ตอน "อดีตและปัจจุบัน(2)" 2
“รับปากฉันสิว่าเธอจะทำหน้าที่แทนฉัน”
“ฮึกกคุณแม่ขา ณีไม่มีทางเลือกเลยใช่ไหม”
“ทำให้คุณพี่หยุดอยู่ที่เธอให้ได้นะ อุษณีย์” คุณหญิงยิ้มขมขื่น กว่าสี่สิบปีแล้วสินะที่ต้องทนความมักมากในกามารมณ์ของสามี และเป็นนางเองที่ต้องคอยเช็ดล้างความโสมมของสามีที่ทำไว้กับพวกผู้หญิงที่เข้ามาแอบอ้างว่าเป็นเมียน้อย เมียเก็บของนายศักดา
“ทำไมท่านต้องทำร้ายจิตใจณีด้วย ณีทำหน้าที่แทนคุณหญิงไม่ดีพอหรือ” อุษณีย์นึกถึงคำอวยพรของคุณหญิงแขศรีเมื่อครั้งก่อน ก็ยิ่งเปล่งเสียงร้องไห้เสียใจ สมเพชโชคชะตาชีวิตของตัวเอง ทั้งที่พยายามทำทุกวิถีทางให้นายศักดาหยุดอยู่ที่ตน แต่เขาก็ไม่ได้หยุดอยู่ที่หล่อนได้ ยังแสวงหาความสุขจากนอกบ้านอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่คนรับใช้ภายในบ้าน
“คุณณีขา ลุกขึ้นเถอะค่ะ”
“ป้าจันทร์” อุษณีย์ละสายตาจากภาพถ่ายขาวดำของสองสามีภรรยาที่ติดอยู่ข้างเจดีย์ เธอซับน้ำตาบนขอบดวงตา แล้วเงยขึ้นมองหน้าแม่บ้านเก่าแก่
“หลีกทางให้แขกเข้ามาวางดอกไม้เถอะค่ะ” นางจันทร์เอ่ยเสียงกระซิบบอก
“ณีเป็นอิสระแล้วใช่ไหมคุณท่าน ต่อแต่นี้ ณีไม่มีหน้าที่ต้องคอยรับใช้คุณท่านอีกต่อไปแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่าง ณีอโหสิกรรมให้ค่ะ ถ้าชาติหน้ามีจริง เราสองคนอย่าได้เจอกันในสภาพแบบนี้อีกเลยนะคะ” ริมฝีปากบางขมุบขมิบระบายยิ้ม ต่อแต่นี้ไป ร่างกายและจิตใจของหล่อนจะได้เป็นอิสระแล้ว อยากจะโบยบินไปทางไหนก็ไม่ต้องมีใครมาคอยควบคุมกำหนดชะตาชีวิตอีกต่อไปแล้ว
“ณีจะทำตามหัวใจของณี คุณหญิงอย่าห้ามณีเลยนะคะ ณีกับเพลิงรักกัน เรากำลังจะดีกันและกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง”
ตลอดระยะเวลาที่ทุ่มเททั้งกายและใจ ทำทุกอย่างลงไปเพื่อตอบแทนบุญคุณคุณหญิงแขศรีมันจบสิ้นลงแล้ว ต่อแต่นี้ นกน้อยในกรงทองอย่างหล่อนจะทำตามหัวใจของตัวเองเสียที
อุษณีย์ลุกขึ้นยืนหันไปมองใบหน้าของชายที่รักและทุกวันนี้ก็ยังรักอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง เธอเดินเข้าไปยืนเคียงข้างเพลิงพาย เพื่อช่วยชายหนุ่มต้อนรับแขกที่ต่างทยอยพากันเข้ามาทำความเคารพเถ้ากระดูกของนายหัวศักดา
“พี่เพลิง พี่ณี สวัสดีครับ” ร้อยตำรวจเอก ‘สุชาติ เดชาภัค’ เข้ามาทักทาย ชายหนุ่มที่มีอายุน้อยกว่าเพลิงพายเพียงห้าปี และยังเป็นลูกชายของ ‘ทนายทรงธรรม เดชาภัค’ ซึ่งบิดานายตำรวจหนุ่มก็ยังทำงานให้กับตระกูลเทวารักษ์อยู่
“สุชาติ! ไอ้น้องชาย ไปไงมาไงวะ?” สิบกว่าปีที่ไม่เคยได้เจอกัน ทำให้ทั้งสองโผเข้ากอดกันทันทีที่เจอหน้า
“ผมเสียใจด้วยนะครับกับเรื่องของคุณลุง” สุชาติยังกอดเพลิงพาย ที่เขาเคารพรักเหมือนพี่ชายแท้ๆ ไว้ด้วยความนับถือ และเสียใจอย่างที่สุด
“ขอบใจนายมากที่มา” เพลิงพายดันน้องชายต่างตระกูลออก แล้วเลื่อนสายตาปีติยินดีมองความสำเร็จของชายหนุ่ม ‘ไอ้นี่มันทำตามฝันของมันได้จริงๆ’
“พี่เพลิง มีอะไรให้ผมช่วยบอกผมได้เลยนะครับ”
“พี่ได้ข่าวว่านายทำคดีนี้อยู่ ยังไงพี่ก็ฝากด้วยนะ” เพลิงพายเอ่ยกับนายตำรวจรุ่นน้อง แล้วเหยียดยิ้มเล็กน้อยเมื่อหันไปมองหน้าของอุษณีย์ ยังไง เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนฆ่านายศักดา!
ในสายตาคนอื่นอาจมองว่า ชายหนุ่มต้องการทวงความเป็นธรรมให้ผู้เป็นพ่อในฐานะลูก แต่ใครจะรู้เหตุผลที่แท้จริงนอกจากตัวเขาเอง…!
“ผมเต็มที่กับงานนี้อยู่แล้ว ผมจะไม่ยอมให้ลุงศักดาต้องตายฟรีๆ โดยไม่รู้สาเหตุหรอกครับ” สุชาติพูดให้กำลังใจพี่ชายต่างสายเลือด
“ยังไง พี่ก็ฝากนายด้วยนะ” เพลิงพายพูดกับผู้กองสุชาติ แต่เขาก็ไม่เคยที่จะลืมยกมือไหว้ลาขอบคุณผู้หลักผู้ใหญ่ที่เดินเข้ามาแสดงความเสียใจ
“มันเป็นหน้าที่ของตำรวจอยู่แล้ว ถ้าพี่เพลิงอยากรู้เรื่องข้อมูลเพิ่มเติม ก็เข้าไปคุยกับผมได้ที่สถานีตำรวจนะครับ”
“นายมองหาใคร จะมามองหาสาวๆ แถวนี้ ไม่มีหรอกนะโว้ย ที่นี่มันงานศพ ไม่ใช่งานมอเตอร์โชว์” การกระทำคอยืดคอยาวทำตาล่อกแล่กมองหาอะไรบางอย่างของสุชาติ ยิ่งทำให้เพลิงพายสงสัย
