บท
ตั้งค่า

6 รอแค่เวลา

เอวาริณในวัย 20 ปีกำลังช่วยมารดาเลือกซื้อของในซุเปอร์มาเก็ตแห่งหนึ่งเพราะวันนี้มารดาของเธอตั้งใจจะอาหารไทยเพื่อฉลองวันเกิดให้กับหญิงสาว

“แม่คะกินข้าวเย็นแล้วเอวาขอไปฉลองกับเพื่อนได้ไหมคะ”

“เพื่อนที่ว่ามีใครบ้างล่ะ”

“ก็กลุ่มเดิมค่ะแม่มีแต่เพื่อนผู้หญิงทั้งนั้น”

“ปีนี้หนูอายุ 20 แล้วมีหนุ่มๆ ในมหาลัยมาจีบบ้างไหม”

“ลูกสาวแม่สวยขนาดนี้จะไม่มีได้ยังไงล่ะคะ”

“แล้วมีคนไหนเข้าตาบ้างหรือยังล่ะ”

“ก็ดูๆ อยู่ค่ะแม่” เธอตอบไปเรื่อยแต่จริงๆ ไม่เคยคิดจะมองใครเลย

“อย่าลืมพามาแนะนำให้แม่รู้จักบ้างนะ”

“แม่ไม่ว่าเหรอคะถ้าเอวาจะมีแฟน”

“ลูกสาวแม่โตแล้วจะมีแฟนก็ไม่ผิดอะไร แต่แม่ขอแค่อย่าให้เสียการเรียนก็พอ”

“เอวาไม่ให้เสียการเรียนหรอกค่ะแม่” เอวาริณให้สัญญากับมารดาแต่จริงๆ แล้วเธอไม่คิดจะคบกับใครเลยเพราะยังไม่สามารถลืมธีรกานต์ได้ แม้ว่าจะไม่ได้ติดต่อกันมานานหลายปีก็ตาม

“สุขสันต์วันเกิดนะครับเอวา” หนุ่มอังกฤษหอบดอกไม้ช่อโตมาให้หญิงสาวเมื่อเธอเดินเข้ามาในผับที่นัดกับเพื่อนๆ ไว้

“ขอบคุณนะเลโอ” หญิงสาวรับช่อดอกไม้แล้วกล่าวขอบคุณด้วยภาษาอังกฤษชัดแจ๋ว

งานฉลองไม่ได้มีอะไรพิเศษเพราะเจ้าของวันเกิดบอกทุกคนว่าเธอไม่อยากได้เค้กหรือของขวัญอะไรเลย ขอแค่เพื่อนๆ ออกมาดื่มมาสนุกด้วยกันเท่านั้นก็พอ

“ขอให้มีความสุขมากๆ นะเอวา” ชัญญานุชเพื่อนคนไทยเพียงคนเดียวในกลุ่มกล่าวอวยพรพร้อมทั้งชนแก้วก่อนจะยกขึ้นดื่ม

“ขอบใจจ้ะชัญญ่า”

เพื่อนคนอื่นก็ผลัดกันอวยพรจนครบจากนั้นทุกคนก็ดื่มและเต้นกันอย่างสนุกสนาน

“เอวาผมขอคุยด้วยหน่อยสิ” เลโอก้มมากระซิบแข่งกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม

“ว่ามาสิรอฟังอยู่” หญิงสาวพูดไปด้วยเต้นไปด้วย

“ในนี้มันดัง ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเอวาจริงๆ นะ ไปคุยข้างนอกได้ไหม”

เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของเขาเอวาริณก็หยุดเต้นและวางแก้วลงบนโต๊ะจากนั้นก็เดินตามเขาออกมานั่งบริเวณหน้าผับ

“เอาล่ะ เลโจะคุยอะไรก็รีบคุยเลยนะ”

“วันนี้วันเกิดผม”

“อ้าว! ตายจริงเราไม่รู้มาก่อนเลยไม่ได้เตรียมของขวัญให้ สุขสันต์วันเกิดนะ ส่วนของขวัญเดี๋ยวเราให้ย้อนหลังนะ ขอเวลาไปซื้อก่อน” หญิงสาวอวยพรและรู้สึกผิดที่ไม่มีของขวัญให้เขา เธอกับเลโอเพิ่งรู้จักกันไม่นานเขาเป็นเพื่อนของเพื่อนอีกทีและไม่ได้เรียนคณะเดียวกับเธอ

“ไม่ต้องไปซื้อหรอก”

“น้อยใจเหรอที่เพื่อนคนอื่นจำวันเกิดไม่ได้”

“เปล่า ผมไม่สนใจคนอื่นผมสนใจแค่คุณ ผมอยากขออะไรสักอย่างได้ไหม”

“อะไร”

“ผมอยากขอเอวาเป็นแฟน”

เมื่อได้ฟังแล้วเอวาริณก็เงียบเพราะคำพูดของเลโอทำให้หญิงสาวนึกถึงตนเองในวัย 15 ปี ในวันนั้นเธอก็ขอใครคนหนึ่งเป็นแฟนและถูกปฏิเสธเพียงเพราะยังเด็ก ซึ่งต่างจากตอนนี้ที่เธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้วและกำลังถูกผู้ชายขอเป็นแฟน

อันที่จริงเลโอก็เป็นผู้ชายที่สาวๆ ในมหาวิทยาลัยให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย เขาทั้งหล่อรวยและยังเป็นถึงนักกีฬาฟุตบอลของมหาวิทยาลัย แต่สำหรับเอวาริณแล้วเธอมองเขาเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น

“เลโอ” เธอมองหน้าและเรียกชื่อเขาเบาๆ

“ได้ไหมเอวา” ชายหนุ่มถามย้ำ

“เราไม่ได้รังเกียจเลโอเลยนะ”

“หมายความว่าตกลงใช่ไหม”

“เราขอโทษ ตอนนี้เรายังไม่คิดเรื่องมีแฟนเลย เราอยากรีบเรียนให้จบก่อน”

“ไม่เป็นไรผมรอได้ อีกสองปีเราก็จะเรียนจบถึงตอนนั้นผมหวังว่าเราจะได้เป็นแฟนกันนะ”

“ไม่โกรธกันใช่ไหม” หญิงสาวถามเพราะกลัวว่าจะเสียเพื่อนนิสัยดีอย่างเขาไป

“จะโกรธทำไม เอวายังไม่ได้ปฏิเสธสักหน่อย ระหว่างนี้เราก็เป็นเพื่อนกันไปก่อน แต่เอวาห้ามมีแฟนนะ”

“อือ” หญิงสาวรับปากเพราะตนเองก็ยังไม่คิดจะมีใครในตอนนี้ เธอจะรอให้เรียนจบอย่างที่บอกกับเลโอและจะกลับไปทวงสัญญาที่ธีรกานต์เคยให้ไว้ แม้จะไม่ได้ติดต่อกับเขาโดยตรงแต่ก็ยังได้ยินเรื่องราวของชายหนุ่มผ่านทางพีรกันต์น้องชายของเขาที่ยังติดต่อกับเธออยู่ตลอด

หลังจากคุยกันแล้วทั้งสองคนก็เดินกลับเข้าไปในผับอีกครั้ง จากนั้นเอวาริณกับเพื่อนก็ดืี่มกันจนถึงเวลาผับปิด

เอวาริณไปนอนค้างที่อพาร์ตเม้นท์ของชัญญานุชส่วนคนอื่นก็แยกย้ายกันกลับ

“คุยอะไรกับเลโอเหรอ เห็นหายไปนานเลย” ชัญญานุชถามหลังจากอาบน้ำและปิดไฟเตรียมจะนอนกันแล้ว

“เขาขอเป็นแฟน”

“ในที่สุดเขาก็กล้าขอสักทีนะ”

“ชัญญ่ารู้มาก่อนเหรอ”

“รู้สิ เราดีใจด้วยนะ เลโอน่ะขวัญใจสาวๆ เลย แต่เขาเหมาะสมกับเอวาที่สุด คนหนึ่งก็หล่อมากอีกคนก็สวยมาก”

“แต่เรายังไม่ตอบตกลง”

“อ้าว ทำไมล่ะหรือเอวามีคนอื่นแต่เราไม่เคยเห็นเอวาคุยกับผู้ชายคนไหนเลยนะ” เพราะสนิทกันมาหลายปีแต่ก็ยังไม่เคยเห็นเพื่อนสนิทกับผู้ชายคนไหนเท่ากับเลโอมาก่อน

“ไม่รู้เรียกว่ามีคนอื่นได้ไหม”

“อะไร ยังไงเล่าให้ฟังหน่อยสิ”

“อยากฟังจริงๆ เหรอ”

“ใช่สิ เราอยากรู้ว่าเพราะอะไรเอวาถึงปฏิเสธเลโอ”

“ฟังแล้วห้ามหัวเราะกันนะ” เอวาริณบอกกับเพื่อนจากนั้นเธอก็เล่าเรื่องของตนเองในวัย 15 ปีให้กับชัญญานุชฟัง เรื่องที่เธอเก็บเอาไว้คนเดียวมาตลอดห้าปี

“ถ้าเขาจำเรื่องนี้ไม่ได้ เอวาจะเสียเวลารอเขาเปล่าๆ นะ”

“พี่กานต์ไม่ใช่คนขี้ลืมนะ เขาต้องจำได้สิ” หญิงสาวบอกเพื่อนไปทั้งที่คนเองก็ยังไม่แน่ใจเพราะไม่ได้คุยกับเขานานแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ติดต่อกันก็ในวันเกิดตอนที่เอวาริณอายุได้ 16 ปีและหลังจากนั้นเขาก็ไม่เคยติดต่อมาเลย แต่หญิงสาวก็ส่งอีเมลไปอวยพรวันเกิดให้เขาทุกปี

“ถ้าเขามีแฟนแล้วล่ะ”

“ยังนะ เขายังไม่มีแฟน บางทีเขาอาจจะรอเราอยู่”

“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดี แต่เอวาไม่คิดเหรอว่าเขาอาจจะมีแฟนแล้วแต่คนที่บ้านไม่รู้ ผู้ชายอายุขนาดนั้นไม่น่าจะยังโสด”

“แต่น้องชายเขาบอกแบบนั้น”

“เขาอาจจะไม่รู้หรือรู้แต่ไม่บอกเอวาก็ได้นะ” ชัญญานุชไม่เชื่อว่าธีรกานต์จะยังโสด

“แล้วเราจะรู้ความจริงได้ยังไง”

“ก็ต้องไปเห็นกับตาไงล่ะ”

“แต่เรากลับไปตอนนี้ไม่ได้” เพราะไม่รู้จะเอาเหตุผลอะไรมาบอกมารดาว่าจะกลับเมืองไทย

“ก็รอเรียนจบสิ กลับพร้อมกันเลย”

“เราก็คิดจะกลับตอนเรียนจบ”

“จะกลับไปหาพี่เขาจริงๆ เหรอ”

“ก็แค่กลับไปถามเขาอีกครั้ง”

“กลัวคำตอบไหม”

“ก็นิดหน่อย แต่ถ้าพี่กานต์เขาลืมเรื่องของเราไปแล้วหรือปฏิเสธเราก็จะได้เคลียร์ความรู้สึกของตัวเองด้วย”

“ตอนนั้นเอวายังเด็ก บางที่ความรู้สึกที่มีให้เขามันอาจจะแค่ความชื่นชอบก็ได้นะ”

พี่กานต์ก็พูดแบบนั้นเหมือนกันเราเลยคิดว่าจะลองไปเจอเขาอีกสักครั้งจะได้แน่ใจด้วยว่าความรู้สึกของเรามันเปลี่ยนไปไหม

“เหลือเวลาอีกตั้งสองปี ระหว่างนี้ไม่คิดจะลองคบใครบ้างเหรอ”

“ถ้าเราจะคบกับใครเราก็อยากเต็มที่กับเขานะ แต่ถ้ายังมีเรื่องพี่กานต์ติดอยู่ในใจแบบนี้มันก็คงไม่แฟร์กับคนที่คบด้วย”

“มันก็จริงนะถ้างั้นเวลาที่เหลือเราตั้งใจเรียนกันดีกว่านะเรียนจบจะได้กลับเมืองไทยพร้อมๆ กัน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel