ตอนที่ 2 การกลับมา
@ประเทศไทย
ในขณะที่อีกฟากหนึ่ง เหล่าแม่บ้านกำลังวุ่นวายกับการทำความสะอาดคฤหาสน์สุดอลังกันยกใหญ่ เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงคุณชายของบ้านก็จะเดินทางมาถึงเมืองไทยแล้ว
“ห้องหลานชายของฉันทำความสะอาดดีแล้วใช่มั้ย”
“เรียบร้อยค่ะคุณหญิง”
"เศษฝุ่น หยากไย่ เอาออกหมดแล้วใช่มั้ย หลานชายฉันเป็นคนรักความสะอาด แม้แต่เศษฝุ่นก็ห้ามมีเข้าใจมั้ย!"
“เข้าใจค่ะคุณหญิง”
“อืม ไป๊ๆ ไปทำงานต่อ”
บ้านแม่ชุดยูนิฟอร์มสีขาวโค้งศีรษะให้อย่างมีมารยาทแล้วรีบไปทำความสะอาดต่อ เหตุที่ต้องทำความสะอาดกันยกใหญ่เพราะนานๆ ทีคุณหญิงจะมาพักที่นี่ เธอชอบเข้าสังคม ชอบสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนในแวดวงไฮโซ ส่วนใหญ่จึงใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดหรูย่านใจกลางเมือง ส่วนคฤหาสน์นี้ให้ป้าเนียมกับคนรับใช้คอยดูแล
“ป้าเนียม อาหารเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย”
“เรียบร้อยแล้วค่ะคุณหญิง มีแต่ของโปรดของคุณสิงห์ทั้งนั้น”
“ดีมากจ้า งั้นป้าเนียมจัดโต๊ะรอเลยนะ อีกหน่อยหลานชายสุดที่รักก็จะมาถึงแล้ว”
“ได้ค่ะคุณหญิง”
คุณหญิงเดินวนดูรอบๆ เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย นี่ถ้าไม่ติดว่าหลานชายสุดที่รักกลับมา คฤหาสน์หลังนี้คงเก่าคร่ำครึเหมือนคฤหาสน์ร้าง
กึก!
เท้าเรียวหยุดยืนหน้ากรอบรูปขนาดใหญ่ซึ่งแขวนเด่นอยู่บนฝาผนังบ้าน เป็นวันแต่งงานของพี่สาวเธอกับสามี บ้านทั้งหลังจะไม่เงียบเหงาขนาดนี้หากคนในรูปยังมีชีวิตอยู่ และหลานชายของเธอก็คงไม่ต้องจากบ้านอันเป็นที่รักไปเพื่อรักษาแผลใจ และหลานชายของเธอก็คงไม่ต้องหลบไปรักษาแผลใจไกลถึงฮ่องกง
เธอยกมือแตะกรอบรูปบานใหญ่เบาๆ ก่อนที่ดวงตาจะมองลอดผ่านผ้าม่านสีขาว เห็นบ้านหลังเล็กตั้งอยู่หลังคฤหาสน์ มุมปากแดงแจ่มแสยะยิ้ม แล้วก้าวขาเดินไปบ้านหลังนั้นทันที
ปึง!ปึง!ปึง!
คุณหญิงยืนเคาะอยู่นานสองนาน แต่คนที่อยู่ในบ้านก็ไม่มีวี่แววว่าจะเปิดประตูให้ จนเธอรู้สึกโมโห
“คุณหญิงมาหารินหรอคะ” สาวใช้คนหนึ่งเดินผ่านมาพอดี
“ใช่! มันหายหัวไปไหน ทำไมไม่มาช่วยงาน”
“หนูเห็นออกไปตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ น่าจะไปทำงานพาร์ทไทม์”
“เหอะ! ไปทำงานพาร์ทไทม์หรือไปหาผู้ชายก็ไม่รู้”
“หนูคิดว่าน่าจะไปทำงานพาร์ทไทม์นะคะ เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นรินมีแฟนเลย”
“พวกทำตัวใสๆมันร้ายลึกจะตาย ไปๆ! ฉันขี้เกียจคุยละ!”
ก่อนเดินออกไปคุณหญิงหันกลับมามองบ้านหลังเล็กแล้วแสยะยิ้มอีกรอบ
สมน้ำหน้า! พวกโสโครกอย่างมันเหมาะสมกับที่นี่ที่สุดแล้ว!
“แกกับแม่แก..มันก็แค่พวกมารขวางความสุข!!”
กระทั่งช่วงเย็นของวัน รถตู้สีดำสุดหรูเคลื่อนตัวเข้ามาจอดหน้าบ้าน บรรดาสาวใช้รีบวิ่งไปขนข้าวของลงจากรถ ก่อนที่ร่างสูงซึ่งอยู่ในชุดสีดำดูดีจะก้าวขาลงมาจากรถ บรรดาสาวใช้เห็นต่างกรี๊ดกร๊าดกับความหล่อเหลาของลูกชายเจ้าของคฤหาสน์
“หล่ออะไรเบอร์นี้!”
“อย่างกะดาราฮอลลิวูดเลย”
“ฉันนี่ใจละลายหมดแล้ว ไม่คิดว่าคุณสิงห์จะหล่อขนาดนี้”
“ฉันก็เหมือนกัน”
สาวใช้สองคนยืนกรี๊ดกับความหล่อของบุคคลพึ่งมาถึง จนลืมสังเกตุเห็นว่าตอนนี้คุณหญิงยืนอยู่ด้านหลัง
“มายืนซุบซิบอะไร ไปทำงาน!” สาวใช้สองคนวงแตกรีบวิ่งหนีเข้าครัว
“สวัสดีครับคุณน้า” ร่างสูงก้มศีรษะให้ผู้เป็นน้าด้วยความเคารพพร้อมสวมกอดด้วยความคิดถึง คุณหญิงเปรียบเสมือนแม่คนที่สอง เพราะตั้งแต่แม่เสียไป คนเป็นน้าก็รับหน้าที่ดูแลเขาต่อ เอาใจใส่ไม่ต่างจากแม่แท้ๆเลย
“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน โตเป็นหนุ่มขนาดนี้เลยหรอ” ปกติจะเจอกันผ่านโซเชียลมีเดีย แต่วันนี้ยอมรับว่าหลานชายของเธอดูโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น หน้าตาถอดแบบมาจากพ่อทุกกระเบียนนิ้ว
“คุณน้าก็ยังสวยเหมือนเดิมนะครับ”
“แหม๋ ชมเก่งเหลือเกินพ่อหนุ่มคนนี้ ว่าแต่..ไปอยู่เมืองนอกตั้งนาน เมื่อไหร่จะพาแฟนมาเปิดตัวกับน้าซักที"
“ผมเป็นผู้ชายรักสนุก ยังไม่พร้อมผูกมัดกับใครหรอกครับ”
“งั้นน้าคงตายก่อนได้อุ้มหลาน”
“คุณน้าก็ว่าไป ตอนนี้ผมยังสนุกกับการควงสาวเล่น”
“จ้าาา พ่อเสือหนุ่มสุดหล่อ ปะๆ ไปทานข้าวกันเถอะ น้าให้ป้าเนียมทำของโปรดไว้รอแล้ว เดินทางมาเหนื่อยๆหลานจะได้รีบอาบน้ำพักผ่อน”
นับว่าเป็นการทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาครั้งแรกในรอบสิบสองปีที่จากบ้านเกิดไป เขาคิดถึงอาหารไทย โดยเฉพาะฝีมือของป้าเนียม ซึ่งมันอร่อยไม่แพ้ฝีมือแม่ของเขาเลย