หวนคืน
“ เกิดอะไรขึ้นครับพ่อ ”
เขาเอ่ยถามผู้เป็นบิดา ที่หันกลับมาด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความเจ็บปวดผสมผสานกับความแข็งกร้าวในแววตาที่เคียดแค้น
“ ปราบ แม่แกหนีพ่อไปแล้ว หนีแกไป เขาทิ้งพวกเราไปแล้ว ”
“ อะไรนะครับพ่อ ”
“ แม่แกมีชู้ หนีตามชายชู้ไปแล้ว แม่เอาน้องไปด้วย เอาตาปราณไปด้วย ” เด็กหนุ่มยืนช็อค ทำอะไรไม่ถูก
นายหัวปราบสลัดศีรษะราวกับจะให้ภาพเหล่านั้นหลุดออกไปจากความทรงจำ ภาพความทรงจำอันเจ็บปวดที่ผู้เป็นแม่ได้ก่อไว้กับเขาและพ่อ
คุณปู่ของเขาเป็นคนสงขลา แต่คุณย่าเป็นคนกรุงเทพที่มีเชื้อสายจีน ทำให้ปริม พ่อของเขาไม่ได้มีลักษณะคล้ำเข้มเหมือนคนใต้ทั่วไป เขาสูงใหญ่ ตาคมเฉี่ยว ผิวขาวเป็นพื้นฐานแต่คร้ามเข้มเพราะตากแดดเป็นประจำ อันเป็นลักษณะที่ถ่ายทอดมายังปราบด้วย
พ่อของเขานั้นเป็นทั้งเจ้าของสวนยางและสวนปาล์มที่เขาสืบทอดมรดกมาทำต่ออยู่ในขณะนี้นับพันไร่ พ่อไปพบรักกับแม่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย แม่เป็นสาวเหนือตัวเล็ก ผิวขาว น่ารัก ทำอาหารเก่ง ตอนเด็ก ๆ แม่ชอบทำอาหารเหนือให้กินอยู่เสมอ แล้วเขาก็ชอบมันมากเสียด้วยโดยเฉพาะข้าวซอย
เขามีน้องชายคนหนึ่งอายุห่างกันสิบปี ชื่อ ปราณ เด็กชายติดพี่ปราบแจ ด้วยความที่ห่างกันมากจึงไม่มีปัญหาทะเลาะกัน ปราบรัก ตามใจน้อง ดูแลน้องทุกอย่าง สองคนตัวติดกันแทบจะตลอดเวลา จวบจนกระทั่งวันนั้น วันที่แม่ทิ้งเขากับพ่อไป โดยพรากน้องชายของเขาไปด้วย ในวันที่เขาอายุสิบเจ็ดปี ปราณน้องชายอายุเจ็ดปี
พ่อจ้างนักสืบเสาะหาแม่อยู่นานก็ไม่พบเบาะแส สุดท้ายพ่อก็ล้มเลิกความตั้งใจ แต่ตกอยู่ในภาวะเครียด ซึมเศร้า ดื่มหนัก จนกระทั่งสองปีหลังจากนั้นพ่อก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตคาที่เพราะเมาแล้วขับ เด็กหนุ่มวัยสิบเก้าเคว้งคว้างเลื่อนลอยเป็นอย่างมาก ไม่มีแม้เงาแม่ที่จะมาร่วมงานศพพ่อ
คนที่อยู่เคียงข้างเขาเสมอก็คือ พิรัช เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่เติบโตมาด้วยกัน พ่อของทั้งสองเป็นเพื่อนกัน แม่เสียชีวิตไปนานแล้ว จึงทำให้ลูกที่เกิดมาในรุ่นราวคราวเดียวกันจึงสนิทกันไปด้วย พิรัชมีน้องชายหนึ่งคนเหมือนกับเขาชื่อ พิธาน พ่อของพิรัชเป็นจิตแพทย์ ลูกชายจึงเจริญรอยตามเป็นแพทย์ไปด้วย แต่อยู่ในสาขาสูตินรีเวช ส่วนผู้เป็นน้องชายนั้นเป็นวิศวกร
ปราบนำความเสียใจและปวดร้าวมาเป็นพลังให้ฮึดสู้ต่อไปได้ ในเมื่อแม่ทิ้งเขาทิ้งพ่อไป จนกระทั่งพ่อตรอมใจแล้วก็ตายไปในที่สุด เขาจะมามัวคิดถึงแม่อยู่ทำไม สู้เขาเอาเวลาที่เหลือมาบริหารกิจการของพ่อให้ดี พ่อจะได้ภูมิใจเมื่อมองลงมาจากบนฟ้า
ความเจ็บปวดหล่อหลอมให้เขาเป็นคนเย็นชาและค่อนข้างเก็บตัว แล้วปราบที่อ่อนแอเศร้าโศกในวันนั้นก็กลายเป็นนายหัวปราบผู้เคร่งขรึมเด็ดขาดในวันนี้ เขามุ่งมั่น เขาตั้งใจ นอกจากศึกษาเล่าเรียนทางด้านบริหารธุรกิจจนจบ แล้วเขาก็บริหารงานสวนยางและสวนปาล์มของพ่อให้เจริญรุ่งเรือง อีกทั้งยังสร้างกิจการรีสอร์ทเพิ่มขึ้นอีกด้วย
แต่นายหัวปราบก็กลับกลายเป็นชายหนุ่มผู้รังเกียจผู้หญิงไปเสียฉิบ เขาไม่เคยคบใคร ไม่เคยรักใคร เพราะเขาเจ็บปวด เจ็บปวดกับการทรยศหักหลังของผู้หญิงที่ได้ชื่อว่า แม่ ที่ทิ้งพ่อกับเขาไปอย่างไม่ใยดี มันเจ็บจนฝังลึกอยู่ในใจ เวลาที่เขาจะให้ผู้หญิงเข้าใกล้ก็คือเวลาที่เขามีอารมณ์ทางเพศและต้องการปลดปล่อยมันเท่านั้น
ขณะกำลังนั่งทอดอารมณ์คิดอะไรเพลิน ๆ อยู่นั้น ก็มีเสียงคนงานเรียกอยู่ด้านนอก
“ นายหัวครับ นายหัว ”
“ ว่าไง ” เขาตะโกนตอบออกไป
“ มีคนมาขอพบครับ ”
“ เข้ามา ประตูไม่ได้ล็อค ”
สักพักประตูก็ถูกเปิดออก คนงานคนนั้นเดินเข้ามา ตามมาด้วยชายหนึ่งคนด้านหลัง ร่างนั้นเดินใกล้เข้ามาจนมาหยุดหน้าโซฟาที่เขานั่งอยู่ นายหัวปราบเงยหน้าขึ้นมองผู้มาเยือน
ร่างสูงโปร่ง ใบหน้าละม้ายคล้ายเขา ผิดกันที่คนคนนี้จะขาวกว่าและรูปร่างบอบบางกว่าเขา นายหัวปราบตัวชา จ้องมองใบหน้านั้นราวกับโดนมนต์สะกด เขาลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อความแน่ใจ ชายหนุ่มคนนั้นมีน้ำตารื้นที่ขอบตา แล้วเอ่ยปากเรียกออกมา
“ พี่ปราบ ! ”
“ ปราณ ! ”