12 สิทธิพิเศษ
โครงการคอนโดมิเนียมที่รัญรวีและจริญญามาดูนั้นเป็นโครงการขนาดกลาง มีซึ่งมีอยู่หลายตึกแต่ละตึกก็มีลักษณะห้องที่แตกต่างกันไป
เมื่อหญิงสาวบอกว่าอยากจะดูห้องขนาดเล็กที่มีพื้นที่ใช้สอยไม่มากเพราะอยู่คนเดียวพนักงานขายจึงพาเธอมาดูห้องตัวอย่าง
“เชิญตามสบายนะคะ ถ้าสงสัยตรงไหนสอบถามได้ตลอด ฉันจะรออยู่นอกห้องค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ห้องน่าอยู่ดีนะเนยขนาดไม่กว้างมาก แต่ก็มีเฟอร์นิเจอร์ครบทุกอย่าง”
“เนยก็ชอบนะ ราคาก็พอรับได้”
“แต่ถ้าซื้อที่นี่เวลาไปทำงานก็คงต้องนั่งรถเมล์ไป ถ้าเวรเช้าก็ไม่มีปัญหาแต่ถ้าเวรบ่ายกับดึกล่ะ”
“เราก็กำลังคิดเรื่องนี้ แต่ถ้าให้ซื้อคอนโดด้วยซื้อรถด้วยก็คงผ่อนไม่ไหวหรอก”
“หรือเราจะอยู่ที่เดิมไปก่อนละเนยคนอื่นเขาก็ทำงานพาร์ทไทม์กันนะไม่เห็นมีใครจะย้ายออก”
“ที่เนยอยากย้ายออกไม่ใช่เพราะเรื่องทำงานพาร์ทไทม์อย่างเดียวหรอกนะจุ๋ม”
“แล้วเพราะอะไร” จริญญาไม่เคยรู้เหตุผลของเพื่อนมาก่อนว่าทำไมถึงอยากจะย้ายออก
“เนยไม่มีบ้าน ไม่มีที่อยู่ที่ไหนเลย เนยก็อยากมีพื้นที่ที่เป็นของเนยจริงๆ บ้าง อย่างจุ๋มยังมีบ้านให้กลับแต่เนยมีแค่หอพัก”
“เนยอึดอัดเหรอที่อยู่หอ”
“มันก็ไม่ถึงกับอึดอัดหรอกนะ แต่มันเล็กและแคบบางทีเนยก็อยากแต่งห้องบ้างอยากซื้อของเพิ่มอยากทำกับข้าวกินเองแต่ที่หอมันไม่สะดวก ตอนนี้ยังพอมีเงินมีแรงทำงานก็อยากหาอะไรเป็นของตัวเองบ้าง แต่ถ้าจะไปซื้อบ้านก็คงไม่ไหว เพราะบ้านทั้งหลังต้องมีคนดูแลเราทำงานแบบนี้คอนโดก็น่าจะเหมาะที่สุด” รัญรวีบอกเหตุผลที่ตนเองคิดมาตลอดให้เพื่อนฟัง
“มันก็จริงนะ เราอยู่หอทำอะไรก็ไม่ค่อยสะดวก แต่มันก็ติดเรื่องเดินทางเนยคิดว่ายังล่ะ”
“เนยว่าช่วงแรกอาจจะเรียกรถมารับส่ง หรืออาจจะหาซื้อมอเตอร์ไซค์สักคัน แล้วจุ๋มล่ะจะเอายังไง”
“จุ๋มต้องถามแฟนก่อน”
“บ้านแฟนจุ๋มก็อยู่แถวนี้ไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ บ้านเขาอยู่ใกล้ๆ ถ้าเราแต่งงานกันแม่เขาก็อยากให้เราไปอยู่ที่บ้าน”
“แล้วจะแต่งเมื่อไหร่ล่ะ เนยว่าให้เขารอนานแล้วนะ”
จริญญาคบกับแฟนมาตั้งแต่สมัยเรียนและเธอก็ถูกแฟนหนุ่มขอแต่งงานมาแล้วเมื่อปีที่แล้ว
“น่าจะหลังสงกรานต์ แต่ยังไม่ระบุวันเลย” เพราะคนรักของจริญญาเป็นอาจารย์การแต่งงานในช่วงปิดเทอมจึงสะดวกที่สุด
“ได้ไปดูชุดกับสถานที่ไว้บ้างหรือยังล่ะจุ๋ม”
“อีกตั้งหลายเดือนนะเนย รอให้ระบุวันที่ก่อนค่อยเตรียมก็ได้” จริญญาไม่ได้รีบร้อนและคิดจะจัดแค่งานเล็กๆ
“ก็เนยกลัวจุ๋มเตรียมไม่ทัน อย่าลืมนะว่าเนยจองเป็นเพื่อนเจ้าสาว”
“แน่นอนเนยต้องเป็นเพื่อนเจ้าสาวอยู่แล้ว ขอจองตัวคุณกันต์เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวด้วยแล้วกันนะ”
“แล้วเนยจะลองถามดูนะ” หญิงสาวไม่กล้ารับปากแทนเขาเพราะเกรงใจและยิ่งได้รู้ว่าเขาเป็นใครก็ยิ่งไม่อยากรบกวน
ทั้งสองคนคุยกันระหว่างที่เดินดูห้องไปเรื่อยๆ รัญรวีใช้เวลาดูค่อนข้างนานเพราะอยากได้ห้องในแบบที่ตนเองถูกใจมากที่สุด หญิงสาวยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกห้องแบบไหน ขนาดไหน เพราะอยากจะเปรียบเทียบกับคอนโดมิเนียมอีกแห่งที่อยู่ไกลออกไปอีกนิดซึ่งรุ่นพี่พยาบาลบอกว่าราคาถูกกว่าที่นี่
ออกจากคอนโดมิเนียมก็ตรงไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อหาอาหารเที่ยงทาน สองสาวยังเลือกไม่ได้ว่าจะทานอะไรโทรศัพท์ของรัญรวีก็ดังขึ้นเสียก่อน
“สวัสดีค่ะคุณกันต์”
“ดีใจจังที่เนยรับโทรศัพท์”
“คิดว่าเนยยังนอนอยู่เหรอคะ”
“ครับก็คุณบอกผมว่าอยากพักผ่อน แล้วตอนนี้ทานข้าวกลางวันหรือยัง”
“ยังค่ะ เนยออกมาข้างนอกกับเพื่อนตอนนี้เราอยู่ที่ห้างค่ะกำลังเลือกว่าจะกินอะไรดี”
“ผมอยากไปกินด้วยจัง เนยถามเพื่อนให้หน่อยว่าผมขอไปกินด้วยได้ไหม”
“แป๊บนะคะ ขอถามเพื่อนก่อน” หญิงสาวบอกคนปลายสายก่อนจะหันมากระซิบกับเพื่อนที่เดินอยู่ใกล้
“จุ๋มคุณกันต์เขาจะขอมากินข้าวกับเราด้วยได้ไหม”
“ได้สิ จุ๋มก็อยากเจอเขา”
พอเพื่อนตกลงเธอก็บอกกับพีรกันต์อีกครั้ง
“ได้ค่ะ”
“เนยกับเพื่อนหิวกับหรือยัง รอผมสัก 10 นาทีได้ไหมผมจะรีบไปตอนนี้เลย”
“หิวแล้วค่ะ แต่พอทนได้” หญิงสาวบอกไปตามตรงก็เมื่อเช้าเธอกับจริญญากินแค่แซนด์วิชคนละชิ้น
“เนยกับเพื่อนอยากกินอะไรไปรอที่ร้านได้เลย ผมกินได้ทุกอย่าง”
“ถ้าได้ร้านแล้วเนยจะไลน์ไปบอกนะคะ”
รัญรวีและจริญญาเลือกร้านอาหารญี่ปุ่นเพราะเป็นร้านโปรดของเธอสองคนและพีรกันต์ก็เคยพูดว่าเขาก็ชอบทาน พอเขามาถึงร้านก็ตอนที่อาหารมาเสิร์ฟพอดี
เมื่อแนะนำให้เพื่อนกับแฟนหนุ่มได้รู้จักกันแล้วก็รีบทานอาหารเพราะต่างก็หิวด้วยกันทั้งนั้น พอทานเสร็จจึงได้คุยกันอีกครั้ง จริญญาก็เล่าให้เขาฟังว่าพวกเธอไปดูคอนโดมิเนียมกันมา
“เนยจะย้ายออกจากหอพักเหรอครับ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าหรอกค่ะ ก็แค่คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ควรมีอะไรเป็นของตัวเองบ้าง”
“คอนโดที่ไปดูใช้คอนโดที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลไหมครับ ผมว่าที่นั่นเดินทางสะดวกดีนะครับ”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ คอนโดนี้อยู่ไกลไปอีกหน่อย” รัญรวีไม่กล้าไปดูคอนโดมิเนียมที่ชายหนุ่มพูดถึงเพราะมันราคาแพง
“ทำไมล่ะ ผมว่าใกล้ดีนะ”
“มันแพงค่ะคุณกันต์เงินเดือนพวกเราไม่เยอะขนาดนั้น ราคาเริ่มต้นห้องเล็กสุดเมื่อเทียบกับที่อื่นก็จะได้ห้องที่กว้างกว่า” จริญญาอธิบายเพิ่ม
“ถ้าคุณสองคนอยากได้จริงๆ ผมพอจะช่วยเรื่องส่วนลดได้บ้างครับ”
“คุณกันต์รู้จักเจ้าของเหรอคะ”
“ครับคุณจุ๋ม ผมมีหุ้นที่นั่นนิดหน่อยพอใช้เป็นส่วนลดได้ เดี๋ยวเราไปดูกันเลยไหม บ่ายนี้ผมว่าง”
“เอาไงดีล่ะเนย จุ๋มว่าเราไปดูกันก็ก่อนดีไหมเรื่องซื้อของเอาไว้วันหลัง”
“คุณไม่มีงานจริงๆ ใช่ไหมคะ” รัญรวีหันมาถามแฟนหนุ่มเพราะไม่อยากรบกวนเวลางานของเขา
“ไม่เลยครับเราไปกันเลยไหม”
“ได้ค่ะ คุณต้องเสียเวลาพาเราสองคนไปดูคอนโด เพราะฉะนั้นมือนี้ให้เนยกับเพื่อนจ่ายค่าอาหารนะคะ”
“ครับ ผมขอไปเอารถก่อนคุณรอที่ประตูทางออกเลยนะครับ” พีรกันต์รู้ว่าถึงปฏิเสธไปรัญรวีก็คงไม่ยอมเพราะส่วนใหญ่เวลาไปทานอาหารเธอกับเขาก็มักจะผลัดกันจ่ายด้วยเหตุผลที่เธอบอกว่ากินด้วยกันก็ต้องช่วยกันจ่าย
ระหว่างทางไปลานจอดรถเขาก็โทรศัพท์ไปหาหุ้นส่วนใหญ่เจ้าของโครงการคอนโดมิเนียมที่กำลังจะพาคนรักและเพื่อนไปดู
“เกื้อถ้ากูจะซื้อคอนโดกูจะได้ส่วนลดเท่าไหร่”
“มึงจะถามส่วนลดทำไมอยากได้ห้องไหนก็เอาไปเลย”
“กูไม่ได้จะซื้อเอง พอดีจะพาแฟนไปดู”
“ก็ยกสิทธิ์ของมึงให้เขาไปเลยสิ หุ้นส่วนได้คนละหนึ่งห้องอยู่แล้วนี่”
“กูก็อยากจะยกให้แต่เขาพาเพื่อนมาด้วย ถ้ายกให้คนเดียวกูว่าคนอย่างเนยไม่มีทางเอาแน่ๆ”
“งั้นก็เอาส่วนลดไปคนละ 25 เปอร์เซ็นต์”
“มึงโทรบอกเซลล์ด้วยนะ”
“ได้สิ จะไปดูวันไหน”
“อีกครึ่งชั่วโมงจะเข้าไป”
“งั้นกูวางก่อนจะโทรบอกเซลล์ให้”
พอคุยกับเพื่อนเสร็จแล้วพีรกันต์เขาก็ขับรถมารับสองสาวห้างสรรพสินค้าจากนั้นก็ตรงไปยังคอนโดมิเนียมใกล้โรงพยาบาล