบความสุขสมให้กับเขา...ละนะ
เสียงครางกระเส่าและท่าทางแสนน่าอายของผู้ชายบนพื้นยังคงแสดงออกว่ามีความสุข และเมื่อพวกเขาเร่งจังหวะการกระแทกกระทั้นให้เร็วขึ้น เขาตัวสั่นราวกับอีกแค่ไม่กี่อึดใจก็จะปีนไปถึงจุดที่เรียกว่าความสุขสุดยอด พลันนั้นนางออกคำสั่ง
“กินเขาซะ”
ร่างวิญญาณที่กำลังควบท่อนลำอย่างหฤหรรษ์พลันโน้มตัวลงต่ำ ให้ใบหน้าแนบชิดกับผู้ชายคนนั้น ริมฝีปากแดงเผยอเปิด จดจ่อตรงกับริมฝีปากของผู้ชายคนนั้นพอดี
“อ๊า...เจ้าทำให้ข้ามีความสุขยิ่งนัก อยากจูบข้าหรือไง”
ผู้ชายคนนั้นยังไม่รู้ตัวว่าจากนี้กำลังพบเจอกับอะไร เขาพูดอย่างเคลิบเคลิ้ม สะโพกกระดอนขึ้นกระดอนลงไม่ยั้งกำลัง เห็นชัดว่าความสุขจากตัณหาทำให้เขามองเจตนาของร่างวิญญาณไม่ออก
ร่างวิญญาณที่ยังควบบนแกนกายของเขายิ้มบาง มิได้ตอบ
“แม้ข้าจะแต่งภรรยาแล้ว แต่ข้าจะรับเจ้าเป็นอนุ และจะรักเจ้ามากกว่านาง”
‘นาง’ ในความหมายของเขาก็คือภรรยาเอก ได้ยินอย่างนั้นนางถึงกลับกลอกตาขึ้นบนด้วยความดูแคลน
บุรุษมักมากในกาม ไม่รู้จักพอ!
เมื่อรู้สึกโกรธขึ้นมา ภาพตรงหน้าราวกับเปลี่ยนไป ผู้ชายบนพื้นคือสามีของนางที่กำลังเสพสุขกับสตรีผู้หนึ่ง มิหนำซ้ำ เขายังบอกสตรีผู้นั้นว่าแม้ผู้มาทีหลังจะมีตำแหน่งเป็นแค่อนุ แต่เขาจะมอบความรักและทรัพย์สินให้มากกว่าที่ภรรยาเอกอย่างนางมี
ภาพอดีตและปัจจุบันซ้อนทับราวกับเป็นเรื่องราวเดียวกัน นางที่ยืนมองร่างวิญญาณกับชายชาวบ้านเสพสุขอยู่ห่างๆ ตาแดงก่ำ ออกคำสั่งอย่างเกี้ยวกราดกับร่างวิญญาณอีกครั้ง
“กินเขา!”
ริมฝีปากของร่างวิญญาณที่จดจ่อกับริมฝีปากของชายคนนั้นเปิดอ้าเล็กน้อย ด้วยท่าทางเหมือนกำลังจะจูบกัน แต่สิ่งที่ร่างวิญญาณดูดดื่มกลับมิใช่จุมพิต หากเป็นวิญญาณของผู้ชายคนนั้น
ไอสีขาวลอยออกจากปากของชายชาวบ้าน คล้ายกับเลือดในกายที่กำลังไหลออกจากตัวยามมีบาดแผล ช่วงเวลานี้ ชายชายบ้านคงรู้สึกทรมานจึงได้ดิ้นทุรนทุราย ร้องว่า “ยะ อย่า!” แต่มนุษย์ที่หลงมัวเมากับร่างวิญญาณจนถึงขั้นเสพสังวาล เมื่อมาถึงเวลานี้ล้วนไม่มีทางถอยกลับ หรือเรี่ยวแรงในการต่อต้าน เพราะความตายใกล้คืบคลานมาถึงแล้ว
อีกอย่างหนึ่ง ยิ่งร่างวิญญาณดูดกลืนวิญญาณของมนุษย์มากเท่าไร พลังของนางก็ยิ่งเพิ่มสูง
ร่างกายของผู้ชายคนนั้นค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีขาวซีด ขอบตาคลำ เบ้าตาถลนและเหลือกขึ้นบน อยู่ในสภาพเหมือนคนใกล้ตาย
“อึก...อั่ก...”
“พอก่อน” นางออกคำสั่ง ไม่ใช่เพราะความใจดี เพียงแค่คิดว่าหากเขาตายเร็ว ก็ดูเหมือนจะสบายเกินไป แบบนี้ไม่สนุกเท่าไร
ได้ยินคำสั่ง ร่างวิญญาณหยุดกลืนกินพลังวิญญาณของชายชาวบ้านโดยพลัน
ชายชาวบ้านยังไม่ตาย แต่อีกไม่นานก็คงจะตาย
“พาเขาไปทิ้งที่ตีนเขา”
ร่างวิญญาณนั้นลุกขึ้นจากท่อนลำที่ก่อนหน้านี้ขยายใหญ่และคึกคัก แต่ยามนี้มันอ่อนตัวราวกับต้นไม้เหี่ยวเฉา โดยไม่สนใจที่จะแต่งตัวให้เรียบร้อย ร่างวิญญาณอุ้มร่างขาวซีดของชายชาวบ้านคนนั้นพาดบ่า ช่วงบนของร่างวิญญาณเปลือย ปลายอกอิ่มชูช่อท้าอากาศ
นางส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา แล้วหายวับออกจากบริเวณโถงบ้าน ซ่อนตัวในห้องห้องหนึ่งที่แสงอาทิตย์สาดส่องมาไม่ถึง
ถึงแม้นำร่างของชายชาวบ้านผู้นั้นไปทิ้งไว้ที่ตีนเขาและมีคนช่วยไว้ทัน ถึงเขายังคงไม่ตาย แต่ก็ได้กลายเป็นคนไร้จิตวิญญาณไปตลอดชีวิต เนื่องเพราะสูญเสียพลังวิญญาณเกือบทั้งหมด...นางคิดพลางลูบท้องที่มีพลังวิญญาณของชายชาวบ้านในกระเพาะเต็มเปี่ยม
อีกอย่าง นี่เป็นความผิดของเขาเอง ทั้งที่รู้ว่าคฤหาสน์หลังนี้มีไอวิญญาณของความเครียดแค้นรุนแรง แต่กลับขึ้นเขามาพิสูจน์อาถรรพ์บ้านร้างเพียงเพราะคำว่า ‘อยากรู้อยากเห็น’
จริงอยู่ที่ผ่านมามีมนุษย์รอดชีวิตจากอาถรรพ์บ้านร้างหลังนี้ ถึงไม่ใช่จำนวนมาก แต่ก็มีไม่น้อย ซ้ำคนที่รอดชีวิตยังนำเรื่องความเหี้ยนของนางไปเตือนชาวบ้านคนอื่นๆ ห้ามไม่ให้ขึ้นเขา ทว่าก็ยังมีคนอีกจำนวนมากที่อยากรู้อยากลอง และคนอีกจำนวนหนึ่งที่อยากกำจัดนาง สุดท้ายพวกเขาต่างพบจุดจบเหมือนชายชาวบ้านผู้นั้น
ไม่กี่ชั่วยาวก่อน ชายชาวบ้านคนนั้นเข้ามาในคฤหาสน์ร้างหลังนี้พร้อมกับสหายอีกสามคน แต่คนพวกนั้นเพียงแค่ได้ยินเสียงสั่นของประตูไม้ก็วิ่งเตลิดหนี เหลือเพียงชายคนนั้นยืนตะลึงอยู่กับที่ นางจึงส่งร่างวิญญาณออกมายั่วยวน หลังจากนั้นก็เป็นอย่างที่เห็น...
ชายชาวบ้านร่วมรักกับร่างวิญญาณอย่างเร่าร้อน ก่อนจะมีสภาพอเนจอนาถ
นางเบ้ปากอย่างดูถูกดูแคลนอีกครา
‘บุรุษเจ้าชู้’ มิใช่แค่มักมากในกาม แต่ยังต่ำเขลายิ่งกว่าสวะ!