ตอน "อดีตและปัจจุบัน" 3
“คือ ณีว่า ณีอยู่บ้านจะสะดวกกว่านะคะ” ถึงจะเป็นห้องเช่าราคาถูกๆ แต่นั่นก็คือที่พักอาศัยของตน...อุษณีย์คิดไว้เสมอ ถ้าทำงานเก็บเงินได้เยอะๆ จะซื้อบ้านสักหลังแล้วไปรับน้องที่ยังอยู่สถานีบ้านเด็กกำพร้ามาอยู่ด้วยกัน
“ทำไมล่ะณี อยู่ที่นี่ด้วยกันนะครับ มาช่วยดูแลคุณแม่แทนผมไง” เพลิงพายรีบพูดแทนแฟนสาว
“นั่นสิ หนูณีมีอะไรขัดข้องเหรอ” นายศักดาถาม
“ถ้าเป็นเรื่องของน้องสาว หนูณีก็เอามาอยู่ด้วยก็ได้นี่จ๊ะ” เมื่อจะรับหญิงสาวเข้ามาเป็นคนในครอบครัว คุณหญิงแขศรีก็ไม่ลืมเรื่องของว่าที่ลูกสะใภ้ว่ายังมีน้องสาวต้องเลี้ยงดูอีกหนึ่งคน นางไม่คิดรังเกียจและพร้อมจะให้เด็กน้อยอีกคนที่นางไม่เคยเห็นหน้าเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยเช่นกัน
“ณี” อุษณีย์ได้แต่พูดอ้ำอึ้ง แบ่งรับแบ่งสู้ไปแบบนั้น
“ก่อนผมจะไปต่างประเทศ ผมจะพาณีไปรับน้องที่บ้านเด็กกำพร้ามาอยู่ด้วยที่นี่นะครับ” เพลิงพายเอี้ยวหน้ากระซิบเสียงแผ่วเบาชิดข้างแก้มนวลให้ได้ยินกันเพียงสองคน…
เงาดำทมิฬของตัวบ้านหลังใหญ่ถูกสายตาแดงก่ำจ้องมอง ยังจำได้เสมอว่าตรงไหนของบ้านมีอะไรบ้าง เพราะเขาเกิดและโตที่บ้านหลังนี้ เพลิงพายมีสีหน้าเคร่งขรึม เขาเอนหลังพิงเบาะรถ ศีรษะก็เกยที่พนักเบาะ สายตามองเพดานรถนั้นหลับลงพร้อมทั้งยกมือขึ้นทุบหน้าผากของตัวเองให้ลืมภาพในอดีตอันเลวร้ายออกจากสมอง
ชายหนุ่มตัดสินใจเคลื่อนรถไปจอดรถข้างรั้วแล้วก้าวลงจากรถยืนหลังพิงข้างรถ ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มเยาะ สมเพชหัวใจแข็งแกร่งที่คอยแต่จะหวั่นไหว ใบหน้าคมคายหล่อเหลาแข็งกระด้างก้มมองมือตัวเองที่ลูบสัมผัสใบหน้าหวานของสาวน้อยในไอโฟนรุ่นใหม่
‘แม่นกน้อยในกำมือ’
“หึ! ฉันจะทำให้คนที่เธอรักดั่งดวงใจตายทั้งเป็น เหมือนอย่างที่เธอทำกับแม่ของฉัน อุษณีย์!”
ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในตัวบ้าน ชายหนุ่มหยุดยืนกลางห้องโถงขนาดใหญ่หรูหราสง่างาม ทุกอย่างไม่แปรเปลี่ยนเลยสักนิด ยังคงที่เหมือนเดิมซึ่งทำให้เขาพอใจอยู่บ้าง แต่แล้วเมื่อเงยหน้าขึ้นมองภาพถ่ายของเจ้าของบ้านขนาดใหญ่เท่าตัวคนนั้นได้มาแทนที่รูปของคุณหญิงแขศรี มันตั้งเด่นตระหง่านชัดเจนอยู่ข้างฝาตรงบันไดทางขึ้นชั้นบน ซึ่งแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเจ้าของบ้านหลังนี้เป็นใคร
เพล้ง!! พวงกุญแจรถในมือถูกปาไปใส่รูปนั้นด้วยความแค้นผสมความเกลียดชังเมื่อมองภาพผู้หญิงของบิดา หล่อนช่างกล้าหาญ บังอาจเอาภาพของตัวเองขึ้นมาแทนที่ภาพมารดาของเขาได้อย่างไร
“คุณหนู!” นางจันทร์ แม่บ้านเก่าแก่และยังเป็นแม่นมของชายหนุ่มเดินออกมาดูเมื่อได้ยินเสียงสิ่งของบางอย่างตกแตก นางก้มเก็บพวงกุญแจที่ตกอยู่ข้างบันได ใบหน้าเหี่ยวย่นซีดขาว ยกมือทาบอกตกใจเมื่อมองเห็นรอยร้าวบนกรอบรูปของคุณหญิงคนใหม่
“นมจันทร์สวัสดีครับ” เพลิงพายเดินเข้าไปกอดแม่นม หลังจากมารดาได้เสียไป เขาก็ได้แม่นมคนนี้เป็นที่พักพิง ขณะที่ในหัวใจมีรอยร้าวระหว่างเขากับบิดาเกิดขึ้น
“คุณหนูของนมกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ? ไปค่ะ ไปนั่งที่โซฟาก่อน” ดวงตาฝ้าฟางเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา เจอกันครั้งสุดท้ายตอนที่คุณหญิงเสีย และหลังจากนั้น ชายหนุ่มก็ไม่เคยกลับมาที่นี่อีกเลย
นมจันทร์มองหน้าคุณหนูที่เมื่อก่อนตัวเล็กแค่เอวของนาง แต่ขณะนี้ตัวใหญ่กว่านางเป็นสองเท่า รอยยิ้มภูมิใจผุดขึ้นขณะมองคุณหนูรูปหล่อ ตอนนี้ เพลิงพายประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาพ่อแม่ ชายหนุ่มดูภูมิฐานสมเป็นนักธุรกิจค้าที่ดิน ทั้งต่างประเทศและในประเทศไทย เมื่อเอ่ยชื่อของเขา ทุกคนต้องร้องอ๋อเป็นเสียงเดียวกัน มือของนางจันทร์สั่นระริกลูบแขนลูบหน้าของคุณหนูของตน
“ผมมาได้หลายวันแล้วครับ” เพลิงพายไม่ยอมนั่งตามคำเชิญของแม่นม เขาเดินจับโน่นจับนี่ สำรวจสิ่งของทุกอย่างภายในบ้าน
“คุณหนูน่าจะมาอยู่ที่บ้านนี้นะคะ” นางจันทร์เดินตามหลัง กลัวว่าเพลิงพายจะทำลายข้าวของที่ตั้งโชว์ เพราะสิ่งของที่เขาจับขึ้นมาดูแต่ละชิ้นนั้นเป็นของหวงของคุณหญิงคนใหม่
“คอนโดฯ ที่เจ้าพระยาก็อยู่สบายดีครับ” ไม่อยากอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับผู้หญิงเห็นแก่เงิน ‘ผู้หญิงสารเลว ฉันเกลียดเธอที่สุด’
“คุณอารยา น้องสาวของคุณณีค่ะ” แม่นมเดินตามรอยเท้าใหญ่ คอยจัดของที่ชายหนุ่มจับแล้ววางไม่เป็นระเบียบ พร้อมทั้งแนะนำคนในรูปให้เขาได้รู้จัก หลังจากคุณหญิงแขศรีเสียแล้ว
เพลิงพายก็ไปอยู่ต่างประเทศ และนายศักดาก็บอกให้คุณหญิงคนใหม่พาน้องสาวเข้ามาอยู่ในบ้าน
“ครับ” เพลิงพายแสยะยิ้มร้าย แต่ดวงตาแดงก่ำขัดแย้งหัวใจ ไม่อยากให้นางจันทร์รู้ว่าเขากำลังอ่อนไหว
