บท
ตั้งค่า

Chapter 2

“อืม ฉันว่าไม่ใช่แค่เหมือน แต่ใช่เลย” เวทกับวามพยักหน้าให้กัน หญิงสาวที่วิ่งเข้ามาหลบในรถนั่งแหมะเบาะหลังข้างเจ้านาย คือคนเดียวกับผู้หญิงบนป้ายโฆษณษขนาดใหญ่บนทางด่วน ตัวจริงสวยกว่าในโฆษณาแผ่นนั้นซะอีก

วามยื่นเงินจ่ายค่าผ่านทางมองกระจกหลัง และส่งสายตาวาววามให้เวทที่นั่งข้าง เห็นทีเจ้านายจะได้ตุ๊กตาตัวสวยที่สุดมาไว้ครอบครองอีกตัวหนึ่งซะแล้ว เพราะดูท่าทีแล้วเจ้านายสุดหล่อ มีความพอใจกระต่ายขาวตัวนี้น่าดู

“เธอหมดโอกาสแล้วล่ะ” เขาปล่อยข้อมือหญิงสาว เสียดายอยู่ลึกๆ

“งั้นลงทางด่วนฉันขอลงและขอบคุณที่ให้โดยสารมาด้วย”

“ไม่ต้องขอบคุณ” เปลี่ยนจากขอบคุณไปดินเนอร์ด้วยกันสักมือ พร้อมเชื่อมความสัมพันธ์ดีๆ บนเตียงกันก็ไม่เลว

“ไม่ให้ขอบคุณ คุณจให้ฉันทำยังไง ฉันขึ้นรถคุณมา ก็บอกแล้วไง ไม่ได้ตั้งใจ ฉันจำเป็น” เวลาอยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้า พยายามทำอารมณ์ให้สงบนิ่งมากที่สุด ไม่อยากโดนทำร้าย หญิงสาวรู้สถานการณ์ดี แม้ตัวเองต่อให้ป้าสมคิด ชอบด่าว่าเธอหัวขี้เลื่อยบ่อยๆ เวลาแบบนี้เธอก็มีสมองอยู่

“เธอคงเป็นพวกหัวขโมย ฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่”

“มะ....ไม่ใช่นะคะ ฉันไม่ใช่ขโมย บ้าหรือไง ยัดเยียดข้อหาให้ ฉันก็แค่...” หญิงสาวโวยวาย แต่เมื่อมองราอบกายก็พบว่าตัวเองอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวผู้ชายตัวใหญ่ๆ ท่าทางเป็นมาเฟียถึงสามคน

“แค่อะไรตอบมา ไม่งั้นฉันคงต้องแสดงความเสียใจ ไม่สามารถปล่อยเธอได้” สีหน้าเขานิ่งไม่ได้เดือดร้อนไปกับท่าทางอยากลงรถของเธอแม้แต่น้อย

“เอ่อ....ฉันแค่หนีคนมาน่ะ ไม่ได้ก่อคดีอะไรทั้งนั้น” ตอบได้แค่นี้แหละ คนคนนี้บ้าหรือไงไม่รู้จักเธอ ไปมุดอยู่ในน้ำแข็งขั้วโลกเหนือหรือยังไงกัน

‘รู้สึกเธอจะขโมยหัวใจฉันนะสาวน้อย’ ชายหนุ่มมาดมาเฟียคิดในใจ นี่เรื่องบ้าบออะไรทำให้เขาคิดกับเธอมากกว่าคนเพิ่งเห็นหน้ากัน เขาไม่เคยฟุ้งซ่านกับผู้หญิง มีแต่ผู้หญิงสิฟุ้งซ่านกับเขา

“คุณจะพาฉันไปไหน”

“ไปธุระกับฉัน พอดีฉันมีธุระด่วนที่ต้องทำ และจะไม่มีวันปล่อยคนที่ฉันยังไม่รู้ประวัติว่าดีหรือร้ายได้ ฉะนั้นเธอต้องไปกับฉัน เข้าใจ๊” เขาพูดไม่สนใจความรู้สึกอีกฝ่าย

‘อ๊ายยย อีตาบ้า’ หญิงสาวคิดในใจพลางหาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์ไม่ค่อยดีตอนนี้

“ไม่ต้องต่อว่าฉัน” สีหน้าเธอสิคงด่าเขาในใจ

“ปะ....เปล่าซะหน่อย” เธอปฏิเสธทั้งต่อว่าเขาจริงๆ

ชายหนุ่มพบว่าเวลามองเธอ เขาค่อนข้างตื่นเต้น เธอช่างเป็นผู้หญิงที่มีดวงตาเป็นหน้าต่าง แค่เธอคิดเขาก็อ่านออก

‘อีตาบ้าเป็นผีหรือไง รู้ความคิดของเรา’ ชิดตะวันแอบคิดก้มหน้าไม่กล้าสบตาคนดุดัน

“ฉันมีงานต้องทำ ตอนนี้ก็มีคนรอฉันอยู่ ได้โปรดให้ฉันลงเถอะ พอลงทางด่วนค่อยให้ฉันลงก็ได้” หญิงสาวอธิบาย ถ้าไม่ต้องหนีพวกสอดรู้สอดเห็น ชอบขุดคุ้ย เธอคงไปถึงงานอีเว้นท์ที่ตัวเองรับไว้ตั้งนานแล้ว แต่พอก้าวออกจากงานหนึ่ง พวกนักข่าวก็ล้อมหน้าล้อมหลัง เธอไม่อยากตอบคำถามซ้ำๆ ซากๆ คนพวกนั้นจึคงพยายามเลี่ยง

“คงเป็นงานขโมยของ” โดยเฉพาะหัวใจผู้ชาย

“เอ๊ะ ก็บอกแล้วว่าฉันไม่ใช่ขโมย พูดจาไม่รู้เรื่อง ขโมยอะไรจะหน้าตาดีสวยขนาดนี้” ใช่ธุระของเธอไหต้องมาบอกว่า เธอทำงานอะไร จะไปไหน

“เธอไม่บอกทำงานอะไร ฉันไม่จำเป็นต้องทำตามที่เธอขอ”

“บ้าที่สุด คนบ้า” ตั้งแต่เกิดมาจนเป็นดาราดังก็ไม่เคยเจอใครที่กล้าขัดใจเธอร้ายกาจเท่าผู้ชายหน้าหล่อ แต่สันดานแย่อย่างคนคนนี้

“ฉันว่าส่งตัวเธอให้ตำรวจน่าจะดีนะ ว่าไงวาม เวท”

“เอ่อ ผมว่าเราน่าจะปล่อยเธอไปนะครับ” ทั้งเวทและวามเห็นตรงกัน

“พวกนาย...” คนเป็นเจ้านายกัดฟังกรอดๆ ไม่ได้ดั่งใจเลยลูกน้องพวกนี้

“ปล่อยเธอไปเถอะครับเป็นภาระเปล่าๆ เรามีงานสำคัญนะครับเจ้านาย” วามเชื่อว่าตัวเองพูดถูก ถ้าชอบเธอ เดี๋ยวเจ้านายก็ได้เจอเธออีก

“งั้นหรือ” ชายหนุ่มเลิกคิ้วเป็นเชิงถามลูกน้อง “ก่อนฉันจะปล่อยตัวเธอ เธอชื่ออะไร” ก่อนปล่อยก็ต้องรู้จักชื่อกันก่อนสิ ปล่อยไปเปล่าๆ ได้อย่างไร

“ฉันชื่อชิดตะวัน” ดาราสาวเชิดหน้าบอกชื่อตัวเอง เขาจะได้รู้จักคนอย่างเธอ น้อยคนในโลกนี้ไม่รู้จักเธอ ไฟฟ้าบ้านเขายังเข้าไม่ถึงหรืออย่างไร ถึงไม่มีรู้จักคนดัง

“ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันกริช อเล็คเซีย”

“กริช อเล็คเซีย ฉันต้องดีใจที่ได้รู้จักคุณด้วยมั้ย รบกวนให้ฉันลงด้วยค่ะ” หญิงสาวประชด ต่อให้รู้จักชื่อเขา เธอกลับไม่ได้ยินดีสักนิด

“อย่าเสียมารยาทชิดตะวัน” เขาเรียกชื่อเธอ อืมชื่อเธอไพเราะสมตัว ตะวันคงจะร้อนแรงน่าดู ปากกล้า กล้าประชดเขาซะด้วย สุดท้ายเข้าต้องปล่อยเธอลง ต่อให้เสียดาย แต่ด้วยคนไม่เคยเอาใจใคร อยากไปก็ไปไม่เห็นต้องรั้งไว้

“ขัดใจฉันชะมัดวาม” ชายหนุ่มมาดขรึมสบถเบาๆ

“ครับปล่อยไปเถอะ” วามหันไปหาเวท

“จอด” เขาสั่งเสียงเข้ม รู้สึกไม่พอใจกับคำตัดสินจากปากลูกนั้องปกติดจะเห็นดีกับสิ่งที่เขาทำ แต่นี่ทำไมสองคนทั้งขัดแย้ง

วามจอดรถขอบทาง หญิงสาวทำท่าจะเปิดประตู แต่กลับถูกดึงข้อมือรั้งหญิงสาวประชิดตัว

“คะ...” เมื่อถูกรั้งแบบนั้นหญิงสาว เขากลับคำพูดเปลี่ยนใจไม่ให้เธอลงหรือไง ทุเรศ หน้าตาก็ดี แต่สับปลับ

ไม่ทันที่ชิดตะวันจะได้พูดออกมา ริมฝีปากโดนฉกประกบปิด หญิงสาวตกใจเบิกตาโตยิ่งกว่าไข่ห่าน ทำอะไรไม่ถูกได้แต่อ่อนระทวยกับนิ้วมือแกร่งที่แทรกเข้ามาในกลุ่มผมยาวสลวยของเธอตรงท้ายทอย ท่ามกลางสายตาของอีกสองหนุ่ม ซึ่งไม่คิดว่าเจ้านายมาดนิ่ง จะแสดงหนังสดให้พวกเขาดู

สมใจ กริช จึงยอมถอนริมฝีปากร้ายกาจของตัวเองห่างจากปากหวานของเธอ ใช้ความไวยัดนามบัตรใบเล็กใสกระเป๋าเสื้อแจ๊กเก็ตของเธอ

“เชิญ” มือหนาที่เคยดึงเธอเข้ามาจูบผลักร่างเธอออก หญิงสาวเกือบหมดสติไปกับจูบร้อนแรงนั้น ขาของเธอแทบทรงตัวไม่อยู่ ก้าวออกมายืนนอกตัวรถด้วยอาการเซ ชิดตะวันทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนนิ่งอยู่ข้างทาง มองรถเคลื่อนจากไป สายตาเหม่อลอย

“เจ้านาย !” ทั้งวามและเวทถามออกมาพร้อมๆ กัน ยังไม่รู้จักเธอแต่ไปดึงเธอมาจูบนี่นะ เจ้านาย...กลายเป็นผู้ชายใจร้อนตั้งแต่เมื่อไหร่ “ทำอะไรครับ” วามเป็นหน่วยกล้าตายถามเจ้านาย

“จูบสิถามได้” กริช ตอบนิ่งๆ

“รู้ว่าจูบ เจ้านายดูนั่นหน่อยไหมครับ” วามชี้ให้เจ้านายดูป้ายโฆษณาแบบไฟส่องสว่างที่อยู่บนป้ายรถเมย์

“ให้ฉันดูป้ายโฆษณาทำไม”

“ดูเถอะครับ” เวทสนับสนุนให้เจ้านายดูอย่างที่วามชี้ให้ดู

กริช มองไปยังป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ภาพสาวสวยโพสท่วงท่าน่ารัก กับโฆษณาโทรศัพท์มือถือยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่ง ใบหน้าของเธอไม่ต่างอะไรหญิงสาวที่เขาเพิ่งจูบเธอหมาดๆ

“ชิดตะวัน !” เขาอุทาน

“ใช่ครับ” วามกล่าว

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นดารา เรียกได้ว่าระดับซุปเปอร์สตาร์เลยล่ะครับ เชื่อว่าการที่เธอวิ่งมาหลบในรถของเรา คงเพราะหนีพวกนักข่าว หรือไม่ก็พวกปาปารัสซี่นั่นแหละครับ” เวทอธิบายเขาเชื่อว่าเป็นแบบนั้น “แต่เมื่อกี้เจ้านาย...จูบเธอเข้าแล้ว”

“จูบ...แล้วไง” กริชไม่เดือดร้อน ยกมือลูบริมฝีปากตัวเองที่ยังคงหลงเหลือความวาบหวาม แววตากระหยิ่มยิ้มย่องกับสิ่งที่ได้ฝากไว้กับหญิงสาว มิน่าล่ะทำไมเธอสวยขนาดนี้ สวยขนาดทำให้เขาเคลิ้มเอาง่ายๆ ตั้งแต่ได้สบตาครั้งแรก ผิวกายหอมอ่อนๆ ชวนให้ความต้องการลึกล้นพลุกพล่านจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แม้พยายามมากแล้วก็ตาม

“ถ้าจะเจอเธออีก คงไม่ใช่เรื่องยาก” คนดังอย่างเธอต้องออกสื่อทุกเวลาอยู่แล้ว

“เจ้านายชอบเธอหรือครับ” วามถามตรงๆ

“เจ้านายอย่าลืมคุณกลดนะครับ” จะรักใครก็ต้องระวังอีกคนไว้ให้ดี

“ฉันรู้” กริชมีแววคิดหนัก ยอมฟังคำพูดลูกน้อง เขาหนักใจเรื่องนี้เสมอ ต่อให้รู้สึกพอใจหญิงสาวคนนั้น หรือคนอื่นสักคน ที่ผ่านมาเขาแค่พอใจ ไม่เคยรักตามสันดานดิบผู้ชาย ทว่าความรู้สึกกับชิดตะวันแปลกๆ มากกว่าคำว่าชอบ เขาไม่ชอบจูบผู้หยิงเรี่ยราด แต่กับเธอพอเห็นว่าเธอจะจากไป เขากลับปล่อยให้เธอปล่อยไปเฉยๆ ไม่ได้

“ฉันเชื่อว่าจะไม่รักเธอ ฉันคงคิดกับเธอแบบผู้ชายแค่นั้นแหละ คงไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นระหว่างฉันกับน้องก็ได้”

“ผมขออย่าให้เจ้านายรักเธอ” เพราะเธอสวยซะขนาดนั้น ปกติดวาม หรือเวท เท่าที่ตามคุ้มครองรับใช้ ไม่เคยเห็นกริช หนุ่มฮอตร้อนแรงขโมยจูบผู้หญิง นอกจากผู้หญิงจะเป็นฝ่ายอ่อย เสนอตัวให้เจ้านายทั้งตัว

ครอบครัวอเล็คเซีย จมอยู่กับเรื่องร้ายอาถรรพ์ความรัก หลายต่อหลายรุ่นต้องพบกับโศกนาฏกรรม ไม่เว้นแม้แต่รุ่นของกริช กลด น้องคนเล็กคือก้อง สามหนุ่มรุ่นล่าสุดของตระกูล ก็ยังต้องเผชิญกับอาถรรพ์ความรัก

เมื่อห้าปีก่อน กริช พบรักกับผู้หญิงสวยคนหนึ่ง จนกระทั่งก่อเกิดความรักจนสุขงอม กริช ยินดีสละความโสดเพื่อไลลา กริชตัดสินใจพาเธอไปพบกับครอบครัว นั่นเองคำสาปจึงแสดงผล กปรากฏเรื่องราวโศกนาฏกรรมความรักยากมีใครปฏิเสธ แม้กริชพยายามจะหลบซ่อนคนรักไว้แค่ไหน กฎของตระกูลคือต้องพาเจ้าสาวมาให้ครอบครัวรู้จัก จึงจะเข้าสู่ประตูวิวาห์ได้ จะพาหนีไปเลยไม่ได้เด็ดขาด ทั้งกริช กลด รวมไปถึงก้องน้องเล็ก ฉับพลันรู้สึกหลงรักไลลาพร้อมๆ กัน กริชก็รักหญิงสาวไม่แพ้น้องชายทั้งสอง

กาลเวลาผ่านไป ยิ่งรักมากขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว ถึงเวลาที่หญิงสาวต้องตัดสินใจเลือก ระหว่างสามพี่น้อง สุดท้ายไลลาเลือกก้อง น้องชายคนเล็ก แต่นั่นกลับไม่ทำให้ ทั้งกลด และกริช เสียใจในการตัดสินใจของหญิงสาว กลับเต็มใจยกเธอให้น้องชายแม้จะรักเธอมากแค่ไหน ทั้งสามหนุ่มไม่เคยได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตพวกเขา คนเสียสละกลับทำใจได้เมื่อถึงเวลาที่หญิงสาวเอ่ยวาจาตัดสินใจ แถมยังร่วมอวยพรให้หญิงสาวและน้องชาย สมหวังในความรัก

เหตุการณ์นั้นผ่านไป กริช กลายเป็นคนไร้หัวใจมองความรักเป็นแค่เรื่องเกินเอื้อม เขาชอบผู้หยิงเพียงแต่นอนด้วยกันทางกาย ไม่มีความผูกมัดทางจิดตใจ ไม่ว่าใครจะกล่าวหากริช เป็นเพลย์บอยไร้หัวใจ เขาไม่สน หัวใจเขาขาดความรักมาเนิ่นนาน เชื่อว่าถ้ากลดไม่แต่งงาน เขาเองก็คงจะหารักแท้ไม่ได้เช่นกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel