03 วันฟ้าใหม่
[พาร์ท: วันฟ้าใหม่]
เขาเป็นคนที่หยาบคายที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยก็ว่าได้ แถมยังมีท่าทีคุกคามใส่ฉันอีก ตกลงเขาเป็นโรคจิตอย่างนั้นเหรอ ฉันรีบปั่นจักรยานกลับมาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะกลัวนายโรคจิตนั่นจะตามมา บ้านของฉันไม่เปลี่ยวหรอกแต่ตกดึกก็ไม่ค่อยมีรถผ่านเท่าไหร่รถจักรยานฉันมีไฟนะ พี่ทีทำให้เพราะเห็นว่าฉันทำงานกลับดึกทุกวันเลยเอาไฟมาติดไว้ให้
ฉันทำแบบนี้จนชินแล้วตั้งแต่ยังเรียนไม่จบม.6เลย แต่ตอนนี้ฉันเรียนจบแล้วเลยออกหาทำงานได้เต็มที่
“พี่ที พี่ที”เสียงของฉันตะโกนดังก้องอยู่หน้ารั้วบ้านของพี่ที ทำไงได้ล่ะถ้าไม่ตะโกนฉันก็ไม่รู้จะทำยังไง โทรศัพท์ก็แบตหมดไปแล้ว
“อื้อ วันใหม่กลับมาแล้วเหรอ”
“ค่ะ ใหม่มารับน้องหนึ่ง”
“น้องหนึ่งหลับไปแล้วอ่ะ จะพากลับไปเลยเหรอ ให้น้องหนึ่งนอนที่นี่ก็ได้”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ที แค่นี้ใหม่ก็เกรงใจจะแย่แล้ว ขอบคุณพี่ทีมากๆนะคะ”ฉันบอกกับพี่ที จากนั้นแกก็เดินกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง
จะปล่อยให้น้องหนึ่งอยู่บ้านคนเดียวฉันก็เป็นห่วงเลยเอามาฝากไว้กับพี่ที แล้วเลี้ยงข้าวพี่ทีเป็นการตอบแทน พี่ทีเป็นเพื่อนบ้านเห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆส่วนพ่อแม่ของพี่ทีเสียหมดแล้วเหมือนกัน พี่ทีแกอยู่คนเดียวมาตลอด ทำงานส่งตัวเองจนเรียนจบมหาลัยมีงานออฟฟิศทำอย่างสบาย ส่วนฉันมันก็เหมาะแค่ลูกจ้างร้านเหล้าแบบนี้แหละไปทำงานออฟฟิศกับเขาไม่ได้หรอก ฉันหัวสมองไม่ดีขนาดนั้นการเรียนก็แค่เกรด2แค่นั้น ทำไงได้ล่ะฉันโฟกัสที่เรื่องเรียนอย่างเดียวไม่ได้นี่สิ ฉันคือหัวหน้าครอบครัว ต้องหาเงินส่งน้องเรียน
ไม่นานพี่ทีก็เดินออกมาพร้อมกับน้องหนึ่งที่หลับอยู่บนบ่าของเขา
“เดี๋ยวพี่อุ้มไปส่งนะ ส่งไปส่งมาน้องหนึ่งจะตื่นเอา”
“ค่ะพี่ที”
ฉันเดินนำพี่ทีเข้าไปในบ้านพาขึ้นไปยังชั้นบนห้องนอนของตัวเอง น้องหนึ่งนอนอยู่กับฉันที่เตียงเดียวกันนี่แหละ เบียดเสียดกันหน่อยแต่ก็อบอุ่นดี
“วางน้องหนึ่งลงบนเตียงเลยค่ะพี่ที”
“ครับ”พี่ทีค่อยๆวางน้องหนึ่งลงบนเตียง
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะพี่ที ที่คอยช่วยเหลือใหม่กับน้อง”
“ไม่เป็นไร พี่ยินดีช่วยเราทุกเรื่องแหละ บอกให้ไปทำงานที่บริษัทที่พี่ทำอยู่ก็ไม่ไป อุตส่าห์จะฝากเข้างานให้”เรื่องนี้พี่ทีพูดกับฉันหลายครั้งแล้ว แต่ฉันก็ปฏิเสธทุกครั้ง
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ที ใหม่ไม่อยากถูกมองว่าเป็นเด็กเส้น อีกอย่างหัวสมองใหม่ก็ไม่ได้ดีถึงขนาดจะต้องไปทำงานออฟฟิศหรอกค่ะ”
“เฮ้อ!! พี่คงหมดปัญญาแล้วสินะ แต่ก็เอาเถอะแล้วแต่ใหม่จะตัดสินใจ พี่กลับก่อนนะ”
“ฝันดีนะคะพี่ที”
“เช่นกันครับ”
หลังจากที่พี่ทีเดินออกไปฉันก็ลงไปปิดประตูบ้านแล้วขึ้นมาอาบน้ำเข้านอน เหนื่อยมาทั้งวันเลยวันนี้ไหนจะเจอคนปากจัดโรคจิตอีก ไม่รู้ว่าคนชอบกันไปได้ยังไง ไหนจะรอยสักเต็มตัวอีกแค่คิดก็ขนคิงลุกแล้ว ฉันไม่ชอบคนมีรอยสักเลยเอาจริงๆ มันดูเถื่อนโหดร้ายดูน่ากลัวแปลกๆ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงเรียบร้อยอะไรหรอกแต่ก็รู้ว่าควรจะเอาตัวรอดยังไง ถามว่าฉันสู้คนหรือเปล่าก็ไม่เชิงนะ ถ้าฉันไม่ผิดฉันจะสู้ และสู้ยิบตาด้วย แต่กับคนอย่างนายนั่นฉันไม่กล้าสู้ ถ้ามันฆ่าปาดคอฉันขึ้นมาละจะทำยังไง น้องหนึ่งจะอยู่ยังไง ฉันไม่เสี่ยงไปต่อปากต่อคำกับนายนั่นหรอก
“เฮ้อ!”เสียงลมหายใจของฉันพ่นออกมาอย่างแรงพร้อมเสียงประกอบ จะว่าไปแล้วก็คิดถึงพ่อกับแม่จัง ป่านนี้พวกท่านจะเป็นยังไงบ้างนะ สบายดีไหม ฉันได้แต่นอนคิดไปเรื่อยเปื่อยวางแผนอนาคตของตัวเองและน้อง และในที่สุดฉันก็เผลอหลับไปเพราะความเพลีย
เช้าวันต่อมา
ฉันตื่นแต่เช้ามาหุงข้าวทำกับข้าวให้น้องหนึ่งกิน วันนี้เสนอเมนูต้มจืดเต้าหู้และไข่เจียว อาหารประจำบ้านนี้เลยแหละเพราะฉันไม่มีเงินไปซื้อของแพงๆหรอก กุ้งหมึกก็ได้กินเป็นบางครั้งหรือไม่ก็เฉพาะวันเงินเดือนออก เงินที่มีฉันจะเอาไปใช้ฟุ่มเฟือยไม่ได้ฉันต้องเก็บเอาไว้เผื่อยามฉุกเฉินจะได้มี