บท
ตั้งค่า

บทที่1 ตอน "อดีตและปัจจุบัน" 1

อดีตและปัจจุบัน

กรุงเทพฯ...

ณ..คฤหาสน์สีขาวหลังโตหรูหราสร้างบนพื้นที่หนึ่งไร่ มีรั้วกั้นสูงมิดชิดอยู่ในซอยสุขุมวิทซอย 65 ความมืดสลัวยามพลบค่ำเป็นเวลาหนึ่งทุ่มสามสิบนาที ข้างถนนมีรถสปอร์ต Audi R8 รุ่นใหม่ สีเงินยังไม่ดับเครื่องยนต์จอดอยู่ใกล้ประตูรั้วเข้าบ้าน

‘เพลิงพาย ดาราฉาย’ ชายหนุ่มวัย 40 ปี แต่อายุใช่จะทำให้เขาดูแก่เลยสักนิด ใบหน้าหล่อเหลา คมคาย สูง 183 เซนติเมตร ความสมบูรณ์ของร่างกายทุกส่วนสัดเหมือนรูปปั้นหุ่นเดวิด ชายหนุ่มนั่งหลังพิงเบาะรถ แววตาสีเข้มดุจหินผาอ่อนลงเมื่อได้มองป้ายชื่อเจ้าของบ้านได้อย่างชัดเจนจากโคมไฟบนเสารั้ว ‘ดาราฉาย’ นามสกุลที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ได้พระราชทานให้ทวดและเทียด สืบทอดกันมาจนถึงมารดาของชายหนุ่ม

ดวงตาดุจพญายมเพ่งมองเพดานรถแล้วถอนหายใจเข้าออกแผ่วเบา เมื่อคำนวณเวลาที่เขาจากที่นี่ไป 12 ปีกับอดีตอันไม่น่าจดจำและไม่มีวันลืมความรักที่มาพร้อมกับความแค้น เขาอุตส่าห์ทุ่มเทให้คำมั่นสัญญาระหว่างกันและกัน แต่สิ่งเหล่านั้นมลายหายไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งขณะนี้ในห้วงลึกของหัวใจที่แกร่งและแข็งแรง พร้อมที่จะทำร้ายล้างผลาญให้หล่อนคนนั้นได้เจ็บอย่างทรมานแสนสาหัส

เรียวปากหยักยิ้มเหี้ยมเกรียมเมื่อย้อนนึกถึงอดีตอันแสนหวานที่ผ่านมา…

“คุณแม่ครับ” เพลิงพายวัยยี่สิบเจ็ดปี เป็นลูกชายคนเดียวของ ‘คุณหญิงแขศรี’ ซึ่งมีเชื้อสายผู้ดีเก่า กับ ‘นายศักดา เทวารักษ์’ นายหัวผู้โด่งดังจากการทำธุรกิจค้าที่ดินและรวยติดอันดับ 3 ในประเทศไทย

“เพลิงลูกแม่” คุณหญิงแขศรีที่นั่งอยู่บนรถเข็น นางเดินได้บ้างไม่ได้บ้างยามป่วยกระเสาะกระแสะแบบนี้ เป็นมานานหลายปีแล้วและช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้นัก พยายามใช้มือที่ไม่มีแรงทั้งสองข้างจับล้อรถเข็นดันให้รถหมุนเพื่อที่จะได้เห็นหน้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวน

“ผมอุ้มครับ” เพลิงพายปล่อยมือจากคนที่เขาพาด้วย รีบเดินเข้าไปประคองมารดาที่กำลังพยุงตัวลุกออกจากรถเข็น เขาอุ้มคุณหญิงแขศรีพาไปนั่งที่โซฟา ส่วนตนเองก็ย่อกายนั่งลงบนพรมตรงข้างปลายเท้าของท่าน

“อ้าว หนูณียังไม่กลับอีกหรือ?” คุณหญิงแขศรีเปรยเสียงเอ็นดูถามคนให้การพยาบาลส่วนตัว

“ยังค่ะคุณหญิง” ‘อุษณีย์’ หญิงสาวหน้าสวยวัย 26 ปีตอบคำถามแต่ไม่ได้เงยหน้ามองคุณหญิง

“ณีครับ เข้ามานั่งใกล้ๆ ผมสิครับ” เพลิงพายเรียกเธอให้เข้ามาหา แต่เป็นเขาเองที่ลุกขึ้นไปจูงมือสาวเจ้าให้เข้ามานั่งข้างมารดา

“เพลิง ปล่อยมือณีเถอะค่ะ” อุษณีย์พยายามดึงมือของตัวเองออกจากมือของชายหนุ่ม เมื่อเห็นแววตาของคุณหญิงแขศรีมองความสนิทสนมของเธอและเขา

“แม่ครับ ผมมีเรื่องจะบอกคุณแม่ครับ” เป็นเพราะมารดาแท้ๆ ที่ทำให้เขาได้เจอนางฟ้าชุดขาวผู้ใจดี เพลิงพายได้รับหน้าที่จากมารดาให้ไปเป็นประธานเปิดโครงการช่วยเด็กผู้ด้อยโอกาสในบ้านเด็กกำพร้าจึงได้พบรักกับอุษณีย์ที่นั่น

“มีอะไรหรือเพลิง?” ถามลูกชาย แต่แววตาของคุณหญิงแขศรีที่มองอุษณีย์นั้นเอ็นดูรักใคร่เหมือนลูกเหมือนหลานเสียเหลือเกิน นางรู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวตั้งแต่ครั้งที่ลูกชายมาขอร้องให้รับเธอเข้ามาทำงานในบ้าน

“ผมกับณี เรารักกันครับ” เพลิงพายไม่อายมารดา เขากุมมือของอุษณีย์ยกขึ้น แล้วแตะริมฝีปากลงบนหลังมือบาง แสดงให้มารดาเห็นว่าพวกเขาทั้งสองรักกันอย่างที่พูด

“คุณหญิง ณี” เธอใจเต้นตุบตับๆ หวาดกลัวนางแขศรีจึงรีบก้มหน้างุด อุษณีย์เติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้าพร้อมกับน้องสาววัย 9 ปีที่ต้องรับผิดชอบเลี้ยงดู และนี่คือจุดที่ทำให้หญิงสาวมุ่งมั่นตั้งใจเรียนจนจบ ม. 6 และได้ทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

“คุณแม่จะว่ายังไงครับ ถ้าผมจะหมั้นกับณี”

“เพลิงคะ!” อุษณีย์ตกใจเล็กน้อย ไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มที่ตัวเองรักและคอยช่วยเหลือมาตลอดจะกล้าขอหมั้นต่อหน้าคุณหญิงแขศรี แต่ก็แอบดีใจอยู่ไม่ใช่น้อยที่เขายังให้เกียรติผู้หญิงไร้หัวนอนปลายเท้าอย่างเธอ

“แม่จะไปห้ามทำไม ในเมื่อหัวใจของลูกทั้งสองตรงกัน รักกัน แม่ดีใจเสียอีกที่เพลิงรักหนูณี” แขศรีมองหน้าว่าที่ลูกสะใภ้ มือเหี่ยวย่นยื่นเข้าไปลูบกระหม่อมของหญิงสาวที่ก้มกราบตรงปลายเท้า

“ขอบคุณคุณแม่มากครับ” เพลิงพายก็ก้มลงกราบเท้าของมารดาเช่นกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel