11 นายไม่เหมาะสมกับเอวา
“อยู่คนเดียวได้แน่นะ" ธีรกานต์ถามเมื่อจอดรถที่หน้าบ้านของเอวาริณซึ่งด้านในเปิดไฟไว้จนสว่างไปทั่ว
“ได้ค่ะ บ้านหลังนี้เอวาอยู่มาเป็นสิบปีแล้วไม่มีอะไรต้องกลัว”
“นั่นสินะ รีบเข้าบ้านเถอะจะได้รีบนอน”
“ขอบคุณนะคะพี่กานต์ที่มาส่ง ฝันดีนะคะ” หญิงสาวชะโงกหน้ามาหอมแก้มเขาแล้วรีบลงจากรถไปอย่างรวดเร็ว
ธีรกานต์มองตามหลังจนกระทั่งหญิงสาวเดินเข้าไปในตัวบ้านแล้วจึงขับรถกลับมาที่บ้านของตนเอง
“ไปส่งหนูเอวามาแล้วใช่ไหม”
“ครับแม่”
“เจอครั้งแรกกานต์จำน้องได้ไหม”
“ไม่ครับน้องเปลี่ยนไปมาก” เขาใช่คำว่าเปลี่ยนไปแทนที่จะใช้คำว่าสวยขึ้นมากเพราะกลัวจะแสดงออกให้ครอบครัวรู้ว่าตนเองเริ่มจะคิดกับเธอมากกว่าน้องสาวข้างบ้านอย่างแต่ก่อน
“ผมว่าเอวาสวยขึ้นมากเลยครับ แม่กับพี่กานต์คิดเหมือนผมไหม” พีรกันต์ขอความเห็น
“แม่ก็คิดเหมือนกันต์นะ น้องสวยขึ้นมากไม่รู้ว่ามีแฟนหรือยัง”
“สวยแบบนั้นก็คงมีแฟนแล้ว” ธีรกานต์พูดออกมาแล้วรู้สึกใจหายถ้าหากเธอมีแฟนอย่างที่ตนเองพูดจริงๆ นึกถึงตรงนี้ก็อยากจะย้อนเวลากลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อน
“กันต์คุยกับน้องบ่อยๆ รู้ไหมว่ามีแฟนหรือยัง” คุณรัตนาหันมาถามลูกชายคนที่ติดต่อกับเธออยู่ตลอด
“เท่าที่ได้คุยกันเอวาบอกว่ามีหนุ่มๆ มาจีบแต่ผมไม่แน่ใจว่าเธอตกลงคบกับใครหรือเปล่า” เขาตอบมารดาและพี่ชายไปตามที่ตนเองได้ยินมาจากหญิงสาวซึ่งมักจะเล่าเรื่องของตนเองให้ฟังอยู่บ่อยๆ
“แม่ว่าน่าจะยังนะถ้าหนูเอวามีแฟนแล้วก็คงไม่กลับมาทำงานที่นี่”
“เอวาจะกลับมาทำงานที่นี่เหรอครับแม่” ธีรกานต์รีบถาม
“เจอน้องแล้วไม่ได้คุยกันเหรอ”
“ก็คุยครับแต่เธอไม่บอก นายล่ะรู้ไหมกันต์” เขาหันมาถามน้องชายตอนนี้สนิทกับเอวาริณมากกว่าตนเอง
“รู้สิ ผมเป็นคนชวนเอวาให้มาทำงานที่โรงพยาบาลของเรา”
“เธอยอมเหรอ”
“ยอมสิ”
“แม่ฝากกันต์ดูแลน้องด้วยนะ น้องกลับมาอยู่คนเดียวคงจะเหงาแย่”
“ได้ครับ”
“นายจะมีเวลาเหรอกันต์”
“ไม่มีก็ต้องมี ผมชวนเอวากลับมาเมืองไทยผมก็ต้องดูแลเธออย่างเต็มที่”
“ได้ยินแบบนี้แม่ค่อยสบายใจหน่อย นี่ก็ดึกมากแล้วแม่ขอตัวไปนอนก่อนนะเราสองคนก็อย่านอนดึกกันล่ะ”
“ครับ/ครับ” สองพี่น้องตอบมารดาเป็นเสียงเดียวกัน
“พี่กานต์ว่าเอวาเป็นยังไงบ้างครับ ผมว่าน้องสวยขึ้นกว่าเดิมมากผมเคยเห็นแต่รูปก็คิดว่าเธอให้โปรแกรมแต่งไม่คิดเลยว่าตัวจริงจะทั้งสวยและหุ่นดีมากขนาดนี้”
“นายพูดเหมือนกำลังสนใจเอวาอยู่”
“สวยๆ แบบนั้นใครจะไม่สนใจบ้างล่ะ” พีรกันต์ตอบด้วยท่าทางเหมือนกำลังสนใจน้องสาวข้างบ้านอยู่จริงๆ
“แล้วคนสวยที่นายตามจีบอยู่ล่ะ”
“ก็ยังตามจีบอยู่ครับ”
“ถ้านายยังตามจีบเธออยู่ก็ไม่ควรมายุ่งกับเอวานะ”
“ทำไมล่ะครับ ตอนนี้เนยยังไม่ยอมเป็นแฟนผม ผมก็มีสิทธิ์จะมองคนอื่นได้”
“แต่นายไม่ควรยุ่งกับเอวานะ” เขาย้ำอีกครั้ง
“ทำไมผมถึงจะยุ่งไม่ได้ล่ะ เอวายังไม่มีแฟนผมก็ยังโสดนะ”
“นายไม่เหมาะสมกับเธอหรอกนะ”
“พี่เอาอะไรมาวัดล่ะว่าเหมาะสมไหม ผมคิดว่าจะลองจีบเธอดู”
“พี่ว่าเป็นพี่เป็นน้องกันไปแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว นายมันเจ้าชู้พี่กลัวจะทำให้เอวาเสียใจและจะมองหน้ากันไม่ติดอย่าลืมนะว่าบ้านเราอยู่รั้วติดกันแค่นี้” เขาเตือนน้องชาย
“แต่เราไม่ได้เป็นพี่น้องกันจริงและตอนนี้ผมกับเอวาก็สนิทกันมากเราคุยกันได้ทุกเรื่องผมว่าผมกับเธอมีไลฟ์สไตล์คล้ายๆ กันนะไม่แน่ว่าเราสองคนอาจจะเป็นเนื้อคู่กันก็ได้”
“ไม่มีทางหรอกพี่ว่านายอย่าเสียเวลาจีบน้องเลย”
“พี่กานต์ก็ทำเป็นหวงน้องสาวไปได้แล้วแบบนี้เมื่อไหร่เอวาจะมีแฟนล่ะ”
“ไม่มีก็ไม่ต้องมีสิ”
“พี่อย่าเอาตัวเองมาเป็นบรรทัดฐานสิ ตัวเองไม่มีแฟนแล้วจะให้คนอื่นไม่มีแฟนตามไปด้วยมันไม่แฟร์เลยนะ”
“แต่เอวายังเด็กนะพี่ว่าไม่เหมาะกับนายหรอก” ธีรกานต์ย้ำกับน้องชายอีกครั้งถึงความเหมาะสม
“ไม่เด็กแล้วนะครับพี่เอวาน่ะอายุ 22 แล้ว”
“แต่อายุเธอห่างจากนายหลายปีเลยนะ” เขาให้เหตุผลเพิ่ม
“นั่นไม่ใช่ปัญหาครับพี่ มันอยู่ที่ความรู้สึกของคนสองคนมากกว่าถ้ามันใช่ต่อให้อายุห่างกัน 20 ปีก็ยังไหว” พีรกันต์ตอบในมุมมองของตนเองและแอบสังเกตอาการของพี่ชายไปด้วย เขารู้สึกว่าพี่ชายของตนนั้นกำลังหวงน้องสาวเกินกว่าเหตุและถ้าเดาไม่ผิดบางทีพี่ชายอาจจะไม่ได้คิดกับเอวาริณแค่น้องสาวเหมือนอย่างเคย
“นายไม่คิดว่ามันจะมีปัญหาเรื่องอายุที่ต่างกันเหรอ”
“ไม่หรอก ผมชอบที่แฟนอายุน้อยกว่านะ”
“แล้วพยาบาลของนายล่ะอายุห่างกันมากไหม”
“เธอยังไม่ใช่พยาบาลของผมเหรอครับ”
“นายจะถอดใจไม่ได้นะ ไหนว่าคนนี้แม่ของลูก”
“ผมยังไม่ถอดใจเพียงแต่ระหว่างรอก็ขอทำอะไรให้มันตื่นเต้นสักหน่อย”
“นายจะไปทำเรื่องตื่นเต้นกับใครก็ได้แต่อย่ามาทำกับเอวาเด็ดขาด”
“พี่จะหวงอะไรขนาดนั้นครับ เอวาไม่ใช่เด็กที่เราต้องคอยดูแลเหมือนแต่ก่อนแล้วนะ เธอโตเป็นสาวแล้วพี่อย่าลืมนะว่าเธอไปอยู่อังกฤษมาตั้งหลายปีเธอไม่ใช่สาวน้อยคนเดิมแล้ว”
“นายกำลังมองน้องไปในทางที่ไม่ดีนะ”
“ผมไม่ได้มองไปทางไม่ดีผมก็แค่พูดตามประสบการณ์”
“อย่าพูดถึงเอวาแบบนี้อีกนะ นายควรให้เกียรติเธอ”
“ผมก็พูดกับพี่คนเดียวนั่นแหละ แล้วพี่กานต์ล่ะคิดยังไงกับเอวา”
“นายจะให้พี่คิดยังไง”
“ผมคงใช้คำถามผิดไป ผมน่าจะถามพี่ว่าตอนนี้พี่มองเอวาแบบไหน”
“เอวาก็คือน้องสาวข้างบ้าน”
“พี่ควรมองความเป็นจริงนะครับ เอวาไม่ใช่เด็กสาวคนเดิมอีกแล้ว เธอโตเป็นสาวและสวยมาก ถ้าหมอหนุ่มๆ ที่โรงพยาบาลเห็นผมว่าคงต้องแย่งกันจีบแน่”
“เอวาจะมาทำตำแหน่งอะไร”
“การตลาดครับ”
“มันก็ไม่เกี่ยวกับหมอนี่”
“ผมว่าเกี่ยวนะ”
“เกี่ยวยังไง”
“เท่าที่คุยกันเอวาบอกว่าอยากจะรู้จักหมอทุกคนทุกแผนกเพื่อจะได้วางแผนประชาสัมพันธ์ถูก”
“ให้หมอแต่ละคนส่งข้อมูลให้ก็ได้มั้งไม่จำเป็นต้องเจอทุกคนหรอก”
“ผมไม่อยากก้าวก่ายงานของเธอนะครับ เธอขอมาแบบนี้ผมก็คิดว่าจะให้เธอเจอทุกคน”
“แล้วเอวาจะเริ่มงานเมื่อไหร่”
“ต้นเดือนหน้าครับ”
“เรื่องข้อมูลหมอเดี๋ยวพี่จะคุยกับเอวาเองถ้าเธอไปเริ่มงานก็ให้เธอเจอพี่ก่อนนะ”
“ผมว่าพี่หวงเอวามากกว่าพี่ชายแล้วนะครับหรือว่าแอบคิดอะไรกับเอวาอยู่กันแน่”
“ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น” ธีรกานต์รีบบอกปัด
“พี่จะคิดหรือไม่คิดผมว่ามีแต่พี่ที่รู้อยู่แก่ใจ”
“นายกลัวมีคู่แข่งเหรอ”
“ถ้าคู่แข่งคือพี่ผมไม่กลัวเลย”
“ทำไม”
“เพราะระหว่างพี่กับผมคนที่เอวาสนิทที่สุดก็คือผม พี่ไม่ติดต่อเธอมานานแล้วยังลืมวันเกิดเธออีกถ้าจะแข่งกันผมว่าคะแนนของผมคงนำโด่งไปแล้ว”
“ใครจะแข่งกับนายกันล่ะ”
“แล้วนั่นจะไปไหน”
“ก็ไปนอนสิพรุ่งนี้พี่มีตรวจตั้งแต่เช้า”
“จริงสิ พี่ต้องออกตรวจตามเวลาแต่ผมไม่ต้องเข้างานตามเวลา ผมว่าพรุ่งนี้จะพาเอวาไปเดินซื้อของใช้สักหน่อยคงทำคะแนนได้มากขึ้นอีกเป็นกองเลย ฝันดีนะครับพี่ชาย”