10 ไม่น่าหลงกลคุณเลย
“คุณกันต์จะให้เนยช่วยยังไงคะ”
“ผมอยากให้คุณไปทำงานที่โรงพยาบาลของผม”
“ทำงานที่โรงพยาบาลของคุณ”
“ใช่ครับ โรงพยาบาล XX คือกิจการของครอบครัวที่ผมดูแลอยู่”
“คุณต้องล้อเนยเล่นแน่ๆ ใช่ไหมคะ”
“เปล่านะผมพูดจริงนะเนย ผมขอโทษที่ไม่บอกตั้งแต่แรกว่าครอบครัวของผมทำธุรกิจอะไร”
“เพราะกลัวว่าเนยจะหวังผลประโยชน์จากคุณใช่ไหมคะ” หญิงสาวมองหน้าเขาอย่างผิดหวัง
“เปล่าเลยนะ ผมไม่เคยคิดแบบนั้น”
“แล้วทำไมถึงไม่ยอมบอกตั้งแต่แรกล่ะคะ”
“ผมกลัวว่าพอคุณรู้แล้วคุณจะไม่คุยกับผมเหมือนเดิม”
“ทำไมต้องไม่คุยด้วยล่ะคะ”
“บางคนมองว่าผมต่างจากเขา”
“ต่างยังคะ”
“ก็เรื่องฐานะและสังคม ถ้าคุณรู้คุณจะยอมรับผมเป็นแฟนไหมล่ะครับ บางที่คุณอาจไม่ให้ผมเป็นเพื่อนเลย”
“คุณมองโลกในแง่ร้ายเกินไปหรือเปล่าคะ”
“ไม่หรอกครับ”
“ตอนผมเรียนหมอพอเพื่อนรู้ว่าผมเป็นลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลพวกเขาก็เปลี่ยนไป พวกเขาเกรงใจผมมากขึ้น ความสนิทก็หายไป”
“อะไรนะคะ คุณเรียนหมอ เนยไม่รู้ว่าจะตกใจเรื่องไหนก่อนดีระหว่างครอบครัวคุณเป็นเจ้าของโรงพยาบาลกับเรื่องที่คุณเรียนหมอ”
“ผมรู้ว่าเรื่องที่บอกมันน่าตกใจแต่เนยจะไม่โกรธใช่ไหม”
“มันก็น่าโกรธนะคะ คุณหลอกให้เนยหลงกลยอมรับปากไปช่วยงาน”
“ผมไม่คิดจะหลอกอะไรคุณเลยนะ ผมจะบอกคุณหลายครั้งแล้วแต่ทุกครั้งที่เจอกันเราก็คุยกันเรื่องอื่นตลอด”
“แล้วทำไมถึงบอกวันนี้ล่ะคะ ที่บอกเพราะเนยตกลงเป็นแฟนคุณหรือเปล่า”
“ผมตั้งใจจะบอกเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อวานตอนที่ไลน์ไปถามว่าคุณว่างช่วงเย็นไหม แต่พอเราจะมาเที่ยวด้วยกันผมเลยตัดสินใจพูดเรื่องของเราก่อน”
“ทำไมไม่บอกก่อนว่าเป็นใครแล้วค่อยขอเป็นแฟนล่ะคะ”
“ผมกลัวเนยจะปฏิเสธ”
“ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ชอบผู้ชายรวยๆ อยู่แล้วนะคะ ถ้าเนยรู้ว่าบ้านคุณรวยเนยอาจจะรีบเป็นแฟนคุณก็ได้นะคะ”
“นั่นไม่ใช่นิสัยของคุณ”
“คุณรู้ได้ยังไง เนยก็เหมือนผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ชอบคนรวย”
“ระยะเวลาที่ผมรู้จักคุณมันก็นานพอที่ให้ผมรู้จักนิสัยของคุณนะเนย คุณไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผมเคยรู้จัก เรื่องที่คุณคุยกับผมไม่เคยมีเรื่องเงิน เรื่องเที่ยวหรือของฟุ่มเฟือยอะไรเลย คุณคุยแค่เรื่องงานและคนไข้เท่านั้น คุณไม่เคยถามว่าที่บ้านผมทำธุรกิจอะไร คุณยินดีช่วยผมทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมอยากให้คุณช่วยทำอะไร”
“แล้วคุณอยากให้เนยไปช่วยจริงๆ เหรอคะ”
“จริงสิ ตอนนี้โรงพยาบาลกำลังต้องการทั้งหมอและพยาบาลมากๆ จะฟูลไทม์หรือพาร์ทไทม์เราก็รับหมด ขนาดจบใหม่เรายังรับเลยนะ ขอแค่มีใบประกอบวิชาชีพ เนยตกลงแล้วนะว่าจะไปช่วย”
“ตกลงว่าจะช่วยค่ะ แต่คงไม่ใช่เร็วๆ นี้หรอกค่ะ ตารางเวรเดือนหน้าออกมาแล้ว ถ้าจะไปสมัครงานก็คงรอเป็นเดือนถัดไป”
“แค่รู้ว่าคุณจะไปสมัครผมก็ดีใจแล้ว ผมจะบอกฝ่ายบุคคลไว้นะ”
“เนยอยากไปสมัครเองมากกว่าค่ะ อยากให้เขารับเพราะความสามารถมากกว่าค่ะ หรือคุณคิดว่าเขาจะไม่รับ”
“ผมไม่ได้คิดแบบนั้น ผมแค่อยากมั่นใจว่าคุณจะไม่หลอกให้ผมดีใจเก้อ”
“ไม่หรอกค่ะ เนยเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น”
“ผมไม่ผิดหวังเลยที่ได้รู้จักคุณ”
“แต่เนยยังไม่รู้จักคุณดีเท่าไหร่ อยากเล่าเรื่องของตัวเองให้เนยฟังบ้างไหมคะ”
“ได้สิ เราหาที่นั่งกันก่อนได้ไหมล่ะเรื่องของผมมันยาวมาก”
“เล่าตอนนั่งรถกลับก็ได้ค่ะ”
“จะกลับแล้วเหรอ”
“นี่มันก็เกือบจะทุ่มหนึ่งแล้วนะคะ กว่าจะถึงก็น่าจะดึก”
“ผมลืมดูเวลาไปเลย พรุ่งนี้คุณทำงานไหมครับ”
“พรุ่งนี้เนยเข้าเวรบ่ายต่อดึกค่ะ” หญิงสาวพูดขณะเดินตามเขามาที่รถ
“หมายถึงลงเวรตอนเช้าเหรอครับ” พีรกันต์ถามหลังจากขึ้นรถและขับออกมาจากชายหาดชะอำ
“ค่ะ”
“เวรคุณหนักน่าดูเลยนะครับ”
“ค่ะ พยาบาลในแผนกลาพักร้อนค่ะ คนที่เหลือก็เลยทำงานกันหนักขึ้น”
“แล้วคุณพักร้อนตอนไหน”
“ยังไม่ได้วางแผนเลยค่ะ”
“ถ้าวางแผนจะหยุดหรือไปเที่ยวไหนอย่าลืมเอาผมเข้าไปอยู่ในแผนของคุณด้วยนะครับ”
“ถ้าคุณว่างตรงกับเนยก็ไม่น่ามีปัญหาค่ะ”
“ผมหาเวลาว่างได้ตลอดแค่เนยบอก”
“งานบริหารไม่หนักเหรอคะ ถึงได้มีเวลามาเจอเนยบ่อยๆ”
“หนักครับ บางครั้งผมก็ออกมาเจอเนยแล้วกลับไปทำงานต่อ”
“คุณคงเหนื่อยแย่”
“ไม่หรอกครับ การได้ออกมาเจอเนยได้มากินข้าวด้วยกันนั่งคุยกันมันทำให้ผมหายเหนื่อย เหมือนมาชาร์ตแบต”
“ไม่นึกเลยว่าคนช่างพูดอย่างคุณจะเป็นถึงผู้บริหาร”
“แล้วผู้บริหารต้องเป็นแบบไหมล่ะ”
“ก็มาดนิ่งๆ ดูเป็นผู้ใหญ่แต่คุณไม่ใช่แบบนั้นเลย เราเจอกันครั้งแรกก็เป็นสถานบันเทิงและคุณยังมาทำเจ้าชู้อีก”
“ผมเป็นหุ้นส่วนที่นั่นก็เลยไปนั่งดื่มและนัดเจอเพื่อนประจำ”
“คุณทำให้เนยประหลาดใจอีกแล้วนะคะ”
“มีอีกหลายอย่างที่คุณยังไม่รู้เกี่ยวกับตัวผม”
พีรกันต์เล่าเรื่องของตนเองให้กับรัญรวีฟังตั้งแต่เรียนแพทย์จนถึงการไปเรียนต่อที่อเมริกา เขาอยากให้เธอรู้จักเขาทุกแง่มุม
“เสียดายไหมคะที่ไม่ได้ทำงานเป็นหมอ”
“ก็มีเสียดายบ้าง ถึงผมจะไม่เป็นหมอแล้วแต่งานที่ทำก็ยังเกี่ยวข้องกันอยู่ มันก็ดีนะครับเพราะตอนเรียนผมรู้จักคนเยอะ ตอนนี้ก็เลยชวนให้มาทำงานด้วยกัน บางคนก็มาทำพาร์ทไทม์แต่บางคนก็ยอมลาออกมาทำงานเต็มเวลา”
“ค่าจ้างคงแพงมาก”
“แพงก็ต้องยอมแลกครับเพราะผู้ป่วยเราเยอะขึ้นทุกวัน เราก็เลยต้องจ้างทั้งหมอและพยาบาลเพิ่ม”
“รุ่นพี่พยาบาลที่รู้จักเขาก็ไปรับขึ้นเวรที่นั่นอยู่หลายคนค่ะ บางครั้งก็รับเฝ้าไข้พิเศษ”
“ใช่ครับ เราต้องหารพยาบาลเฝ้าไข้พิเศษมากเพราะผู้ป่วยของเราทุกคนต้องมีญาติมาเฝ้าใคร ถ้าญาติใครไม่สะดวกก็ต้องจ้างพยาบาลหรือไม่ก็ผู้ช่วยพยาบาล แค่ส่วนใหญ่พวกเขาก็จะเลือกจ้างพยาบาลมากกว่า”
“แต่ก็ต้องแลกด้วยจำนวนเงินที่เยอะกว่าใช่ไหมคะ”
“ครับเพราะความเป็นเอกชนทุกอย่างก็ต้องแลกมาด้วยเงิน”
“แต่คนที่ใช้บริการก็คงเป็นคนที่มีฐานะระดับหนึ่ง”
“ใช่ครับบางคนก็ยินดีจะจ่ายเพราะเห็นถึงความสะดวกสบาย”
พีรกันต์คุยกับหญิงสาวมาตลอดทางเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่คุยเรื่องงานกับเขาได้นานเป็นชั่วโมง ยิ่งได้รู้จักก็ยิ่งได้เห็นถึงความแตกต่างของรัญรวีกับผู้หญิงที่เคยคบมา เธอดูมีความคิดเป็นผู้ใหญ่มีความรับผิดชอบและขยันทำงานมากๆ
“เราจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ครับเนย” เขาถามเมื่อจอดรถที่หน้าหอพัก
“อีกหลายวันกว่าจะได้หยุดค่ะ”
“เย็นวันไหนคุณว่างบอกผมนะ จะได้มากินข้าวด้วยกัน”
“ดูคุณจะชอบกินข้าวร้านป้าแอ๋วนะคะ”
“ก็สมัยเรียนผมกินร้านนี้ประจำ”
“ถึงว่าวันนั้นคุณถึงหาร้านเจอ”
“คุณคงคิดว่าผมจะหาไม่เจอใช่ไหมล่ะ ถึงได้นัดร้านป้าแอ๋ว”
“เปล่านะคะก็แค่อยากพาคุณมากินร้านที่กินประจำ”
“ผมไม่สนใจหรอกว่าตอนนั้นคุณคิดอะไร เพราะตอนนี้ผมกับคุณเป็นแฟนกันแล้ว ขอตารางเวรได้ไหม”
“จะขอไปทำไม”
“ผมจะได้รู้ว่าเวลาไหนโทรหาคุณได้บ้าง แต่สัญญาว่าจะไม่รบกวนเวลางานของคุณเลย”
“ได้ค่ะเดี๋ยวส่งให้ทางไลน์นะคะ”
“คืนนี้ขอโทรหาได้ไหม คุณจะนอนดึกหรือเปล่า”
“ได้ค่ะ ขับรถดีนะคะ ขอบคุณมากที่พาไปหาของอร่อยกิน”
“ยินดีครับคุณแฟน ผมไปก่อนนะ”