บทนำ ตอน "ทั้งรักทั้งเกลียด"
บทนำ
ทั้งรักทั้งเกลียด
เสียงครางกระเส่าพลอดรักกันดังอยู่ด้านในห้องนอน ทำให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านนอกเนื้อตัวสั่นสะท้าน ดวงหน้าคู่งามเจ็บปวดร้าวราน กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่จนมันไหลอาบพวงแก้ม เธอก้มมองมือของตัวเองที่กำลูกบิด ส่วนอีกข้างถือปืนของสามีที่หยิบติดมือออกมาจากห้องทำงาน
‘น่าสมเพชสิ้นดี’
เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ตวาดลั่น!
“นางงูพิษ! นางเนรคุณ!”
อุษณีย์หัวใจแตกสลาย แรงกำลังแทบไม่มียืนอยู่กลางห้อง มือทั้งสองข้างสั่นระริกกำกระบอกปืนเล็งไปยังร่างเปลือยเปล่าของสาวใช้วัยแค่ยี่สิบปี ไม่คิดเลยว่าเด็กสาวชาวเขาที่เก็บมาเลี้ยง รักเหมือนน้องสาวแท้ๆ จะกลายเป็นงูเห่าย้อนมาฉกกัดทำร้ายร่างกายและหัวใจของตัวเอง
“ว้าย! คุณณี อยะ อย่าทำอะไรหนูเลย หนูผิดไปแล้ว” สาวใช้คนสวยที่นอนคร่อมร่างชายวัยเจ็ดสิบปีที่ดูอย่างไรก็เหมือนอายุห้าสิบปี หล่อนตกใจขวัญหนีดีฝ่อ เนื้อตัวสั่นเทาทั้งร่างเมื่อหันหลังไปเห็นนายหญิง
“แกมันเลี้ยงไม่เชื่อง คนอย่างแกเลี้ยงเสียข้าวสุก กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา ตายเสียเถอะ!”
“คุณณี! อย่า!” นายศักดาผลักให้สาวใช้ให้นอนลงข้างๆ ร้องห้ามเมื่อเห็นสิ่งที่อุษณีย์ถืออยู่
“คุณท่านถอยไป ฉันจะฆ่ามัน!!” อุษณีย์ไม่ยอมฟังเหตุผล หลับตาแล้วลั่นไกปืนเก็บเสียง ยิงตรงไปยังร่างผู้หญิงชั่วที่ลืมบุญคุณคนนั้นสามนัดซ้อนติดกัน
ปังๆ ๆ!!!
“โอ๊ย!”
เสียงร้องทำให้อุษณีย์ลืมตามอง หล่อนแทบหายใจไม่ออกเมื่อเห็นนายศักดานอนทับร่างของสาวใช้ แผ่นหลังของชายชราเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด
“กรี๊ด! คุณท่าน ณีไม่ได้ตั้งใจจะยิงคุณท่านนะ ทำไมคุณท่านต้องปกป้องมันด้วย!”
“คุ คุณณี ผะ ผม” นายศักดาพูดไม่ทันจบประโยคก็สิ้นลมหายใจอยู่บนร่างของสาวใช้ที่นอนสิ้นลมหายใจไปก่อนหน้านั้นแล้ว
“ฮือ คุณท่าน คุณท่านทำกับณีแบบนี้ทำไม” อุษณีย์นั่งพร่ำเพ้อเหมือนคนเสียสติ มือที่กำปืนอยู่นั้นรีบวางลง แล้วคลานหนีไปนั่งตั้งสติอยู่ตรงหน้าประตู
เมื่อสติกลับคืนมา เธอก็รีบจัดการอำพรางเหตุฆาตกรรมนี้หวังให้ตนพ้นผิด พร้อมทั้งส่งเสียงกรีดร้องให้คนในบ้านได้ยิน
“กรี๊ด! ชะ ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย!”
อุษณีย์ที่มีเลือดท่วมตัวคลานกระเสือกกระสนออกจากห้องด้วยอาการเหมือนคนบาดเจ็บสาหัสสากรรจ์…
“ฮือ” เสียงร้องร่ำปานใจจะขาดดังอยู่ในห้วงลึกของความฝันของหญิงสาวที่นอนหลับอยู่ภายใต้อ้อมกอดของชายหนุ่มร่างโต ร่างน้อยกระสับกระส่ายหวาดกลัวต่อภาพที่ฝันเห็น เธอผวาตกใจตื่นขึ้นมาแล้วต้องรีบคลานลงจากเตียง วิ่งเข้าห้องน้ำเมื่ออาการวิงเวียนคลื่นไส้จะอาเจียนเล่นงาน
“โอ้ก! โอ้ก!!”
“เมย์เป็นอะไรครับ?” ชายหนุ่มขยับตัวลุกนั่ง เขาคว้าร่างน้อยไว้แต่ไม่ทันจึงลงจากเตียงเดินไปหาคนที่ส่งเสียงโอ้กอ้ากอยู่ในห้องน้ำ
ใบหน้าเรียวรูปไข่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อเอียงมองชายคนรัก “พิ พี่พาย เมย์ฝันร้ายค่ะ โอ้ก!!” แล้วรีบหันกลับไปกอดคอชักโครกโก่งคออาเจียนเอาเป็นเอาตายอีกครั้ง
“ฝันร้าย? แล้วทำไมมานั่งอาเจียนแบบนี้ล่ะครับ” เพลิงพายยืนมองคนตัวน้อย เขาเป็นห่วงจึงรีบนั่งคุกเข่าข้างหนึ่ง ก่อนจะช้อนอุ้มร่างน้อยขึ้นแนบอก พาเดินไปยังเตียงนอนนั้นแล้วก็ช่วยเธอเช็ดน้ำลายตรงมุมปากให้
“มะ เมย์” เมื่อแผ่นหลังแตะฟูกนุ่ม อารยาก็ขยับตัวจะลุกนั่งแต่ก็ถูกมือใหญ่ดันให้นอนลงเหมือนเดิม เธออยากเล่าความฝันเมื่อครู่นี้ให้ชายหนุ่มได้รับรู้ ‘ทำไมฝันน่ากลัวจัง พี่ณีของเป็นอะไรหรือเปล่านะ’ ได้แต่คิดและหาคำตอบให้ตัวเองอยู่คนเดียว
“ทำไมเมย์หน้าซีดจัง ไม่สบายหรือเปล่า?”
เพลิงพายยืนเท้าสะเอวอยู่ข้างเตียง เขาดันขาเรียวสวยให้ขยับเล็กน้อยแล้วนั่งลงบนขอบเตียง ใช้แขนข้างหนึ่งคร่อมร่างบางเอาไว้ ดวงตาดูขรึมลงหลายส่วนเมื่อมองใบหน้าสวยที่ดูอย่างไรก็คล้ายคลึงหญิงสาวอีกคน ซึ่งเมื่อนานมาแล้วจนถึงขณะนี้ หัวใจของเขาก็ยังมีแผลเพราะผู้หญิงร้ายกาจคนนั้น
“มะ เมย์ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ” อารยาเบี่ยงหน้าหนีเมื่อดวงหน้าของชายหนุ่มโน้มเข้าหา กลิ่นลมหายใจที่ผสมบุหรี่ทำให้เธอรีบยกมือปิดจมูกกลั้นอาการคลื่นไส้ไว้ ส่วนมืออีกข้างแอบลูบหน้าท้องแบนราบ
เธอยังไม่แน่ใจดีว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ อยากตรวจให้แน่ใจเสียก่อนถึงจะบอกข่าวดีนี้ให้พี่พายทราบ
“พี่พาไปหาหมอเอาไหม วันนี้ พี่ไม่มีงาน” เพลิงพายยิ้มมุมปาก ใบหน้าหล่อฉายความแข็งกระด้างเล็กๆ เมื่อหัวใจฝ่ายหนึ่งที่คอยแต่จะทรยศพร่ำบอกให้รัก แต่อีกฝั่งนั้นบอกให้เกลียดเธออยู่ตลอดเวลา
‘จำไว้เพลิงพาย แกต้องแก้แค้น ชดใช้ให้สิ่งที่แกเจอและต้องเจ็บเจียนตายนั้นให้ได้!’
“แต่วันนี้ เมย์มีเรียนนี่คะ” อารยานอนนิ่ง ไม่ยอมขยับตัวหนี อยากซึมซับเอาความอบอุ่นจากมือหนาที่คอยปัดเส้นผมบนหน้าผาก เขาเช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นตามไรผมออกให้อย่างอ่อนโยนด้วยเรียวปากหยัก
“งั้นเลิกเรียนแล้ว พี่พาไปหาหมอนะ” ใบหน้าคมคายโน้มเข้าชิดดวงหน้างาม เรียวปากหนาได้รูปกระซิบกระซาบชิดกลีบปากบาง ก่อนพรมจูบลงทัณฑ์อย่างแสนหวานเจือความเร่าร้อน ไม่ต้องการฟังคำปฏิเสธจากเธอ…
