เพลิงแค้นแรงพยาบาท บทที่1.......
“ท่านอยู่ที่วัด...แบบ อนาถา” นมย้อยพูดไปร้องไห้ไป ทุกคนที่เหลืออยู่เรี่ยไรเงินทอง เพื่อจัดงานให้ท่าน พร้อมกับรอการกลับมาของคุณคณานางค์ บุตรสาวของคนเดียวของท่าน แต่เป็นแค่คนขายแรงงาน มีเงินเดือนพอยาไส้ ไม่แปลกหรอกหากจะทำได้แค่ตั้งศพท่านไว้ที่วัด ตามมีตามเกิด
น้ำตาไหลออกมาจากดวงตากลมโตเป็นสาย โดยไม่ต้องปริปากพูด เธออเนจอนาถตัวเองจริง สมเพชตัวเองด้วย เธอเป็นลูกที่แย่มาก แม้แต่งานศพของบิดาเธอยังไม่สามารถจัดให้สมเกียรติท่านได้ เมื่อตัวเองยังแทบจะไม่มีสตางค์ติดกาย...
“เป็นแบบนี้มานานเท่าไรแล้วคะ?” เธอพยายามไม่คิดไกลตัว เมื่อคิดไปก็รังแต่ทำให้ทุกข์ใจ...
“2-3 เดือนหลังมานี้ค่ะ ท่านดูหมองๆ แล้วก็เป็นแบบที่เห็น”
หญิงสาวยกหลังมือปาดน้ำตาบนใบหน้าอีกครั้ง พักหลังมานี่เธอร้องไห้บ่อยเกินไป คณานางค์ให้สัญญากับตัวเอง ต่อไปนี้เธอจะไม่ร้องไห้ และจะตามสืบหาความจริง...เธอไม่เชื่อหรอกว่า...บิดาจะเป็นคนขี้โกง เหมือนที่ถูกประณาม
“ขอนางขึ้นไปดูข้างบนหน่อยได้ไหมคะ? หลังจากนั้นเราจะไปวัดกัน”
เธอระบายลมหายใจออกมาจากอกที่มันอัดแน่นด้วยความทุกข์ระทม...บวกกับความคั่งแค้น...
“ตามสบายเลยค่ะ ไม่ต้องรีบหรอกค่ะคุณหนู ศาลาเปิดตอน4 โมงเย็น” วัดใกล้บ้านไม่ได้เด่นดัง และมีกฎชัดเจนเรื่องเวลาเปิดปิด นมย้อยบอกเจ้านาย ดวงตารื่นน้ำตาของนางดีขึ้น เมื่อคุณหนูของนางกลับมาแล้ว...แม้จะยังไม่รู้ชะตาชีวิตต่อไป ก็ยังพอใจชื้นเมื่อเจ้านายกลับมาคุ้มหัว
คณานางค์นั่งก้มหน้านิ่ง สภาพห้องของบิดาไม่ต่างอะไรกับบริเวณชั้นล่างสักนิด ไม่มีเครื่องเรือน ไม่มีเฟอร์นิเจอร์เหลือ ทั้งห้องโล่ง และเต็มไปด้วยเศษขยะที่เป็นกระดาษไม่ใช้แล้ว ต่างจากภาพที่เธอเคยจำได้ ไม่เหลือความอลังการ โอ่อ่า...มีแต่ความทรุดโทรมและว่างเปล่า
“พ่อคะ...นางจะไปต่อยังไง? ทำไมไม่คิดจะบอกอะไรนางบ้างเลย”
เสียงเครือสะอื้นเปล่งออกมาจากริมฝีปากซีดเซียว น้ำตาแข่งกันไหลริน เมื่อความเสียใจบีบอัดจนต้องระบายออก น้ำตาคือตัวแทนของความเสียใจ ไม่ต้องบรรยายออกมาเป็นคำพูด หากมองเห็นก็จะรู้ว่าบัดนี้ คณานางค์กำลังเศร้าเสียใจขนาดไหน
กึกๆ เสียงอะไรบางอย่างกระทบกันดังกึกๆ เสียงแผ่วๆ แต่ภายในห้องเงียบๆ มันจึงทำให้เธอได้ยินชัด หญิงสาวยกมือปาดน้ำตาบนแก้ม เธอกวาดสายตามองหาต้นกำเนิดเสียง
มุมปากได้รูปกระตุกยิ้มเย้ยหยันตัวเอง...ห้องโล่งๆ มีเพียงรูปของบิดากับมารดาเท่านั้นที่เหลืออยู่ สายลมด้านนอกพัดกรูเข้ามา จนทำให้กรอบรูปกระแทกกับผนัง จนเกิดเสียงดังๆ
เรียวคิ้วโก่งขมวด...ในวัยเด็กมารดาเคยกระซิบบอกบางอย่างกับเธอ...ความลับของเธอกับมารดาที่ล่วงลับไปหลายปี...เรื่องตู้เซฟของท่าน!
“แม่คะ? ...ขอบคุณค่ะ”
มือเรียวเข็ดน้ำตาที่ไหลรินออกมาเพราะความยินดี...เธอไม่ได้จนหนทางจนไม่มีทางเดินหรอกนะ...เพราะหากยังไม่มีใครรู้...ของของ แม่คงยังอยู่ที่เดิม...
หลังกรอบรูปของท่าน...