เพลิงรักไฟปรารถนา

บนท้องถนนเมืองหลวงของประเทศไทย เสียงเครื่องยนต์ต่างครางกระหึ่ม สลับกับเสียงแตรรถยนต์หลากชนิด รถคันหลังพยายามกดเร่งรถคันหน้าให้รีบเร่งเครื่อง แต่แม้ว่าจะกดเร่งให้คันหน้าเร่งอย่างไร ก็ไร้ผล เพราะการจราจรคับคลั่งขนาดนี้ ไม่มีรถประเภทไหนจะขยับได้นอกจากจักรยานต์ยนต์ หรือมอเตอร์ไซด์ยานพาหนะที่คล่องตัวที่สุดในเมืองการจราจรคับคั่งเช่นกรุงเทพมหานคร

“มันจะติดไปถึงไหนน๊า” เสียงทุ้มต่ำลูกน้องคนสนิท ทำหน้าที่พลขับ บ่นกระปอดประแปด เมื่อการจราจรไม่เป็นใจกับการเดินทางที่แสนจะเร่งรีบ

“นายยังไม่ชินอีกหรือวาม” คนเป็นนายเอ่ยขึ้นขณะนั่งนิ่งอยู่เบาะหลังของรถยุโรป คันหรูสีดำสนิทเงาวับ บ่งบอกถึงราคาที่แพงลิบลิ่ว

“แต่วันนี้เรารีบนะครับนาย” วามค้านกับสิ่งที่เผชิญอยู่ตรงหน้า เนื่องจากเขาต้องพาเจ้านายสุดหล่อ ไปขึ้นเรือสำราญ แถมในเรือนั้นกำลังมีปัญหารอให้เจ้านายไปแก้ไขจัดการอีกเพียบ

“เออน่า ทำอะไรไม่ได้ ก็คงต้องรอ” ผู้เป็นนายพูดออกมาด้วยท่าทางใจเย็น เจือน้ำเสียงทรงพลัง จนวามคนเป็นลูกน้องคนสนิทต้องนิ่ง หันกลับไปมองท้องถนนที่เต็มไปด้วยยวดยานพาหนะต่อไป โดยมีเวท อมยิ้มอยู่ข้างๆ

ทั้งสามหนุ่มหันไปสนใจกับ บรรยากาศวุ่นวายภายนอกตัวรถแทนการบ่น

“ป้าสมคิดทำไงดี พวกปาปารัสซี่ กำลังมาทางนี้” หญิงสาวหน้าหวานเสียงใส แต่งตัวรัดกุม กางเกงยีนขายาว เสื้อแจ๊กเก็ตสีดำสวมทับกับเสื้อยืดสีขาวอีกชั้น บนศีรษะสวมหมวกแก๊บ อีกทั้งบนหน้ายังมีแว่นกันแดดดำสนิทอันโต ส่วนมากจะเห็นแต่พวกซุปเปอร์สตาร์ดังๆ เขามักสวมใส่กันออกนอกบ้าน เพื่อหนีนักข่าวหรือปาปารัสซี่ หญิงสาวผู้นั้นร้อนรน มองซ้ายมองขวาหาทางหนีทีไล่

“ยัยตะวัน ขืนแกเรียกฉันแบบนี้อีกครั้งเดียว ฉันจะเลิกเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้กับแกยัยซุปเปอร์สตาร์จอมเปิ่นอย่างแกคอยดู” หญิงสาวสวยสง่ากับรูปร่างสูงเกินมาตรฐานสาวไทยทั่วไปเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ โวยวายออกมาให้ได้ยินเสียงที่บ่งบอกว่าไม่ใช่ผู้หญิงเต็มร้อยอย่างแน่นอน ใช้การบีบเสียงเพื่อให้เป็นสาว

“ป้าคิด เอ่อ ป้าคิตตี้ จะมาสนใจเรื่องชื่ออะไรตอนนี้ ป้าต้องช่วยตะวันคิดสิคะว่าจะหนีจากพวกนักข่าว ปาปารัสซี่พวกนี้ได้ยังไง” ทั้งที่พูดหญิงสาวก็ยังคงมองหาหนทางหนี ตายๆ รถก็เยอะ คนก็เยอะ แน่นไปหมด

“ไปๆ ไปก่อนเดี๋ยวป้าคิตตี้จัดการเอง”

“ไปทางไหนล่ะคะ”

“ทางไหนก็ได้ไปก่อน โน่นแห่กันมาทางนี้แล้ว อ๊ายยย วุ่นวายจริ๊งคนพวกนี้”

“โอ๊ย ทำไมตะวันต้องมาวิ่งหนีนักข่าวด้วยนะ”

“ก็หล่อนดังไงยะพูดมากไปรีบไป” มือหนาผลักแผ่นหลังหลานสาวจนหน้าแทบหน้าคะมำ เล่นแรงนะยะป้าสมคิด

เมื่อป้าคิด เอ่อ ป้าคิตตี้ ที่เป็นทั้งผู้จัดการส่วนตัวและป้าแท้ๆ ของซุปเปอร์สตาร์สาว ชิดตะวัน พัสกร ในเวลาเดียวกันกำลังทำตัวเป็นไม้กันหมาให้กลับหลานสาว ช่วงนี้โด่งดังเป็นพลุแตก เนื่องจากมีข่าวรักๆ ใคร่ๆ กับนักแสดงชายที่หล่อที่สุดในวงการ อีกทั้งยังฮอตฮิตที่สุดในขณะนี้ ทั้งคู่มีโอกาสโคจรมาร่วมงานกัน ในละครเรื่องเดียวกัน ได้รับบทคู่พระนาง เป็นการพบกันครั้งแรก ฝ่ายชายนั้นออกอาการปลื้มฝ่ายหญิงมาก จนกระทั่งมีข่าวว่าตามจีบสาวเจ้า ทั้งที่ความจริง ชิดตะวัน ไม่ได้สนใจหรือชอบพอ ธิติ มาซาร์ เลยแม้แต่น้อย เบื้องลึกเบื้องหลังนั้นมีแต่ครอบครัวของดาราสาวเท่านั้นที่รู้ความจริงนี้กว่าใคร โดยเฉพาะป้าผู้จัดการส่วนตัว

ต่อให้ไม่ใช่ครั้งแรกใส่เกียร์หมาวิ่งหนีปาปารัสซี่กับฝูงนักข่าว แต่เพราะตรงนั้นเป็นท้องถนน แถมรถติดยิ่งกว่าตังเมเธอจึงไปไหนไม่ถูก แต่เมื่อฝูงนักข่าวกำลังกรูกันมาเธอคงต้องหาทางเอาตัวรอด ก่อนจะถูกยิงคำถามสุดน่าเบื่อ ขี้เกียจตอบซ้ำไปซ้ำมา

“เอาวะแค่ขอหลบเขาคงไม่ว่าอะไร” หญิงสาวเอื้อมมือเปิดประตูรถยนต์คันหรูสีดำเงาวับคันหนึ่งที่จอดนิ่งอยู่ใกล้เธอมากที่สุด เวลาเข้าตาจนทำอะไรได้ก็ต้องทำไว้ก่อน

พอเข้าไปในรถได้ก็นั่งนิ่ง เอนหลังพิงกับเบาะหลังทันที เป่าลมออกจากปากทำตัวโล่งอกไปเปาะ หันไปมองนอกรถเอนตัวรูดลงกับเบาะ โผล่แค่ศีรษะแอบมองเหตุการณ์นอกรถ เห็นว่าฝูงคนเหล่านั้นกำลังมองหาเธออยู่จึงโผล่สลับกับหดหัวหนีคนนอกรถนั้น ท่าทางที่เธอกำลังทำ กลับไปอยู่ในสายตาชายหนุ่มสามคน นั่งอยู่ใรถก่อน จู่ๆ ก็มีคนเข้ามานั่งในรถโดยไม่ได้ขออนุญาต ที่สำคัญหน้าตายังสวยซะด้วย

เมื่อเห็นว่าฝูงนักข่าวหลายชีวิต หายไปจากบริเวณนั้น ชิดตะวันยังคงนั่งหลบคู้ตัวอยู่ด้านล่างของเบาะด้านหลังไม่วางใจกับสถานะการณ์ จนกระทั่ง....

“วามล็อกรถ” เสียงทุ้มสั่งลูกน้องแม้เบาหวิวหากแต่ทรงอำนาจในคำสั่ง

‘เสียงผู้ชาย...’ ชิดระวันก้มหน้า คิดไปว่าตัวเองคงหูแว่ว ครั้นค่อยๆ เงยหน้าขึ้นถอดหมวกและแว่นกันแดดสวมอยู่ สายตาได้พบกับสายตาสามคู่มองเธออยู่ก่อน ‘ตายห่า...” ผู้ชายเต็มรถเลยทำไงดี ชิดตะวันแอบคิด ทำท่าจะเอื้อมมือกดเปิดประตู แต่ช้ากว่ามือใครคนหนึ่งจับมือเธอ

“วามออกรถ” เสียงทรงพลังสั่งลูกน้องเด็ดเดี่ยว ในมือใหญ่มีมือเล็กเนียนถูกยึดไว้ จังหวะเหมาะไฟสัญญาณจราจรเปลี่ยนเป็นไฟเขียว รถคันหน้าเคลื่อนออก หญิงสาวถูกฉุดให้ขึ้นมานั่งบนเบาะ ทำไงได้จู่ๆ ก็มีนางฟ้าเข้ามานั่งในรถ คงไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าผลักเธอออกไป กริช อเล็คเซีย คิดมือหนาจับกุมมือบางไว้แน่น กลิ่นของเธอปลุกความรู้สึกบางอย่างเขาอย่างปั่นป่วน แอบสูดดมความหอมจากเรือนกายเนียนละเอียด

“เอ่อ ให้ฉันลงตรงเลยไฟแดงหน้าก็ได้ค่ะ ฉันขอบคุณมากที่ให้ขึ้นรถมาด้วย” หญิงสาวรู้สึกขนลุกกับสายตาผู้ชายที่ฉุดข้อมือเธอไว้ไม่ยอมวาง นับว่าเสียมารยาท แต่เธอก็เสียมารยาทก่อน ขึ้นมาหลบบนรถเขา

“เสียใจคุณผู้หญิง เธอคงต้องไปกับฉัน” เขาพอใจรูปร่างหน้าตาเธอในลำดับแรก จึงไม่อยากปล่อยเธอไปก่อนจะรู้จักเธอซะก่อน

“เอ่อ...คือ...ฉันแค่หนีคนพวกนั้น ไม่มีเจตนาขึ้นรถคุณค่ะ ให้ฉันลงนะคะ” หญิงสาวพยายามข้อร้อง พร้อมทั้งออกแรงบิดข้อมือถูกเขากุมไว้ราวคีมเหล็ก เชื่อว่ามารยาทของเธอจะทำให้เขาปล่อยเธอไปงายๆ ในทีแรกชิดตะวันเชื่อในสายตาตัวเอง ผู้ชายคนนี้หล่อมาก คมเข้มดุดัน มาดคล้ายพวกเจ้าพ่อมากด้วยอิทธิพล

มีหรือคนอย่างกริช เจ้าของบริษัท ไดมอนด์ ควีน เป็นบริษัทข้ามชาติมาจากฝั่งอังกฤษ จะยอมให้เป็นแบบนั้น นางฟ้าแสนสวยคนนี้ กระโดดเข้ามาในรถเขาเอง หนำซ้ำยังพกความสวย กับรูปร่างโคตรดี ดูซิยังมีริมฝีปากอวบอิ่มรูปหัวใจชมพูระเรื่อวน่าลิ้มลองฝากรอยจุมพิต ช่างกระตุ้นเลือดในกายให้สูบฉีด กริชเป็นคนมีความต้องการสูง ถ้าเขาใช้ริมฝีปากปากหนานุ่มประกบบดขยี้กับริมฝีปากอิ่มเธอจะสุขใจแค่ไหน อีกทั้งดวงตาคู่สวยหวานฉ่ำที่ทอดมองมาทางเขาอย่างต่อว่าและอ้อนวอนไปในเวลาเดียวกัน พอได้สบประสานนัยน์ตาคู่นั้น ถึงกับหัวใจชาจังหวะเต้นผิดจังหวะ ชายหนุ่มรูปหล่อแอบพรูลมหายใจ พลางสูดอากาศเข้าลึก เพื่อไม่ให้ตัวเองหลุดเสียงครางออกมา

วามเลี้ยวรถขึ้นทางด่วน ขณะรอจ่ายเงินค่าผ่านทาง สายตาคมของวามทำหน้าที่หลังพวงมาลัย สายตาเหลือบไปเห็นบิวบอร์ดโฆษณาครีมทาผิวยี่ห้อหนึ่ง ขนาดใหญ่ติดอยู่เหนือทางยกระดับพอดี คิ้วมุ่นรู้สึกสะกิดใจ จึงมองไปทางเวทที่นั่งอยู่ข้างๆ ทำท่าทางให้เวทมองตาม

“เวท...เห็นเหมือนฉันเห็นป๊ะวะ”

“อะไรของนายวาม” เวทมองตามสายตาของวามยังบิวบอร์ดขนาดใหญ่

“เห็น...ฉันเห็น เหมือน...เลยวะ” เวทเห็นเต็มสองตา