ตอนที่ 11 เจ็ดปีที่แล้ว
7 ปีที่แล้ว...
"ตอนนี้คนไข้ตรวจเจอเนื้องอกในสมองครับ"
"มะ...ไม่จริง~"
"หมอแนะนำให้รีบเข้ารับการผ่าตัดด่วนเลยนะครับ เพราะถ้าปล่อยไว้นานมันจะไปกดทับเส้นประสาท อาจทำให้คนไข้อาจสูญเสียการมองเห็นไปตลอดชีวิต"
ในวันที่รมิดาได้รับข่าวดีว่าเธอสอบติดแพทย์คือวันที่เธอก็ได้รับข่าวร้ายเช่นกัน ตอนนี้ตนเองกำลังป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง และที่แย่ไปก่อนนั้นก็คือหากไม่เข้ารับการผ่าตัดอาจจะทำให้เธอตาบอดไปตลอดชีวิต
ความโชคดีที่มาพร้อมความโชคร้าย เธอเองก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าอายุแค่นี้จะป่วยเป็นโรคร้าย
"ละ...แล้วถ้าผ่าตัด หนูจะเป็นอะไรไหมคะ"
"ตอนนี้หมอไม่กล้าคอนเฟิร์มครับ มีโอกาสห้าสิบๆ เพราะจุดที่มีเนื้องอกเป็นจุดที่ค่อนข้างอันตราย"
"นะ...หนูกลัวค่ะ"
"ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่ากับการที่คนไข้ต้องมองเห็นทุกอย่างเป็นสีดำแล้วแหละ หมอจะให้เวลาคนไข้กลับไปคิดนะครับ พร้อมผ่าตัดเมื่อไหร่ให้แจ้งพี่พยาบาลทำบัตรนัดไว้เลย"
รมิดานั่งซึมไปพักหนึ่ง เธอเดินออกมาจากโรงพยาบาลด้วยความห่อเหี่ยวใจพร้อมกับผล Ct scan ทำไมชีวิตต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ ทั้งๆที่เธอสอบติดแพทย์แล้วเชียวแต่ทำไมโชคชะตาถึงไม่เข้าข้าง
ดูเหมือนว่าอาการของเธอกำลังจะแย่ลงหากไม่รีบเข้ารับการผ่าตัด การผ่าตัดเนื้องอกในสมองต้องใช้เวลาพักฟื้นนานและมาต้องติดตามดูอาการเป็นประจำ ซึ่งมันกระทบต่อการเรียนแน่นอน หากเธอเลือกเรียนก็คงไม่ได้ผ่าตัดเพราะมหาวิทยาลัยที่สอบติดอยู่ต่างจังหวัด อีกอย่างถ้าลาไปหาหมอบ่อยๆ ต้องเรียนไม่ทันเพื่อนแน่ๆเพราะอย่างที่รู้ๆกันว่าแพทย์ค่อนข้างเรียนหนัก
จู่ๆมือถือเครื่องหรูที่แฟนหนุ่มของเธอเป็นคนซื้อให้ก็แผดดังขึ้น หน้าจอโชว์รูปคู่สุดหวานฉ่ำ รมิดากดรับแต่ไม่ยอมบอกเรื่องผลการตรวจเพราะไม่อยากให้เขาเป็นห่วง
"เป็นไงบ้างครับสาวน้อย คุณหมอบอกว่าเป็นอะไร"
"คุณหมอว่าดา...เอ่อ..เป็นไมเกรนค่ะ"
"นี่ยังไม่เริ่มเรียนมหาวิทยาลัยเลยนะ เป็นไมเกรนไว้ก่อนแล้วหรอ" ทีปกรพูดติดตลก เขาไม่ได้พาแฟนสาวมาหาหมอเพราะต้องไปเข้าเวรที่โรงพยาบาลประจำอำเภอซึ่งไกลจากตัวเมืองพอสมควร
"แล้วพี่พีทล่ะคะ ได้รับข่าวดีหรือยัง"
"อ้อ พอดีว่าทางเยอรมันเขาค่อนข้างพอใจกับผลงานของพี่น่ะ ก็เลยได้ทุนไปเรียนต่อทางด้านประสาทศัลยศาสตร์"
"ดีใจด้วยนะคะ พ่อกับแม่พี่คงภูมิน่าดู"
"แต่พี่คิดไว้แล้วว่าจะไม่ไป"
"ทะ..ทำไมคะ พี่จะตัดโอกาสตัวเองหรอ!"
"ถ้าไปพี่ก็ไม่ได้เจอหน้าดาสิ แฟนพี่ยิ่งสวยๆอยู่ ถ้ามีคนเข้ามาจีบจะทำยังไง"
"ตะ..แต่พ่อกับแม่พี่ท่านหวังมากเลยนะคะ อย่าทิ้งอนาคตเพราะดาเลยนะ ดารอได้ค่ะ"
"แต่พี่รอไม่ได้นี่สิ แพทย์เฉพาะทางต้องเรียนต่ออีก 6 ปี พี่ไม่อยากห่างดา"
"..." รมิดาถอนหายใจกับน้ำเสียงออดอ้อนของแฟนหนุ่ม ทำไมต้องมาทิ้งอนาคตเพราะเธอแค่คนเดียว เขาคือความหวังของพ่อแม่ คือความหวังของครอบครัว เธอไม่อยากฉุดรั้งอนาคตของชายอันเป็นที่รัก "คิดซะว่าเพื่ออนาคตนะคะ"
"พี่ปฏิเสธไปแล้ว"
"ทะ..ทำไม!"
"ก็พี่ไม่อยากไปไง พี่อยากอยู่ใกล้ๆดา"
"แล้วพ่อกับแม่พี่ว่ายังไงคะ"
"ตอนนี้พี่ทะเลาะกับท่านทั้งสองอยู่" น้ำเสียงจากปลายสายตอบเหมือนไม่แคร์อะไร
"เป็นเพราะดาแท้ๆ ดะ...ดากำลังฉุดรั้งอนาคตของพี่"
"ไม่ใช่หรอก มันเป็นเพราะพี่รักดามากเกินไปต่างหาก ทำให้พี่ไม่อยากห่างจากแฟนแม้แต่วินาทีเดียว พี่เป็นคนติดแฟนและยิ่งมีแฟนเด็กด้วยก็ยิ่งหวง"
"พี่พีท..."
"ดาไม่ต้องห่วงนะ พ่อกับแม่พี่ท่านโกรธไม่นานหรอกเดี๋ยวก็หายเพราะยังไงพี่ก็คือลูกของท่าน"
แม้ชายหนุ่มจะมีน้ำเสียงบ่งบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร แต่ลึกๆรมิดารู้ดีว่าไม่มีใครรู้สึกดีที่ทะเลาะกับพ่อแม่ของตัวเอง และยิ่งทะเลาะเพราะเรื่องของเธอก็ยิ่งทำให้รมิดารู้สึกละอายใจ ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำได้เหมือนทีปกร ส่งผลงานไปหลายร้อยคนแต่มีแค่แฟนหนุ่มของเธอคนเดียวที่ได้
ในตอนนี้อนาคตของทีปกรสำคัญที่สุดเพราะเธอก็ไม่รู้ว่าหากเข้ารับการผ่าตัดแล้วจะมีโอกาสกลับมาไหม กลัวเป็นผู้หญิงโชคร้าย ไม่อยากเห็นแก่ตัวดึงเขาลงมาในขณะที่ชีวิตเธอกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายเพราะถ้ายังฝืนคบกันต่อไปที่บ้านของทีปกรคงเกลียดเธอจนเข้ากระดูกดำ
ต้องทำอะไรสักอย่างให้เขาตัดใจจากเธอ แล้วไปเรียนต่อที่เยอรมันซะ!!
"อ่าวดา มานั่งทำอะไรตรงนี้" โรสรินเพื่อนสนิทของรมิดาร้องทัก
"อะ..อ้อ! ฉันมานั่งเล่นน่ะ แล้วเธอไปไหนมา"
"ฉันเพิ่งมาจากโรงพยาบาลแฟนของเธอนั่นแหละ เอ่อนี่ ฉันมีเรื่องจะบอก" โรสรินแทรกตัวนั่งลงข้างๆรมิดา พร้อมหยิบมือถือขึ้นมา
"อะไรหรอ"
"วันก่อนฉันไปที่โรงพยาบาลมา เห็นเขากำลังนั่งอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ส๊วยๆ"
"นะ...ไหน"
"นี่ไง" โรสรินยื่นรูปที่ตนเองแอบถ่ายให้รมิดาดู ในรูปเป็นทีปกรแฟนหนุ่มของเธอจริงๆเขากำลังนั่งคุยกับใครบางคนด้วยท่าทียิ้มแย้มและข้างๆก็เป็นคุณหญิงอมรรัตน์ "ฉันว่าคุณหญิงต้องจับคู่ให้พี่พีทแน่ๆเลย"
"มะ...ไม่จริง!" รมิดารู้สึกเจ็บแปล๊บที่หน้าอกข้างซ้าย เจ็บกว่าตอนที่รู้ตัวว่าเป็นเนื้องอกในสมองซะอีก
"ฉันได้ยินพยาบาลเม้าท์กันว่า คนนี้แหละคือว่าที่ลูกสะใภ้ที่คุณหญิงเล็งไว้ ก็เหมาะสมกันดีนะ ผู้ชายก็หล่อผู้หญิงก็ส๊วยสวย"
"พอแล้วโรส..ฉะ...ฉันไม่อยากฟัง!"
รมิดาลุกวิ่งหนีเพราะทนฟังไม่ได้ เธอได้ยินเรื่องนี้จากปากของโรสรินมาพักหนึ่งแล้วแต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริงจนกระทั่งได้เห็นกับตา จึงไม่ทันสังเกตว่าตอนนี้มุมปากร้ายของเพื่อนสนิทกำลังแสยะยิ้ม
"หึ! โง่จริงๆ"