บท
ตั้งค่า

ส่วนเกิน

เวลาต่อมา...

วันหนึ่งแอบยืนดูอยู่พ่อกับแม่ที่กำลังนั่งถ่ายรูปครอบครัวกับน้องฝาแฝดชายหญิงที่ตอนนี้อายุครบหนึ่งขวบแล้ว เธอรักน้องฝาแฝดทั้งสองคนมากแม้เธอจะถูกผู้เป็นแม่ห้ามไม่ให้ได้เข้าใกล้น้องทั้งสองคนก็ตาม แต่ถ้าอยู่ต่อหน้าคุณย่าหรือคนอื่นๆ คุณแม่จะเปลี่ยนเป็นอีกคนทันที ตอนนั้นเธอจะสามารถอุ้มแล้วก็กอดหอมน้องทั้งสองคนได้ แม้จะถูกสายตาของผู้เป็นแม่มองอย่างไม่พอใจก็ตาม คุณแม่บอกว่ากลัวเธอจะแกล้งน้องทำร้ายน้องเพราะความอิจฉาทั้งที่เธอไม่เคยมีความคิดแบบนั้นเลยสักครั้ง เธออยากเลี้ยงน้องอยากช่วยดูแลน้องๆ เท่าที่เธอจะช่วยได้

"วันหนึ่งมาถ่ายรูปสิลูกไปหลบทำไมตรงนั้น" คุณพ่อหันมาเห็นเธอที่ยืนหลบอยู่หลังเสาท่านเรียกเธอให้เข้าไป เธอจำใจต้องเดินก้มหน้าก้มเข้าไปร่วมเฟรมเพื่อถ่ายรูปโดยมีสายตาเกลียดชังอย่างไม่ปิดบังของผู้เป็นแม่มองเธอตลอดก็ตาม

หลังจากถ่ายรูปครอบครัวเสร็จวันหนึ่งก็รีบพาตัวเองเดินออกมาจากห้องรับแขกทันทีเพราะเธอรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก ช่วงที่เธอต้องไปยืนถ่ายรูปแม่บุญธรรมของเธอจะคอยเอามือมาหยิกหลังหยิกแขนเธอตลอดเวลาเธอพยายามอดทนไม่ร้องออกมาแม้จะเจ็บสักแค่ไหนก็ตาม

"พี่พงค์ให้ยัยหนึ่งมาถ่ายรูปครอบครัวเราทำไมคะ" สิตาถามสามีทันทีด้วยความไม่พอใจอย่างไม่ปิดบัง

"ยัยหนึ่งก็เป็นคนในครอบครัวเดียวกันกับเราเป็นลูกเรานะทำไมสิตาถึงพูดแบบนี้ถ้าแกมาได่ยินแกจะรู้สึกยังไง"

"พี่พงค์คะ พี่พงค์อย่าลืมสิคะว่ายัยหนึ่งน่ะเป็นแค่เด็กกำพร้าที่เรารับมาเลี้ยงแกไม่ใช่ลูกเราจริงๆ ซะหน่อย ที่สิตาให้ช่างถ่ายรูปมาถ่ายวันนี้ก็เพื่อถ่ายรูปครอบครัวของเรา ครอบครัวที่เป็นครอบครัวเราจริงๆ ไม่ใช่ให้คนอื่นมาถ่ายร่วมด้วย"

"พี่ไม่เคยลืมว่ายัยหนึ่งมาจากไหน แต่ตอนนี้แกเป็นลูกของเราสิตาอย่าลืมสิเรารับแกมาเป็นลูกบุญธรรมอย่างถูกต้องตามกฎหมายนั่นเท่ากับว่าแกเป็นลูกของเรา"

"ลูกที่สิตาไม่เคยต้องการน่ะเหรอคะ" สิตาอดพูดไม่ได้เธออดทนมานานเกินพอแล้วเธอไม่จำเป็นต้องอดทนอีกต่อไปในเมื่อตอนนี้เธอเองก็มีลูกเป็นของตัวเองแล้ว เธอกำลังคิดว่าจะส่งวันหนึ่งกลับไปอยู่ที่เดิมนั่นก็คือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพราะสาเหตุที่รับวันหนึ่งมาเลี้ยงก็เพื่อให้เกิดลูกอิจฉาซึ่งตอนนี้เธอก็มีลูกของตัวเองสมใจแล้วแถมยังได้มาตั้งสองคนพร้อมกันเพราะฉะนั้นวันหนึ่งก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปเธอกำลังคิดหาคำพูดจะไปพูดกับแม่สามีและสามีของเธออยู่

" พี่ไม่ชอบเลยนะที่สิตาพูดแบบนี้ สิตาพูดเหมือนกับว่ายัยหนึ่งไม่ใช่ลูกไม่ใช่คนในครอบครัวเดียวกันกับเรา ยัยหนึ่งอยู่กับมาตั้งนานหลายปีพี่คิดว่าสิตาเปลี่ยนความคิดแล้วซะอีกแต่ที่ไหนได้"

"พี่พงค์"

"พี่รู้มาตลอดว่าสิตาไม่ชอบวันหนึ่งพี่ดูออกตั้งแต่วันที่เราไปรับยัยหนึ่งมาที่บ้านแล้วแต่ที่พี่ไม่พูดที่พี่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาสิตาปฏิบัติตัวยังไงกับวันหนึ่งลับหลังพี่กับคุณแม่เพราะพี่คิดว่าสักวันหนึ่งสิตาจะรักและเอ็นดูวันหนึ่งเหมือนที่พี่กับคุณแม่เอ็นดูเพราะแกเป็นเด็กดี แต่เปล่าเลยสิตายังคงไม่เป็นความคิด"

"พี่พงค์พูดเหมือนสิตาเป็นตัวร้ายเลยนะคะ พี่เห็นยัยหนึ่งเด็กกำพร้าดีกว่าสิตาที่เป็นเมียเป็นแม่ของลูกเหรอคะ"

"ไปกันใหญ่แล้วนะสิตา"

"สิตายอมรับก็ได้ค่ะว่าสิตาไม่ชอบขี้หน้ามันสิตาเกลียดมันถึงมันจะได้ชื่อว่าเป็นลูกบุญธรรมแต่พี่พงค์อย่าลืมว่าสิตาไมไ่ด้เต็มใจรับมันมาเป็นลูก จะบอกให้นะคะว่าสิตาไม่เคยยอมรับมัน ถ้าวันนั้นคุณแม่ไม่บังคับให้เราต้องรับมันมาเลี้ยงอย่าหวังเลยว่าสิตาจะไปเอาเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างมันเข้ามาอยู่ในครอบครัวของเรา"

"สิตา พี่ไม่คิดเลยนะว่าสิตาจะมีความคิดแบบนี้สิตาผู้หญิงที่น่ารักอ่อนหวานนิสัยดีของพี่คนเดิมหายไปไหน"

"มันไมไ่ด้หายไปไหนหรอกค่ะ สิตาก็เป็นของสิตาแบบนี้มาตั้งนานแล้ว"

ในอีกมุมหนึ่ง..

เด็กหญิงตัวน้อยได้ยินทุกอย่างที่พ่อกับแม่บุญธรรมพูดกัน เธออดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจน้อยใจ ที่ผ่านมาเธอพยายามทำทุกอย่างให้แม่บุญธรรมรักและเลิกเกลียดเธอแต่มันก็ไม่เป็นผลเพราะไม่ว่ายังไงท่านก็เกลียดเธออยู่วันยังค่ำ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel