ตอนที่ 2 เจ็บแล้วจำ
ธนากร โมโหสุดขีด คิดจะขับรถตามไล่ล่าพลอยกมล แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นมากะทันหัน ส่วนพลอยกมลและลูคัสไม่รู้ว่า ธนากรขับรถไล่ตามมา เพราะว่าลูคัสไม่ได้ขับรถเองเขามีคนขับรถให้ เมื่อขึ้นรถได้ เขาก็ปลอบใจเด็กสาวแสนน่ารักข้างกาย และไม่ได้สนใจใครอีก
นั่นเพราะเด็กสาวคนนี้อายุห่างจากเขาหลายปี เขาอายุสามสิบห้า ส่วนพลอยกมลอายุเพิ่งจะยี่สิบสี่ เริ่มเป็นสาวเต็มตัว แต่นับว่าโชคร้ายเหลือเกินที่เธอดันเดินหลงทางไปคว้าเอาผู้ชายเลว ๆ คนนั้น
“ต่อไปนี้ไม่ต้องกลัวแล้วนะ ผมจะปกป้องคุณเอง” นายแบบชื่อดังพูดขึ้น ฝ่ามือของเขาลูบไล้เส้นผมของเธออย่างแผ่วเบา คนตัวเล็กกว่ารู้สึกเสียใจจริง ๆ ไม่คิดว่าเธอจะได้มาพบเทพบุตรอย่างเขา เขาเป็นทั้งพี่ชายและคู่ขาคู่นอนของเธอ แม้เขาจะบอกว่า ความสัมพันธ์ของเธอและเขานั้น ห้ามพูดบอกใคร ๆ ทั้งนั้น
และเธอจะเก็บมันเป็นความลับ
“ขอบคุณค่ะลูคัส แม้ว่าคุณไม่คิดจริงจังกับฉัน แต่ก็ขอบคุณนะที่คุณปกป้องฉัน” คนตัวเล็กสะอื้นเบา ๆ คำพูดนี้ทำไมมันเสียดสีทิ่มแทงใจของเขาเข้าให้อย่างจัง ดูเหมือนว่ากำลังมีมดหลายพันหลายหมื่นตัวรุมกัดอยู่ข้างใน รู้วูบไหวแปลบ ๆ
“ผมขอเวลาอีกหน่อย ผมให้สัญญาระหว่างที่ผมคบกับคุณ ผมจะมีแค่คุณคนเดียวเท่านั้น” คนตัวโตพูดขึ้นมา เขาเป็นนายแบบและนักธุรกิจ เปิดร้านอาหาร แต่เธอรู้จักเขาแค่ที่ว่าเป็นนายแบบ ส่วนมากข่าวสังคมเขาไม่เคยออกงานสักเท่าไหร่ ก็มักจะอยู่ที่ร้านอาหารเป็นส่วนใหญ่
วันที่ได้พบเธอก็บังเอิญว่าเด็กสาวคนนี้เก็บกระเป๋าเงินของเขาได้ หน้าร้านอาหาร และได้นำส่งคืนให้เขา จากนั้นก็แลกหมายเลขโทรศัพท์กัน ได้พูดคุยและได้เห็นเธอเผชิญเรื่องร้าย ๆ มามาก จากนั้นก็เริ่มผูกพันกลายเป็นหลงรักเธอข้างเดียว
จนกระทั่งเธอได้เลิกรากับผู้ชายสาระเลวคนนั้น เขาจึงยื่นข้อเสนอให้เธอมาอยู่กับเขา โดยที่เขาจะหางานให้เธอทำ และเมื่อเรียนจบเธอจะได้ทำงานในร้านอาหารของเขา แต่เขาบอกว่าเป็นของเพื่อน อยากจะรู้ว่าเด็กสาวคนนี้ เหมาะจะเป็นคุณผู้หญิงหรือไม่
เพื่อน ๆ ทั้งกลุ่มเห็นธนากร ขับรถอย่างรวดเร็วยังกับสายฟ้ารีบตามรถของพลายกมลไป แต่ทว่าคลาดกันอย่างรวดเร็ว ปรีขับตามหลังมาแต่ไม่ทัน ธนากรขับรถฝ่าไฟแดง ทำให้เกิดอุบัติเหตุ รถยนต์ของธนากรพลิกคว่ำ รถคันอื่นชนท้ายหลายคัน มีคนบาดเจ็บจำนวนไม่น้อย เพียงแค่เพราะธนากรวู่วามจนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นมา
ปรีพยายามติดต่อกับ พลอยกมลไม่ได้ จึงได้โทรเข้าหาพราวดี แฝดน้องของพลอยกมลแทน พราวดีกำลังนอนหลับฝันหวาน แต่ทว่ามีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา เธอกำลังควานหาโทรศัพท์หัวเตียงนอน เปลือกตาเธอยังคงปิดอยู่ เธอปัดหน้าจอขึ้นเป็นอันว่ารับสาย
ปลายสายคือปรีเพื่อนของธนากร แจ้งเรื่องอุบัติเหตุให้เธอรู้ หัวใจเธอหล่นวูบไปทันที รีบลืมตาโพลงด้วยความตกใจ “ค่ะพราวจะรีบไป” เสียงที่ดูตื่นตระหนกและเป็นห่วงในคนเจ็บ เธอไม่รู้ว่าระหว่างพี่สาวของเธอและแฟนหนุ่มเกิดอะไรขึ้น เพราะพลอยไม่เคยพูดอะไรให้เธอฟัง มักจะเก็บเอาไว้คนเดียวเสมอ
ดังนั้นแล้ว พราวยังเห็นว่าธนากรเป็นเพื่อนร่มมหาลัย แม้ว่าผู้ชายคนนี้จะกลายเป็นอดีตแฟนของพี่สาวเธอไปแล้ว แต่จะให้เธอเลิกคบก็เป็นไปไม่ได้ เพราะว่าธนากรเขาดีกับเธอเหมือนกัน
พราว รีบล้างหน้าแปรงฟัง และแต่งตัวอย่างรวดเร็ว เสื้อยืดกางเกงขาวยาวแบบง่าย ๆ พร้อมกระเป๋าเล็ก ๆ หนึ่งใบ วิ่งออกจากห้องนอน แต่ไม่ลืมโทรศัพท์ ต่อสายหาพี่สาว
หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้
พราวหัวเสียทันที มือเรียวกดเป็นครั้งที่ร้อยแล้วละมั้งขณะที่เธอขึ้นนั่งอยู่บนรถแท็กซี่ คนขับก็ขับอย่างรวดเร็ว เพราะช่วงนี้รถไม่ค่อยติด มันดึกมากแล้ว น้ำตาของพราวค่อย ๆ ไหลลงอาบแก้มสองข้างอย่างช้า ๆ เพราะความเป็นห่วง ห่วงว่าเขาจะเจ็บหนัก เธอไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลย
รถแท็กซี่ได้จอดหน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พราวจ่ายเงินเรียบร้อยและรีบลงจากรถ วิ่งหน้าตาตื่นไปยังห้องฉุกเฉินทันที
“พราว แล้วพลอยล่ะ” ปรี รีบถาม เพราะอาการของเพื่อนนั้นหนัก เลือดคลั่งในสมอง อาจจะเป็นเจ้าชายนิทราหมอ บอกอาการเบื้องต้นไว้คร่าว ๆ
“พราวติดต่อพี่ไม่ได้ แล้วธนาล่ะเป็นยังไงบ้าง” เสียงสั่นเครือ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด เนื้อตัวเธอสั่นไปด้วยความกลัว เธอกำลังภาวนาของอย่างให้เป็นอย่างที่ปรีพูด
“อาการหนักเหมือนกัน” ปรีพูดขึ้น หน้าของเขาซีดและเสื้อผ้าของเขามีแต่คราบเลือดเปรอะเปื้อนเต็มตัวไปหมด
“แล้วที่บ้านของธนามีใครรู้หรือยัง” พราวถามขึ้นอีกครั้ง กลัวว่าทางญาติ ๆ ของคนเจ็บจะไม่รู้เรื่อง หากธนาฟื้นขึ้นมาจะได้มีกำลังใจ
“ปรีโทรบอกพี่เพลิงแล้ว เห็นว่าจะมาบินมาพรุ่งนี้” ปรี เห็นพราวนั่งลงบนเก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉิน ใบหน้าของเธอซีดและตัวเธอสั่น เขาจึงได้กอบกุมมือเธอเอาไว้ ตัวเขาเองก็เสียใจเหมือนกัน ห้ามแล้วแต่ธนาก็ยังดึงดันจะขับรถตามให้ได้ เขาจึงได้ขับตาม แต่ไม่ทันการณ์ ธนากรฝ่าไฟแดงจึงเกิดเรื่องเศร้าสลดขึ้นมา
พราวดีเงยหน้ามองเพื่อน ดวงตาคู่สวยของเธอมีน้ำใส ๆ ไหลรินลงมายังแก้มทั้งสองข้าง เธอยกมือขึ้นปาดอย่างลวก ๆ และจังได้กล่าวกับปรีขึ้นมาอีกครั้ง “พราวจะอยู่เฝ้าเอง ปรี กลับไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยกลับมาเปลี่ยนกับพราวก็ได้” พราวพูดขึ้น เธอจะนั่งรอเขาจนกว่าเขาจะออกมาจากห้องฉุกเฉิน ข้างในห้องนั้นคงกำลังเร่งมือรักษาคนบาดเจ็บอยู่แน่ ๆ
ปรีจึงบอกว่าเขาไปอาบน้ำแล้วจะมาเปลี่ยนเธอ เพื่อนในวงเหล้าพอเกิดเรื่องก็พากันหายหัว แบบนี้สินะเขาเรียกว่า เพื่อนกินหาง่าย เพื่อตายหายาก เพราะคนพวกนั้นไม่อยากจะเข้ามาวุ่นวาย กลัวตัวเองจะซวยไปด้วย คนพวกนี้พอเรียนจบก็ไม่คิดจะคบต่อแล้ว แต่ละคนหน้าไหว้หลังหลอกทั้งนั้น
เวลาเคลื่อนไปอย่างรวดเร็วคุณหมอและพยาบาลทั้งหลายก็ออกมาจากห้องฉุกเฉิน และมีร่างของผู้ชายที่เธอรู้จักเป็นอย่างดีนอนแน่นิ่งอยู่บนรถเข็น มีสายห้อยระโยงยางเต็มไปหมด ใบหน้าของเขามีผ้าสีข้าวปิดบาดแผลเอาไว้ เรียกได้ว่าสภาพของเขายับเยิน ทำไมนะ เขาจึงได้กลายเป็นแบบนี้ เมาแล้วขับย่อมเกิดเหตุการณ์แบบนี้ และยังโชคดีอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ได้พรากชีวิตของใครไป
หากเกิดเหตุอันน่าสลดขึ้นมาจะทำอย่างไง คู่กรณียังแค่บาดเจ็บขาหัก พักรักษาตัวก็หาย หากมีคนต้องสังเวยชีวิต และเขาเป็นหัวหน้าครอบครัวจะทำยังไง ทำไมธนากรถึงได้แต่เอาอารมณ์เป็นใหญ่ ทำไมเขาจึงได้ขาดสติแบบนี้ เพราะอะไรกันแน่
“คุณหมอ เขาเป็นยังไงบ้างคะ” พราวดี ถามขึ้นเพราะอยากรู้อาการ จะได้โทรบอกพี่สาวให้มาดูดำดูดีเขาบ้าง
เวลารักกันก็แทบจะแหกตูดดม!
พอเวลาหมดรักย่อมไร้ความหมาย เธอไม่รู้ว่าระหว่างพี่สาวของหล่อนและคนเจ็บมันเกิดอะไรขึ้น เพราะปรีไม่ได้บอกเธอ รายนั้นมีอะไรมักจะไม่ค่อยพูดให้เธอได้ฟังสักนิด หากไม่เค้นถามจริง ๆ เธอก็คงจะไม่รู้เลย ในเมื่อปรีไม่บอก เธอก็ไม่เคยซักไซ้นั่นไม่ใช่หน้าที่ของเธอ
“ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว อาจจะเป็นเจ้าชายนิทราได้นะครับ” คุณหมอเอ่ยขึ้น ทำให้พราวนั้นแทบจะล้มทั้งยืน หน้าเธอชาไปหมด ขาเธอไร้เรี่ยวแรงที่จะยืน เพียงแค่พูดของคุณหมอ อาจจะ แต่ก็ห้าสิบห้าสิบ เขาอาจฟื้นขึ้นมาก็ได้ พราวดีคิดในแง่ดีเอาไว้ก่อน ส่วนลึก ๆ เธอก็แอบหวาดกลัวจริง ๆ กลัวว่าจะเป็นดั่งคำพูดของคุณหมอ
บุรุษพยาบาลเข็นรถคนป่วยเข้าห้องพัก ส่วนพราวดีก็เดินตามเข้าไปในห้องด้วยเช่นกัน ใบหน้าของเขามีแต่รอยแผลและรอยเลือดที่ไหลซึมออกมาจากผ้าที่พันเอาไว้ เนื้อตัวของเขาก็ดูจะยับเยินมากเหมือนกัน แต่ที่น่าห่วงก็คือ
พราวดีนั่งเฝ้าคนหมดสติไปตั้งแต่ตีสอง จวบจนตอนเช้า เธอจึงได้พยายามลองโทรหาพี่สาวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้สำเร็จ เมื่อปลายสายพูดขึ้นมาว่า “พราวจะโทรมาทำไมนักก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าพลอยปิดเครื่อง” ปลายสายหงุดหงิด เธอตื่นแต่เช้า เมื่อคืนก็หลับไปกับชายตัวโต พอเช้าเขาก็มักจะตื่นแต่เช้าแล้วก็ออกไปทำงาน
ทิ้งให้เธอนอนอยู่ในห้องของเขา แม้ว่าจะไม่กว้างขวางนักแต่อยู่แล้วสบายใจ เธอก็อยากจะพักอยู่กับเขานาน ๆ รู้ดีว่าไม่ใช่คำสำคัญ แต่เขาคือคนที่เข้ามาดามหัวใจในตอนที่ เธอแหลกสลาย ในตอนนี้เธอต้องการใครสักคนปลอบใจและดูแลในเวลาที่เธอเจ็บปวดทั้งกายและใจ
“พี่พลอย อยู่ไหนรู้ไหม ธนานอนอยู่โรงพยาบาล รีบมาดูเลยนะ” เมื่อแฝดน้องโทรหาพี่สาวติดในเวลา หกโมงเช้าของวันใหม่ พราวไม่ได้กลับบ้านอยู่ดูอาการของ ธนากรตลอดระยะเวลาที่เขานอนอยู่ในห้องพักของโรงพยาบาล
“พราวถ้ารู้ว่าธนาทำอะไรไว้กับพลอยบ้างเลวร้ายแค่ไหน พราวจะไม่มีวันเห็นใจเขาให้อภัยเลย แต่พลอยจะไม่พูดในสิ่งที่มันเป็นอดีตไปแล้ว และพราวก็เลิกสนใจเขาสะ ระหว่างพลอยกับธนาได้จบกันแล้ว ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก จะเป็นหรือจะตาย พลอยไม่สน คิดจะว่าพลอยใจร้ายใจดำก็ได้นะ” พลอยกมลรู้สึกเสียใจ แต่เธอก็ไม่อยากจะไปดูดำดูดีเขา เพราะสิ่งที่เขาก่อไม่ใช่เพราะเธอ ความสัมพันธ์มันจบลงไปตั้งหลายเดือนแล้ว และเมื่อคืนก็แค่ความบังเอิญเท่านั้น
เพราะเธอเจ็บมามาก เจ็บแล้วจำเธอคือคน ไม่ใช่ก้อนหินไร้เลือดเนื้อไร้หัวใจ