ตอน "อดีตและปัจจุบัน" 5
“เพลิง” หล่อน ‘อุษณีย์ พานทอง’ หญิงสาววัยสามสิบเก้าปีซึ่งไม่สมควรที่จะมาเป็นม่ายสามีตายเลยสักนิด เพราะหล่อนยังสวยและเซ็กซี่ หญิงสาวยิ้มดีใจมองคนรักเก่าที่นั่งบนโซฟา เขายกเท้าทั้งสองข้างเกยโต๊ะรับแขกแล้วเอาบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ จุดไฟดูดเอาควันสีเทาเข้าปอดแล้วพ่นมันออกมาอย่างสบายใจ กิริยาห่ามๆ แบบนี้ หล่อนเพิ่งจะเคยเห็น
“คุ คุณณี” เสียงของอุษณีย์ที่ดังอยู่ด้านหลัง ทำให้นางจันทร์หันไปมองแล้วเดินหมอบเข้าไปพยุงคนเจ็บ พาไปนั่งโซฟาฝั่งตรงข้ามของชายหนุ่มที่กึ่งนั่งกึ่งนอนไม่คิดสนใจหญิงสาวเลยสักนิด
“เพลิง กะ กลับมาตั้งแต่เมื่อไรคะ?” อุษณีย์พยักหน้าบอกให้แม่บ้านไปทำอย่างอื่น แทนที่จะมานั่งฟังเจ้านายคุยกัน
“คุณเป็นไงบ้างคะ...”
เสียงหวานๆ ของหล่อน ทำให้ชายหนุ่มที่มีแต่ความแค้นก่อตัวขึ้นมาในจิตใจ ผู้ที่ทำตัวเป็นซาตานร้ายในคราบผู้ชายใจเย็น เพลิงพายผงกศีรษะจากพนักโซฟา มือที่คีบบุหรี่ยกขึ้นดูดแล้วพ่นควันสีเทาใส่หน้าหญิงสาวโดยไม่แคร์ว่าหล่อนจะมีอาการแบบไหน
“ณิ ณีขอโทษ ที่ไม่สามารถช่วยพ่อของคุณไว้ได้ เด็กนั่นช่างร้ายเสียเหลือเกิน ณีเลี้ยงงูพิษไว้ในบ้านจริงๆ” อุษณีย์ยิ้มหวานเจือความเศร้าเมื่อเห็นอาการของชายหนุ่มที่ดูจะเป็นห่วงหล่อน หล่อนยังรักเขา และฝันไว้เสมอว่าชายหนุ่มจะยังมีเยื่อใยแล้วกลับมาเป็นเหมือนเดิม
“ผมเข้าใจคุณ แล้วนี่คุณเป็นยังไงบ้าง” ดวงตาสีเข้มกระด้างมองขาและแขนของหญิงสาวที่มีผ้าก๊อซสีขาวพันแผล
‘หึ! เลี้ยงงูพิษไว้ในบ้านรึ มันก็ไม่ต่างอะไรกับที่แม่ฉันเลี้ยงงูพิษอย่างเธอไว้เหมือนกัน น่าสมเพชจริงๆ อุษณีย์!’
“ไม่เป็นไรมากค่ะ หมอเย็บไปแผลละสิบเข็ม” ทำหน้าเศร้าหมองก้มมองแผลที่ตัวเองสร้างขึ้นเพื่ออำพรางความผิด
“แล้วทางตำรวจเขาว่าไงบ้าง” เพลิงพายกระตุกยิ้มมุมปาก ครั้งหนึ่ง เขาเคยรักหล่อนมาก รักมากจนทุ่มเททั้งกายและใจให้ แต่ตอนนี้สะอิดสะเอียน เกลียดหล่อนเหลือกำลัง แม้แต่หน้าก็ไม่อยากจะมอง
“เจ้าหน้าที่กำลังทำคดีอยู่ ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาความผิดจากใคร เพราะคนที่ยิงก็ตายตามคุณท่านไปแล้วด้วยค่ะ”
“ผมต้องขอบคุณคุณมากนะครับที่คอยเป็นหูเป็นตาให้กับผมทั้งๆ ที่ตัวคุณเองก็เจ็บ” เพลิงพายหยั่งเชิง พูดเหมือนเป็นห่วงหล่อน แต่ในใจของเขา มันมีแต่ความมุ่งร้าย เขาจะสืบหาความจริงให้ได้ว่าใช่หล่อนหรือไม่ที่เป็นฆาตกรฆ่าพ่อแม่ของเขา
“เพลิงไม่โกรธณีใช่ไหมคะ?” ทำไมเวลานี้ ชายหนุ่มตรงหน้าช่างดูดีเสียเหลือเกิน เขาหล่อเข้มสมกับเป็นนักธุรกิจค้าขายที่ดินที่มีชื่อเสียงโด่งดังอันดับสามในประเทศอังกฤษ
“ผมจะไปโกรธคุณเรื่องอะไรล่ะ ผมรู้ว่าคุณรักและเป็นห่วงพ่อของผมมาก” ใบหน้าคมคายนิ่งเฉย หัวใจด้านชาไม่มีแม้แต่ความรู้สึกดีๆ ให้หล่อนเลยสักนิด เขาเคยรักหล่อน แต่ตอนนี้มันจบสิ้นลงไปหมดแล้ว เมื่อหล่อนได้ทำร้ายจิตใจมารดาเขาครั้งนั้น
“ณี” ดวงหน้างามเซ็กซี่อาบน้ำตาได้แต่ส่ายไปมา อยากจะบอกเหลือเกินว่าหัวใจทั้งสี่ห้องของหล่อนยังรักเขาตลอดเวลา
“อย่าคิดมากเลยครับ ผมจะไม่ทิ้งคุณให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว” เพลิงพายแกล้งทำดี เขายื่นมือเข้าไปกุมมือบาง ลูบแผ่วเบา
“เพลิง เพลิงอย่าทิ้งณีไปไหนอีกนะ” ความรักที่มีให้ชายหนุ่มยังล้นหัวใจ อุษณีย์จึงโผเข้ากอดคนตัวโต หล่อนเสาะหาความอบอุ่นจากวงแขนแข็งแกร่งที่เฝ้าถวิลหาตลอดเวลา
“เราสองคนยังมีอะไรที่ต้องทำร่วมกันอีกเยอะ เราจะจับมือกันและเดินไปด้วยกัน คุณพร้อมที่จะเดินไปกับผมไหมครับณี” เรียวปากหยักกระตุกยิ้มร้าย แขนกำยำโอบกอดร่างงามที่เมื่อก่อนเคยคลั่งไคล้ไว้แน่น
“ณีดีใจเหลือเกินที่เพลิงไม่...”
เพลิงพายก้มมองหน้าสวยที่เงยขึ้นมองสบตากัน ชายหนุ่มปิดเรียวปากอิ่มด้วยริมฝีปากของตัวเอง พร้อมทั้งกระซิบเสียงไม่ให้เจือความเหี้ยมเกรียมออกไปว่า
“ผมยังรักคุณนะณี” แค่นี้ก็เป็นไปตามเกมที่ชายหนุ่มวางไว้
‘ฉันจะทำให้เธอได้รู้รสชาติของความผิดหวังเสียใจและเจ็บปวดมันเป็นยังไง’
“ฮืออ ณีก็รักคุณ รอคุณเสมอ เพลิงขา” จูบของเขาช่างเร่าร้อนจนทำให้หญิงสาวที่ไม่เคยเจอสัมผัสห่ามๆ ดิบๆ แบบนี้รู้สึกดีเหลือเกิน
“ผมว่าตอนนี้ คุณเหนื่อยมากแล้ว ขึ้นไปพักผ่อนก่อนเถอะ พรุ่งนี้เช้า เรายังมีอะไรมากมายที่ต้องจัดการ” เพลิงพายดันร่างหล่อนออก เป็นฝ่ายหยุดทุกอย่างลง แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์สะใจที่ทำให้ร่างอวบอิ่มแดงเถือกสั่นสะท้าน ครั้นได้พบเจอกับสัมผัสหลอกลวงนั่น!!
“พะ เพลิงล่ะจะพักที่นี่ไหม เดี๋ยวณีจะบอกแม่บ้านให้เข้าไปทำความสะอาดห้องเดิมของเพลิงให้” ร่างอวบอิ่มสั่นระริกยามมือหนาลูบไล้สัมผัสใบหน้าของหล่อน ม่ายสาวป้ายแดงใบหน้าระเรื่อเขินอายให้กับสายตาหื่นกระหายของชายหนุ่ม
“แล้วแต่เจ้าของบ้านสิครับ ถ้าเจ้าของบ้านต้อนรับ อยากให้ผมอยู่ ผมก็จะอยู่” เสียงทุ้มนุ่มหูกระซิบหยอดคำหวานชิดใบหน้างาม
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะคะ นี่บ้านของเพลิงนะ เพลิงมีสิทธิ์ทุกอย่างในบ้านหลังนี้” ปากอิ่มสั่นระริกเม้มเป็นเส้นตรง ใจหวิวสะท้านเมื่อปลายจมูกโด่งคมสันชนกับปลายจมูกเล็กจนหล่อนรู้สึกถึงลมหายใจที่ผสมกลิ่นบุหรี่ ช่างหอมกรุ่นเหลือเกิน เวลาที่เป่ารด ใบหน้างามพลันร้อนวูบวาบ
“ในเมื่อเจ้าของบ้านให้สิทธิ์ผม ก็จะไม่เกรงใจแล้วนะครับ”
เพลิงพายลุกขึ้นยืนทำตัวให้สุภาพ เขายื่นมือให้หญิงสาวได้เกาะ แล้วช่วยประคองอุ้มคนเจ็บขึ้นแนบอก ก้าวเท้าเดินขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนของหญิงสาวที่แต่เดิมเป็นของมารดาเขา เจ็บเหลือเกินที่ต้องทนมองมันเปลี่ยนเจ้าของ!
“ปล่อยณีเถอะค่ะ เดี๋ยวมีคนมาเห็น มันจะไม่ดี” ปากบอกให้เขาปล่อย แต่แขนสลวยทั้งสองข้างชอนไชโอบกอดรอบต้นคอหนาไว้แน่น หญิงม่ายวัยสามสิบเก้าที่เพิ่งเสียสามีไป กลับไม่มีเค้าความเสียใจเลยสักนิดใบหน้าเต็มไปด้วยความสุขแนบซบอยู่บนอกแข็งแรง
“เปิดประตูสิครับ” เพลิงพายแสยะยิ้มหยัน ใบหน้าหล่อเคร่งขรึมโน้มเข้าหากระซิบเสียงเบาชิดกระหม่อมบาง การกระทำอันอ่อนโยนของชายหนุ่มทำให้อุษณีย์อิ่มเอมตื้นตันหัวใจ
‘ในที่สุด เขาก็กลับมาเป็นเพลิงพายคนเดิมที่รักเธอ’
เพลิงพายวางร่างบางลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล ส่วนตัวเขาก็ถือโอกาสนั่งลงบนขอบเตียง ชายหนุ่มยิ้มมุมปากมองจ้องร่างงามที่นอนเขินอาย
‘หึ แค่สัมผัสนิดๆ หน่อยๆ ก็เนื้อเต้นสะท้านเลยนะอุษณีย์ นี่มันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น’
‘ฉันจะทำให้เธอและคนที่เธอรักหลงฉันจนโงหัวไม่ขึ้น แล้วเมื่อถึงวันนั้น ฉันจะทำให้พวกเธอตายทั้งเป็น’
เมื่อความคิดของคนที่คิดจะแก้แค้นจบลง ใบหน้าคมคายก็ถูกแขนทั้งสองข้างของคนใต้ร่างโอบรอบลำคอหนานั้นฉุดรั้งให้เข้ามาชิดกัน…
