ตอนที่ 6 เธอน่าจะตายๆไปซะ
"ดาโอเคใช่ไหม"
จินตนาถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วงหลังพารมิดาออกมาทานข้าวที่ร้านริมทาง เป็นร้านข้าวแกงจานละไม่กี่บาทแต่ป้าเจ้าของร้านให้เยอะเพราะเห็นว่าเป็นลูกค้าประจำ หญิงสาวเคี้ยวข้าวตุยๆด้วยความหิวโหยเพราะตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้อง
คนเป็นแม่ไม่ได้ห่วงแค่สภาพร่างกายของลูกสาวเพียงอย่างเดียวแต่ห่วงสภาพจิตใจด้วย รมิดาน่าสงสาร ตั้งแต่เลิกกับทีปกรในครั้งนั้นเธอก็ไม่เห็นลูกสาวคุยกับผู้ชายคนไหนอีกเลย
"ดาโอเคค่ะ" หญิงสาวฉีกยิ้มหวานทั้งๆที่ใจแตกสลาย แต่ก็พยายามไม่ทำให้แม่เป็นห่วงเพราะไม่อยากให้แม่คิดมาก โชคดีที่ช่วงนี้อาการปวดไม่ค่อยกำเริบ ถือว่าฟ้ายังเห็นใจอยู่
"ไม่ต้องคิดมากนะ เดี๋ยวมันจะผ่านไปได้ด้วยดี..เชื่อแม่"
"ค่ะ"
รมิดาไม่มีทางรู้หรอกว่ามันจะผ่านไปได้ด้วยดีหรือไม่ แต่เธอไม่อยากให้เขาเกลียดไปมากกว่านี้แล้ว ผู้หญิงไร้ค่าต่ำต้อยอย่างเธอก็มีความรู้สึกเหมือนกับคนทั่วไป ร้องไห้และเจ็บเป็นเหมือนกัน
"ปวดหัวไหมลูก"
"ช่วงนี้ไม่ค่อยปวดแล้วค่ะ อาจเป็นเพราะคุณหมอพึ่งเปลี่ยนตัวยาให้"
"แม่ขอโทษนะที่ทำให้ลูกเป็นแบบนี้ แม่ผิดเอง"
"แม่อย่าโทษตัวเองสิคะ มันไม่ใช่ความผิดของแม่เลย มันเกิดจากความผิดปกติของเซลล์สมองต่างหาก"
"แม่กลัว..ฮึก...ถ้าวันหนึ่งดาไม่อยู่กับแม่ แล้วแม่จะอยู่กับใคร ฮื้อๆๆ"
"แม่..." รมิดาเสียงอ่อนน้ำตาตก เธอดึงมือของแม่เข้ามากุมให้กำลังใจ จะไม่มีวันทิ้งแม่ไปไหน สู้มาขนาดนี้แล้วสู้ต่อไปจะเป็นไร "ดาจะไม่มีวันทิ้งแม่ไปไหน ดาสัญญา"
"ดาสัญญาแล้วนะ...ฮึก~"
"ค่ะ ดาสัญญา...ดาจะสู้เพื่อแม่"
หลังทานข้าวทานยาเสร็จสองแม่ลูกก็ทำการจ่ายเงิน โดยราคาข้าวสองจานแค่ 60 บาท ที่ต้องประหยัดเพราะยังต้องเหลือเงินไว้จ่ายค่ารถเดินทางกลับบ้านอีก ส่วนอาชีพของรมิดากับแม่ก็คือทำขนมไทยโบราณขายส่งตลาด บางเดือนก็ได้เยอะบางเดือนก็ได้น้อย ครั้นจะไปทำงานประจำก็ไม่มีที่ไหนรับเพราะระมิดามีโรคประจำตัว เธอเรียนจบฝ่ายบัญชีจากมหาวิทยาลัยเปิด ตั้งแต่เรียนจบก็ยังไม่เคยทำงานตรงสายเลยเพราะเห็นว่าไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงานก็เลยหันมารับอาชีพแม่ค้าแทน
รมิดาค่อนข้างฉลาดและเป็นคนเรียนเก่ง เธอคือความหวังเดียวของแม่เพราะครั้งหนึ่งเคยสอบผ่านโครงการแพทย์ประจำอำเภอ ที่อยากเป็นหมอเพื่ออยากเดินตามรอยใครบางคน เขาคือแรงบันดาลใจทำให้เธอตั้งใจเรียนจนสอบติดแพทย์ แต่ความฝันก็ดันพังทลายไม่เป็นท่าเมื่อตรวจพบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง ทำให้เธอพลาดโอกาสสำคัญที่สุดในชีวิตไป แต่รมิดาก็ยังไม่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวเธอจึงเลือกเรียนมหาวิทยาลัยเปิดแทน
และในขณะที่สองแม่ลูกกำลังเดินออกมาจากร้านข้าวเล็กๆ จู่ๆก็มีรถของใครคนหนึ่งขับสวนมาพอดีเป็นรถหรูมีระดับราคาหลายสิบล้าน ในจังหวะนั้นคนขับก็ลดกระจกลงคุยกับสองแม่ลูก
"ผมอยากคุยกับรมิดา"
"อะ..เอ่อ...น้าว่าตอนนี้มันค่ำแล้ว พีทนัดพรุ่งนี้ไม่ใช่หรอ"
"ผมเปลี่ยนใจแล้ว"
"ตะ..แต่น้าว่าไว้คุยกันพรุ่งนี้ดีกว่าไหม วันนี้ดาเหนื่อยมากแล้ว"
"ถ้าจะคุยพรุ่งนี้ก็คงต้องไปคุยกันโรงพักแล้วล่ะ เพราะผมอยากเคลียร์เรื่องนี้ให้มันเสร็จภายในวันนี้!"
"เดี๋ยวดาไปกับเขาเองค่ะ" รมิดาเอ่ยปากบอกคนเป็นแม่อย่างใจเย็น อยากรีบเคลียร์เรื่องนี้ให้มันจบๆ เพราะจะได้ชดใช้ในสิ่งที่ทำ
"ดาดูแลตัวเองได้ใช่ไหม แม่เป็นห่วง"
"โอ้ยคุณน้า! คิดว่าผมจะเอาลูกสาวของคุณนะไปปู้ยี้ปู้ยำหรอ แค่คิดก็สะเอียนละ ผมกระเดือกไม่ลงหรอกเลิกคิดเข้าข้างตัวเองได้แล้ว!"
สายตาคมกริบตวัดมองอย่างไม่พอใจ คิดว่าตัวเองสวยเลิศเลอเพอร์เฟคจนผู้ชายมองสินะ เขาคนหนึ่งแหละที่ไม่แม้แต่จะชายตามองผู้หญิงชั้นต่ำแบบนี้ ผู้หญิงที่ทำให้น้องเขากลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไม่จับเข้าคุกก็บุญหัวเท่าไหร่แล้ว!
รมิดาโบกมือบ๊ายบายนางจินตนาก่อนที่รถสองแถวจะวิ่งผ่านมาพอดี จินตนามองลูกสาวด้วยความเป็นห่วง แต่ก็เชื่อว่าลึกๆรมิดาคงดูแลตัวเองได้และหวังว่าทีปกรจะไม่ทำอะไรลูกสาวของเธอ
"มานั่งข้างหน้า! เธอคิดว่าตัวเองเป็นคุณหนูแล้วฉันเป็นคนขับรถหรอ ถึงสะเออะไปนั่งข้างหลัง!"
เสียงเข้มตะคอกด่าเมื่อเห็นรมิดากำลังจะเปิดประตูหลัง หญิงสาวเม้มปากเข้าหากันแล้วเดินมาเปิดประตูหน้าก่อนยัดตัวเข้าไป แต่ยังไม่ทันคาดเข็มขัดชายหนุ่มก็พุ่งรถออกสู่ท้องถนนด้วยความเร็วสูงจนร่างของรมิดากระแทกกับคอนโซล
ปึก!
"โอ้ยย!!!"
"หึ!" หมอหนุ่มแสยะยิ้มมุมปาก ฉับพลันภาพคืนวันเก่าๆก็หวนกลับมา หลังเลิกเรียนเขากับรมิดาชอบออกไปขับรถเล่นด้วยกันบ่อยๆ ความโกรธแค้นกับเรื่องราวที่ยังฝังใจทำให้ชายหนุ่มเหยียบคันเร่งจนมิด ยังจำได้ขึ้นใจว่ารมิดากลัวความเร็ว ทำให้รู้สึกโกรธตัวเองที่ยังไม่ลืมเรื่องราวของเธอ
"ขะ..ขับเบาๆหน่อยได้ไหมคะ..ดะ...ดากลัว" หญิงสาวหลับตาปี๋นั่งตัวลีบชิดหลังติดเบาะแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าชายหนุ่มจะลดความเร็วลง
"กลัวตายเป็นด้วยหรอ"
"ดะ...ดากลัวความเร็วค่ะ"
"ก็นึกว่ากลัวตายซะอีก คนอย่างเธอมันน่าจะได้ตายๆไปซะตั้งนาน!"
กึก~
ร่างของรมิดาชะงัก!
เขากำลังแช่งให้เธอ! โดยไม่รู้ว่าครั้งหนึ่งในอดีตชีวิตของเธอเคยผ่านความตายมาก่อน ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นด้วยความเสียใจ ไร้ค่าถึงขนาดบอกให้กันไปตายเชียวหรือ
"ขอโทษที่ดายังไม่ตาย" หญิงสาวประชดประชันด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
"เพราะคนเลวๆอย่างเธอ...ต้องอยู่ชดใช้กรรมไปอีกนาน!"
รมิดาไม่มีทางรู้ว่ามัจจุราชในคาบเทพบุตรเป็นใคร เพราะเขาคนนั้นจะเป็นศาลเตี้ยตัดสินเรื่องทั้งหมดเอง ทั้งความเจ็บปวดที่เธอเคยมอบให้รวมไปถึงเรื่องที่ทำให้ทิชากรต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา!