11 ช้าไปด้วยซ้ำ
รัญรวีลงจากรถแล้วก็รีบเดินเข้าหอพักในเวลาเกือบจะสี่ทุ่มหญิงสาวอาบน้ำสระผมและเก็บชุดทำงานที่ร้านซักรีดเอามาแขวนไว้หน้าห้องใส่ตู้จากนั้นก็ตรวจดูว่ามีของใช้อะไรที่จะต้องซื้อไหมเพราะคิดว่าพรุ่งนี้สายๆ จะไปหาซื้อให้ครบก่อนจะทำงานยาวอีกหลายวัน
แต่ยังตรวจไม่ครบพีรกันต์ก็โทรศัพท์มาบอกว่าเขาถึงบ้านแล้ว เธอคุยกับเขาอีกไม่นานเพราะอยากให้เขาได้พักผ่อนเนื่องจากขับรถไปกลับวันนี้รวมแล้วก็หลายชั่วโมง
หญิงสาวก็อยากจะช่วยเขาขับอยู่หรอกแต่มันติดตรงที่เธอนั้นขับรถไม่เป็น เธอเคยคิดที่จะซื้อรถมือสองมาใช้แต่เพราะหออยู่ในโรงพยาบาลก็เลยไม่คิดจะซื้อ รัญรวีจึงเปลี่ยนใจมาเก็บเงินเพื่อซื้อคอนโดมิเนียมห้องเล็กๆ แทนเพราะถ้าจะออกไปทำงานพาร์ทไทม์ที่โรงพยาบาลเอกชนก็รู้สึกว่าตนเองจะเอาเปรียบโรงพยาบาลมากเกินไป
เมื่อวางสายแล้วก็เปิดตู้เย็นดูว่ามีอาหารกึ่งสำเร็จรูปอะไรที่ต้องซื้อมาเพิ่มไหมเพราะที่หอไม่อนุญาตให้ทำอาหาร ในห้องของเธอจึงมีแค่ไมโครเวฟ กระติกน้ำร้อนและหม้อชาบูใบเล็กที่เอาไว้ทำกินเองคนเดียว
เสียงเคาะประตูทำให้เธอรีบปิดตู้เย็นแล้วเดินไปเปิดเพราะดึกแบบนี้คนที่มาเคาะน่าจะมีเรื่องด่วน
“อ้าว จุ๋มวันนี้ไม่ขึ้นเวรบ่ายเหรอ”
“ขายให้น้องแขน่ะ พอดีตอนเย็นมีญาติมาจากต่างจังหวัดเลยไปกินข้าวกับเขา จุ๋มแวะมาหาที่ห้องไม่เจอลุงยามบอกว่ามีหนุ่มมารับคุณกันต์เหรอ”
“ก็เขานั่นแหละ รีบกลับห้องไหมเนยมีอะไรจะเล่าให้ฟัง”
“ไม่รีบพรุ่งนี้ขึ้นบ่าย เรื่องยาวไหมจะได้เอาที่นอนมาที่นี่”
“ก็ยาวอยู่ เอาที่นอนมานอนด้วยกันก็ได้เราไม่ได้นอนคุยกันนานแล้ว”
“รอเดี๋ยวนะขอไปเอาก่อน” จริญญากลับมาที่ห้องของตนเองและกลับมาอีกครั้งในเวลาไม่ถึง 5 นาที จากนั้นก็ช่วยกันจัดที่นอน
รัญรวีเล่าเรื่องที่เธอยอมตกลงเป็นแฟนกับพีรกันต์ให้เพื่อนฟังก่อนเป็นเรื่องแรก
“ดีใจด้วยนะเนย อย่าลืมพาเขามาเจอจุ๋มล่ะ”
“อยากเจอเหรอ”
“ใช่สิ จุ๋มอยากเจอคนที่ทำให้ทำเพื่อนจุ๋มหัวใจเป็นสีชมพูอีกครั้ง”
“ก็เคยเจอแล้วนี่”
“ตอนนั้นยังไม่รู้นี่ว่าเขามาจีบเนย”
“จุ๋มว่ามันเร็วไปไหมที่เรายอมเป็นแฟนเขา”
“ไม่หรอกจุ๋มว่าช้าไปด้วยซ้ำสมัยนี้บางคนเจอกันไม่กี่วันก็เป็นแฟนกันแล้วหรือถ้าเร็วหน่อยยังไม่ทันรู้จักกันก็นอนด้วยกันแล้ว”
“นั่นก็เร็วเกินไปแล้ว”
“จุ๋ทพูดจริงนี่ ไม่อยากจะเม้าท์เลย”
“เม้าท์อะไร”
“ก็ได้ข่าวมาว่าน้องหวานฝ่ายบัญชีนางอกหักแล้วไปเที่ยวผับ ทีนี้นางก็เมามากก็เลยประชดชีวิตด้วยการไปวันไนท์สแตนด์กับผู้ชายที่เพิ่งเจอกัน”
“แล้วได้ป้องกันไหม” รัญรวีถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเธอก็รู้จักรุ่นน้องคนนี้เหมือนกัน
“เรื่องนั้นไม่น่ากังวลเท่าไหร่”
“แล้วกังวลเรื่องอะไร”
“ก็คนที่นางไปวันไนท์ด้วยเขาเป็นพ่อหม้ายลูกติด พอตื่นมาตอนเช้าลูกเขาเข้ามาที่ห้องแล้วคิดว่านางเป็นแม่เรื่องเลยยุ่งกันไปใหญ่ นี่ก็ไม่รู้จะเอายังไงต่อ”
“น่าเห็นใจนะ หวังว่าหวานจะผ่านเรื่องนี้ไปได้”
“เราสองคนก็คงได้แต่เอาใจช่วย ว่าแต่เนยมีเรื่องจะเล่าอีกไม่ใช่เหรอ”
“ก็เรื่องคุณกันต์นั่นแหละ อยากฟังต่อไหม”
“อยากสิ เล่ามาเลย”
“เขาชวนพวกเราไปทำงานกับเขา”
“พวกเราเหรอ แสดงว่าชวนหลายคนเลยแล้วเขาทำงานอะไรที่ไหนล่ะ”
“จุ๋มรู้จักโรงพยาบาลเอกชน XX ไหม”
“รู้จักสิ ก็โรงพยาบาลนี้ที่เพื่อนเราหลายคนไปทำพาร์ทไทม์เงินดีมากเลยนะ คุณกันต์เขาทำงานที่นี่เหรอ”
“ใช่ เขาบอกว่าที่นั่นเป็นโรงพยาบาลของที่บ้านเขา”
“อะไรนะ โรงพยาบาลของที่บ้านหมายถึงเขาเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเหรอ”
“ก็คงอย่างนั้นเนยไม่กล้าถามเยอะ”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวจุ่มสืบเอง”
“นั้นจะโทรไปไหนดึกแล้วนะ” รัญรวีตกใจที่เพื่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาในเวลาเกือบจะตีหนึ่งแบบนี้
“ไม่ได้โทรก็แค่จะถามในไลน์ไปถามในกลุ่มว่ามีใครรู้จักผู้บริหารโรงพยาบาลนั้นบ้าง”
เมื่อกดส่งข้อความไปแล้วสองสาวก็ลุ้นคำตอบและนับว่าโชคดีมากที่เพื่อนในกลุ่มมีรูปถ่ายผังองค์กรของที่นั่น
“นี่ใช่คุณคุณกันต์ของเนยไหม”
“คุณกันต์ไม่ใช่ของเนยสักหน่อยเราเพิ่งคบกัน”
“เขาเป็นประธานเลยนะ”
“คุณกันต์บอกว่าพ่อเพิ่งมอบตำแหน่งให้เมื่อไม่นาน ตอนนี้พ่อเขาก็ยังเป็นที่ปรึกษาอยู่ ส่วนคนนี้น่าจะเป็นพี่ชายเขา” เธอชี้มือไปยังคุณหมอท่านหนึ่งที่มีนามสกุลเดียวกับเขา
“คนนี้จุ๋มเคยได้เคยได้ยินชื่ออยู่เขาเคยส่งคนไข้มาที่นี่อยู่หลายครั้ง”
“เนยก็พอจะคุ้นชื่ออยู่”
“แล้วเนยจะเอายังไงต่อเรื่องไปทำงานที่นั่น”
“เนยรับปากว่าจะไปช่วยงานเขาก่อนที่จะรู้ว่าเขาคือเจ้าของโรงพยาบาล แต่คงยังไม่ใช่เร็วๆ นี้หรอก ถ้าจะออกไปทำงานพาร์ทไทม์ที่อื่นเนยว่าจะลองหาที่พักใหม่”
“คอนโดที่จุ๋มบอกไง พรุ่งนี้เราไปดูกันไหม”
“ได้สิ เนยเวรบ่ายจุ๋มก็เวรบ่ายเราไปดูคอนโดแล้วไปซื้อของเข้าหอกันดีไหม”
“ดีเหมือนกันงั้นรีบนอนกันดีกว่าพรุ่งนี้จะได้ไปกันแต่เช้า”
รัญรวีเอื้อมปิดไฟที่หัวเตียงแต่ยังไม่ทันจะหลับจริญญาก็ลุกขึ้นมานั่งอีกครั้ง
“เป็นอะไร”
“จุ๋มอยากรู้เรื่องของคุณกันต์อีกนิด”
“เนยก็เล่าไปหมดแล้วนะ”
“จุ๋มไม่ได้หมายถึงเรื่องที่เนยรู้มา แต่อยากรู้ว่าคุณกันต์ตอนที่อยู่โรงพยาบาลเขาเป็นยังไงบ้าง” จริญญาไลน์ไปถามเพื่อนที่ตอนนี้กำลังขึ้นเวรอยู่ที่โรงพยาบาลของพีรกันต์ รอไม่นานเพื่อนก็ตอบกลับเพราะเวลาดึกแบบนี้คนไข้จะหลับหมดแล้ว
‘คุณกันต์เป็นขวัญใจของสาวๆ ที่นี่ ทั้งหมอทั้งพยาบาลต่างก็ชอบเขาทั้งนั้น’
‘แล้วเขาชอบใครหรือเปล่า’
‘เท่าที่รู้คือไม่ คุณกันต์อัธยาศัยดี วางตัวดีแต่ไม่เคยยุ่งกับพนักงานของตัวเองเลย จุ๋มถามทำไมหรือสนใจคุณกันต์’
‘พอดีว่าจุ๋มเคยเจอคุณกันต์เห็นว่าเขาหล่อดีก็เลยอยากจะรู้ว่ายังโสดอยู่หรือเปล่า’
‘เรื่องโสดตอนนี้ก็น่าจะโสดนะ แต่เรื่องเจ้าชู้ก็ขึ้นชื่อ’
‘ทำไมเหรอ’
‘เราได้ข่าวว่าเขาเจ้าชู้มาก คบผู้หญิงแต่ละคนก็ไม่เกินสามเดือน’
‘ขอบใจนะสำหรับข้อมูล’
‘เมื่อไหร่จุ๋มจะมาทำงานที่นี่บ้างล่ะ เงินดีนะ ตอนนี้กำลังเปิดรับสมัครพยาบาลอีกเยอะเลยนะ ชวนเนยกับคนอื่นๆ มาด้วย’
‘เราก็กำลังจะไปสมัครอยู่แต่ยังไม่ว่าง ว่าแต่เขามีหมดเขตไหม’
‘ไม่หรอกมาสมัครได้เรื่อยๆ เลย อย่าลืมชวนเพื่อนมาเยอะๆ นะ’
“คุณกันต์เขาเคยบอกเนยไหมว่าเขาเจ้าชู้”
“บอก แต่ไม่ได้บอกว่าคบแต่ละคนไม่เกินสามเดือน”
“จุ๋มขอโทษนะที่ทำให้เนยไม่สบายใจ”
“ไม่เป็นไรหรอก เราตกลงคบกับเขาไปแล้วอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ถ้าเขาจะเลิกคุยก่อนสามเดือนมันก็เหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว”
“เนยยังไม่รักเขาใช่ไหม ถอนตัวตอนนี้ยังทันนะ”
“ยังไม่รักหรอกแค่รู้สึกดี เขาอยู่ด้วยแล้วสบายใจ เวลาเนยบ่นเรื่องงานหรือเรื่องคนไข้เขาก็เป็นผู้รับฟังที่ดี”
“พูดแบบนี้แสดงว่าจะคบต่อ”
“ก็อยากจะลอง เราอยากให้โอกาสเขา”
“จุ๋มเชื่อว่าเนยมองคนออก บางเรื่องที่คนอื่นพูดถึงเขาอาจไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้ จุ๋มมองว่าเขาจริงใจกับเนยนะ ถ้าคนเจ้าชู้จริงๆ เขาไม่เสียเวลาคบเป็นเพื่อนนานถึงสองเดือนหรอก”
“เนยก็หวังอย่างนั้น”
“นอนกันดีกว่านะ พรุ่งนี้เรามีอะไรต้องทำกันอีกเยอะ”
รัญรวีเอื้อมปิดไฟตรงหัวเตียงอีกครั้งแต่กว่าจะนอนหลับเวลาก็ผ่านไปเกือบชั่วโมง