ตอน "อดีตและปัจจุบัน" 2
“แล้วหนูณีล่ะ ยินยอมจะหมั้นกับพ่อเพลิงของฉันไหม?” ถึงจะรู้ชาติกำเนิดของอุษณีย์ว่ามาจากบ้านเด็กกำพร้า แต่นั่นหาได้ทำให้คุณหญิงแขศรีคิดรังเกียจ นางยิ่งรักและเอ็นดูในความดี ไม่ลืมกำพืดของหญิงสาวเสียมากกว่า
“คุณหญิงคะ ณี” ใบหน้างามอาบน้ำตาพยักหงึกๆ ตอบรับทั้งที่ยังก้มหน้า
“หมั้นไว้ก่อนนะ ตาเพลิงเรียนจบเมื่อไหร่ แม่จะจัดงานแต่งให้ลูกทั้งสอง”
“แค่นี้ณีก็ดีใจแล้วค่ะ ที่คุณหญิงไม่รังเกียจณี” ด้วยความดีใจ หญิงสาวโผเข้าโอบกอดเอวท้วม รับเอาความอบอุ่นจากวงแขนอันเหี่ยวย่นที่กางออกให้เธอได้เข้าไปซบอก
“หยุดเรียกแม่ว่าคุณหญิงเสียที ต่อไปนี้ หนูณีคือลูกสาวของแม่นะ” เชยคางน้อยของว่าที่ลูกสะใภ้ให้เงยขึ้นมองตากัน
“ณีขอบคุณคุณหญิงมากค่ะที่เมตตาณี” ความอบอุ่นจากการกระทำของคุณหญิงทำให้อุษณีย์รีบตักตวงไขว่คว้าไว้
“นี่แน่ะพูดไม่จำ บอกว่าอย่าเรียกคุณหญิง” แขศรีตีแขนของว่าที่ลูกสะใภ้หนึ่งที ที่สอนไม่รู้จักจำ “บอกว่าให้เรียกแม่ เรียกแม่”
“ณีขอโทษค่ะ” ยิ้มแห้งๆ พร้อมทั้งลูบรอยคันตรงแขนที่ถูกคุณหญิงทำโทษ
“หนูณี อดทนรอตาเพลิงนะ เขาไปเรียนแค่สองปีเท่านั้นเอง” คุณหญิงพูดกับว่าที่ลูกสะใภ้
“ค่ะ” เพราะหัวใจของเธอมีเพียงเพลิงพายจึงพยักใบหน้ารับ และจะรอคอยเขาด้วยหัวใจรักเดียว
“ณีครับ ผมจะแต่งงานกับคุณทันทีเมื่อผมกลับมา” เพลิงพายกุมมือเธอไว้ ใช้นิ้วโป้งเกลี่ยนิ้วนางข้างซ้ายแผ่วเบา แล้วบรรจงสวมแหวนเพชรเม็ดเล็กน่ารักใส่เรียวนิ้วงาม
“เพลิงคะ” ดวงตากลมโตคลอน้ำตาก้มมองแหวนในนิ้วมือของตัวเอง ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าผู้หญิงจนๆ อย่างเธอจะมีโอกาสแบบนี้
“รอผมนะณี” ใบหน้าคมคายย่อลง เขาหรี่ตามองหน้าแฟนสาวแล้วยื่นมือเข้าไปดันปลายคางงามให้เงยขึ้นมองสบตากันหวานซึ้ง
“ค่ะณีจะรอคุณ”
สองหนุ่มสาวโอบกอดกันด้วยความรัก ทำให้คุณหญิงแขศรีที่นั่งมองก็ซาบซึ้งยินดีปีติไปกับลูกชายและว่าที่ลูกสะใภ้
“ทำไมบ้านเงียบจัง คุณหญิงอยู่ไหน?” เสียงของนายศักดาที่ถามแม่บ้านดังพอที่จะทำให้คนทั้งสามที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกได้ยิน
“คุณหญิงคุยธุระอยู่กับคุณเพลิงที่ห้องรับแขกค่ะ”
“ตาเพลิงมาแล้วเหรอ”
“ค่ะ” สาวใช้รับกระเป๋าทำงานของเจ้านายมาถือไว้ หมอบตัวเดินถอยหลังเล็กน้อยเพื่อหลีกทางให้คุณผู้ชายเดินผ่าน
นายศักดาเดินยิ้มเข้าไปนั่งข้างภรรยา เขาแสดงความรักต่อหน้าลูกด้วยการหอมแก้มเมียไปทีหนึ่ง
“สองแม่ลูกคุยอะไรกันเหรอ เสียงดังไปถึงหน้าประตูเลยครับ”
“คุณพี่มาก็ดีแล้ว น้องมีข่าวดีจะบอกค่ะ” คุณหญิงโยนค้อนให้สามีวงใหญ่ ทำอะไรไม่อายลูกบ้าง อายุก็ปูนนี้แล้วยังจะมาหอมแก้มกันต่อหน้าลูกๆ อีก นางตีแขนสามีเบาๆ แก้เขินอายสายตาของลูกๆ ที่มองอยู่
“ข่าวดีอะไรเหรอ อย่าบอกนะว่าตาเพลิงจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ถ้าเป็นเรื่องนั้นน่ะ ผมรู้แล้ว” นายศักดาพูดดักภรรยา
“เรื่องนั้นก็ใช่ค่ะ แต่เรื่องนี้สำคัญกว่า ตาเพลิงมาขอหมั้นหนูณี คุณพี่เห็นดีด้วยไหมคะ?”
“มีข่าวดีขนาดนี้ ทำไมคุณหญิงเพิ่งจะมาบอกผมล่ะครับ” นายศักดายิ้มกรุ้มกริ่มใส่ภรรยา ถึงเขาจะเป็นผู้ชายเจ้าชู้ มีอีหนูมากมาย แต่ก็ไม่เคยยกย่องใครให้เป็นหนึ่งเหนือกว่าภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากคนนี้เลย
“คุณพี่คะ ลูกเราก็เพิ่งจะคลานเข้ามาบอกน้องเมื่อกี้นี้เหมือนกันค่ะ” คุณหญิงแขศรีสะบัดหน้าหนีอย่างหมั่นไส้ ต่อหน้าลูกทำสีหน้าสีตาเป็นวัยรุ่นมีความรักไปได้
“เพลิง หนูณี เข้ามาใกล้ๆพ่อสิ” กวักมือเรียกลูกชาย แต่สายตาเจ้าชู้ของชายชราวัยหกสิบจับจ้องมองความสวยของว่าที่ลูกสะใภ้ไม่วาง
“ครับ / ค่ะ” เพลิงพายจับมือแฟนสาวคลานไปพร้อมกันแล้วก้มลงกราบเท้าของนายศักดา
“พ่อดีใจนะที่เพลิงหมั้นกับหนูณี” นายศักดาตบบ่าของลูกชายยินดีไปกับลูก ส่วนมืออีกข้างยื่นเข้าไปลูบผมยาวสลวยดำขลับของว่าที่ลูกสะใภ้อย่างอ่อนโยน แต่แฝงไปด้วยเล่ห์กลของผู้ชายเจ้าชู้
“ขอบคุณครับพ่อ / ขอบคุณค่ะ คุณท่าน” เมื่อได้รับคำอวยพรจากบิดา เพลิงพายและอุษณีย์เอ่ยคำขอบคุณพร้อมๆ กัน
“คุณพี่ขา คุณพี่จะว่าอะไรไหม ถ้าน้องจะให้หนูณีเข้ามาอยู่ในบ้านของเราน่ะค่ะ” คุณหญิงหันไปปรึกษากับสามี
“ผมว่าก็ดีเหมือนกันนะ มีหนูณีอยู่ใกล้ๆ คุณ ผมก็หมดห่วง แล้วหนูณีพร้อมเข้ามาอยู่วันไหนล่ะ” นายศักดายังนั่งข้างภรรยา หันไปถามอุษณีย์ที่นั่งพับเพียบอยู่บนพื้น ชายชราถูกชะตากับหญิงสาวตั้งแต่แรกเห็นเมื่อครั้งลูกชายพามาฝากทำงานที่นี่
