บทที่ 4 (1)
“บ้าฉิบ! ไม่น่ารับคำท้ากับไอ้จักและไอ้ภูเลย จะกินยัยบ้านนอกลงไหมเนี่ย ไม่ใช่เนื้อตัวมีแต่กลิ่นโคลนสาบควายหรือวะ”
เจ้าของโรงแรมหรูหรา ได้คะแนนห้าดาวจากนักท่องเที่ยวนักวิจารณ์ทั่วโลก ทั้งสบถ ทั้งบ่นเป็นหมีกินผึ้ง มือข้างหนึ่งยกขึ้นเสยผมให้ยุ่งไปหมด ส่วนมืออีกข้างก็มีขวดแชมเปญอยู่ในมือ
“ยกเลิกคำท้ากับพวกมันดีไหมวะ”
“ไม่ดีๆ ไอ้จักไอ้ภูคงได้หัวเราะเยาะฟันหักแน่”
“แต่ถ้าเอาเงินฟาดหัวพวกมันคนละแสนสองแสน ก็คงปิดปากไม่ให้พวกมันหัวเราะเยาะเราได้”
แน่นอนว่าคิวากรกำลังเกิดอาการลังเล จึงตั้งคำถามและโต้แย้งในคำถามของตนเองอยู่เพียงคนเดียว ร่างใหญ่ล่ำสันที่ถูกฤทธิ์ของแอลกอฮอล์เล่นงานบ้างแล้ว ถึงกับเดินเซขณะเดินไปมาอยู่ภายในห้องชุดสุดหรู
“เงิน! คงปิดปากพวกมันได้”
คิวากรบอกกับตัวเองอีกครั้ง ไม่ได้นึกเสียดายเงินที่จะต้องจ่ายให้กับเพื่อนทั้งสอง เพื่อเป็นค่าปิดปากไม่ให้อีกฝ่ายหัวเราะเยาะเขาที่ยอมล้มคำท้าที่จะกินสาวบ้านนอกอย่างฟ้าคราม พอคิดได้เช่นนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมากดโทร.หาจักรินโดยไม่รอช้า
ทันทีที่เพื่อนกดรับสาย คิวากรก็อ้าปากเอ่ยเรียกเพื่อน แต่ไม่ทันได้บอกถึงแผนในหัวที่ต้องการล้มคำท้า ก็ถูกจักรินเป็นฝ่ายชิงบอกซะก่อน
“ไอ้จัก”
“คิวา...พวกกูพายัยฟ้าครามมาถึงโรงแรมของมึงแล้ว อดใจรออีกห้านาที กูจะพายัยฟ้าครามไปให้มึงฟาดถึงห้อง”
“บ้าฉิบ!”
คิวากรได้แต่สบถอยู่ในลำคอ แทบขว้างโทรศัพท์ทิ้ง และก็ทำอะไรไม่ได้ด้วย เพราะจักรินได้กดวางสายไปแล้วหลังจากเอ่ยบอกรัวเร็วเช่นนั้น
“นี่กูต้องทนฝืนกินยัยบ้านนอกหรือวะ”
คิวากรสบถบ่นอย่างหัวเสีย ด้วยรู้สึกขยะแขยง กลิ่นเหม็นสาบลอยมาปะทะจมูกจนขนลุกไปหมด และเมื่อไม่อาจยกเลิกคำท้าได้ จึงยกขวดแชมเปญในมือกระดกเข้าปากราวกับดื่มน้ำเปล่า ต้องการดื่มแชมเปญเพื่อย้อมใจตัวเองให้เมาเต็มที่ จะได้ทำตามคำท้าของเพื่อนทั้งสอง และบอกกับตัวเองว่าจะกลั้นใจหลับหูหลับตาขึ้นขย่มฟ้าครามให้ถึงสวรรค์เร็วๆ จะได้เสร็จสิ้นภารกิจท้าทายในครั้งนี้
คิวากรดื่มย้อมใจอีกอึกใหญ่ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง ทำเอาสะดุ้งโหยงด้วยความสยดสยอง เพราะรู้ว่าคนที่เคาะประตูห้องพักของเขาคือจักรินกับภูริศนั่นเอง
ขณะเดินตรงไปที่ประตูห้อง ร่างใหญ่กำยำที่ดื่มแชมเปญรวมๆ แล้วหมดไปเกือบสองขวดตั้งแต่จากงานเลี้ยงในร้านอาหารและดื่มย้อมใจที่ห้องก็ถึงกับเซบ้าง และต้องใช้เวลาเกือบห้านาที กว่าจะเดินไปเปิดประตูห้องได้ พอเปิดประตูออกกว้าง ภาพที่เห็นตรงหน้าก็ถึงกับเลิกคิ้วขึ้นสูง เอ่ยถามเพื่อนทั้งสองด้วยความสงสัย
“นี่ยัยบ้านนอกเมาเละถึงกับต้องหิ้วปีกเลยหรือวะ”
“เออ...แม่งคออ่อนฉิบหาย กูให้ดื่มแชมเปญแค่สองแก้วเอง ยัยบ้านนอกถึงกับคอพับคออ่อน”
จักรินตอบคำถามขณะช่วยกันกับภูริศประคองร่างบางที่ทรงตัวไม่อยู่เพราะฤทธิ์น้ำเมาจากแชมเปญให้เข้ามาในห้องชุดสุดหรูของคิวากร
และเพราะมีชื่อคิวากรเป็นเจ้าของโรงแรมห้าดาวแห่งนี้ ทั้งจักรินทั้งภูริศจึงสามารถหิ้วฟ้าครามขึ้นมาบนห้องพักของผู้เป็นเจ้าของโรงแรมได้โดยไม่มีใครกล้าทักท้วง เพราะพวกเขาบอกกับพนักงานต้อนรับตรงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ว่า...คิวากรสั่งให้พาแฟนมานอนพักที่ห้องพักนั่นเอง
ภูริศช่วยจักรินหิ้วฟ้าครามมาทิ้งตัวลงบนเตียงกว้าง ให้หญิงสาวนอนแผ่หรารอถูกคิวากรเชือดแล้ว ก็ยิ้มเยาะขณะเค้นเสียงบอกผู้เป็นเจ้าของโรงแรม
“ยัยบ้านนอกคออ่อนจริงๆ สงสัยไม่เคยดื่มเหล้ามาก่อน แต่ยาที่พวกกูใส่ลงไปกำลังจะทำให้ยัยบ้านนอกกลายเป็นนางแมวป่าแล้ว”
“นี่! พวกมึงใส่ยาให้ยัยฟ้าครามดื่มด้วยหรือวะ”
คิวากรถามเสียงห้วนด้วยความไม่พอใจ แน่นอนว่าลูกชายมหาเศรษฐีอย่างเขาที่เพี้ยบพร้อมไปทุกอย่าง ไม่จำเป็นต้องใช้ยาเสียสาวกับผู้หญิงคนไหน แค่เพียงกระดิกนิ้วเรียก พวกเธอเหล่านั้นก็กระโจนเข้าสู่กรงเล็บของเขาแล้ว พอรู้ว่าเพื่อนทั้งสองใส่ยาเสียสาวให้ฟ้าครามดื่ม ก็เต็มไปด้วยความโมโหและหงุดหงิดใจ
ภูริศและจักรินมองหน้ากัน รู้ว่าคิวากรกำลังโกรธและอาจยกเลิกคำท้าได้ นั่นก็หมาย
ความว่าพวกเขาจะไม่มีทางหาเงินก้อนโตจากการแบล็คเมล์เพื่อนคนนี้ จึงรีบโกหกให้คิวากรหายโกรธและทำตามแผนเดิม
“นิดเดียวเองน่า...คิวา กูหยดยาลงไปแค่หยดสองหยดให้ยัยฟ้าครามยอมเป็นของนายง่ายๆ ก็เท่านั้นเอง”
ภูริศรีบเอ่ยแก้ต่างและจักรินก็ไม่รอช้าเช่นเดียวกัน เขาเดินไปรินแชมเปญให้คิวากรพร้อมกับเอ่ยบอกให้เพื่อนได้คิดตามว่า
“กูใส่ยาแค่ไม่กี่หยดเหมือนที่ไอ้ภูบอก ถ้าหากพวกกูไม่ใส่ยาให้นังนี่เลย เกิดมันแหกปากตะโกนร้องโวยวายขึ้นมาก็จบเห่สิวะ”
“เออ...ช่างมันเถอะ ยังไงๆ พวกมึงก็ใส่ยาให้นังบ้านนอกกินแล้ว กูคงทำอะไรไม่ได้ พวกมึงออกไปได้แล้ว กูจะจิ้มๆ ให้เสร็จ จะได้เป็นฝ่ายชนะพวกมึงยังไงละ”
“กูเชื่อแล้วว่าคิวากร พิพัช เป็นคนจริงมากแค่ไหน ดื่มให้กับคิวาเพื่อนรัก”
จักรินชูแก้วแชมเปญขึ้นสูงแล้วยื่นไปชนกับแก้วของคิวากร ตามด้วยภูริศที่รีบเอ่ยเยินยอสรรเสริญและชนแก้วกับคิวากรอีกคน
“ดื่มให้กับคนจริงอย่างคิวาเพื่อนรักของพวกเราตลอดกาล”
คิวากรไม่ได้ปลื้มกับคำเยินยอของเพื่อนทั้งสอง ชายหนุ่มกระดกแชมเปญรวดเดียวจนหมดแก้วจากนั้นก็ออกคำสั่งกับทั้งสองเสียงห้วน
“พวกมึงออกไปได้แล้ว ล็อกห้องให้กูด้วย”
“ได้ๆ พวกเราจะกลับไปที่งานเลี้ยงต่อ คอนเสิร์ตกำลังมันส์เลย”
ปากนั้นเอ่ยบอกเช่นนั้น แต่ภูริศกับจักรินกลับแสยะยิ้มอย่างรู้กัน ทำทีท่าว่าเดินออกจากห้องชุดของคิวากรและปิดประตูห้องให้ด้วย
ทว่า...พวกเขาทั้งสองไม่ได้ไปไหนไกล ยังคงยืนอยู่หน้าห้องเช่นนั้นอีกหลายสิบนาที เพื่อนชั่วทั้งสองกำลังรอเวลา...รอเวลาที่จะแอบเข้ามาถ่ายวีดีโอคลิปในขณะที่คิวากร ลูกชายมหาเศรษฐีกำลังเผด็จศึกฟ้าคราม...หญิงสาวผู้น่าสงสารที่สุด...
คิวากรไม่ได้สนใจมองว่าเพื่อนทั้งสองเดินออกจากห้องหรือยัง ดวงตาที่เริ่มแดงก่ำเพราะฤทธิ์ของแชมเปญ จับจ้องมองร่างเล็กที่นอนแผ่หราอยู่กลางเตียงใหญ่ ทว่าไม่ได้จ้องมองด้วยแววตาพิศวาส แต่คิวากรกำลังมองด้วยแววตาชิงชังและรังเกียจหญิงสาวจากบ้านนอกที่กำลังตกเป็นเหยื่อในเกมท้าทายของพวกตน
“บ้าชะมัด จะจูบนังนี่ลงไหมเนี่ย”
คิวากรยังสบถไม่มีหยุด กระดกแชมเปญอีกอึดใหญ่ ก่อนจะบอกกับตัวเองอย่างไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว
“ปิดไฟดีกว่า จะได้ไม่ต้องทนเห็นหน้านังบ้านนอก แล้วก็หลับหูหลับตาจิ้มๆ ไป”
คิวากรพึมพำบอกตนเองพร้อมกับหยิบรีโมทปิดไฟในห้องนอน ซึ่งแน่นอนว่าห้องชุดสุดหรูภายในโรงแรมของเขา ควบคุมระบบไฟภายในห้องด้วยรีโมทสุดล้ำเทคโนโลยี
ห้องชุดหรูหราตกอยู่ในความมืดแค่เพียงบางส่วน มีแสงไฟจากหัวเตียงสลัวๆ พอให้มองเห็นแบบเลือนลาง จากนั้นผู้เป็นเจ้าของห้องก็เริ่มปลดกางเกงของตนเองออก
กางเกงราคาแพงที่สวมใส่ถูกปลดลงมาถึงแค่หัวเข่า ไม่คิดถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกเพราะคิวากรตั้งใจแค่เพียงปลดปล่อยแก่นกายให้เป็นอิสระ แล้วพุ่งพรวดมอบความเป็นสามีให้กับฟ้าครามและสำเร็จความใคร่ของตนเองก็ถือว่าจบเกมแล้ว
และขณะกำลังจะก้าวขึ้นบนเตียงเพื่อทำตามแผน ฟ้าคราม...เหยื่อผู้น่าสงสารที่ตกเป็นแค่หมากในเกมของลูกชายมหาเศรษฐี ก็ค่อยๆ ปรือตาขึ้นมอง พร้อมกับยกมือขึ้นทึ้งเสื้อผ้าของตัวเอง
หญิงสาวกำลังถูกฤทธิ์ของยาเสียสาวแล่นงานทั่วร่าง พอมองเห็นคนที่กำลังก้าวขึ้นมาบนเตียงนั่งคร่อมทาบทับร่างของเธออยู่ ก็เอ่ยเรียกเสียงกระเส่า แถมยังยกมือขึ้นขยุ้มเสื้อดึงร่างของคิวากรให้โน้มเข้าหาตัวเธอด้วย
“คุณ...คิวา...ร้อน...ฉันร้อน...ช่วยฉันด้วย”
“ได้! แล้วผมจะมอบความเป็นผัวให้กับคุณเอง”
ทั้งๆ ที่รู้ว่าฟ้าครามครางร้องขอเพราะฤทธิ์ของยาเสียสาว แต่กระนั้นคิวากรก็รับคำเสียงห้วน ไม่คิดจูบเล้าโลมปลุกเร้าอารมณ์ของหญิงสาว เขาต้องการแค่เพียงมอบความเป็นสามีชั่วคราวให้กับเธอเท่านั้น จึงกระชากกางเกงยีนส์สีซีดออกจากร่างบาง ไม่ปลดเปลื้องเสื้อผ้าไปมากกว่านี้
แต่คนที่ถูกฤทธิ์ของยาเสียสาวแล่นงานทั่วทุกอณูของเส้นเลือด เสื้อผ้าที่สวมใส่เสียดสีกับร่างกายจนร้อนรุ่มไปหมด ได้ถอดเสื้อยืดคอกลมตามด้วยบราเซียร์ผ้าลูกไม้สีขาวของตนเองทิ้ง แถมยังยกสะโพกขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้คิวากรถอดกางเกงยีนส์รัดรูปออกจากสะโพกได้อย่างง่ายๆ ด้วย
จากที่คิดว่าสาวบ้านนอกคงไม่น่ากินสักเท่าไร ร่างเล็กๆ คงเป็นเหมือนไม้กระดาน แต่พอฟ้าครามกระชากเสื้อผ้าของตัวเองออกเพราะฤทธิ์ของยานรก เมื่อดวงตาคมกริบมองปะทะกับหน้าอกกลมเต็งตึงตามธรรมชาติ ไม่มีหย่อนยานเพราะผ่านงานมาหลายมือเหมือนสาวๆ ที่ตนเคยมีเซ็กด้วย แถมยอดถันพอเหมาะพอเจาะกับริมฝีปากมีสีชมพูแดงระเรื่อ กำลังสั่นไหวกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจรัวเร็วของผู้เป็นเจ้าของ ก็ถึงกับหลุดเสียงครางออกมา
“โอ้ววว...บ้าชะมัด ไม่นึกว่าเธอจะซ่อนรูปขนาดนี้”
มือใหญ่ไม่รอช้า คว้าหมับที่ปทุมถันทั้งสอง บีบขย้ำฟอนเฟ้นพร้อมกับสูดปากครางด้วยความเสียวซ่านผสมโรงกับเสียงร้องครวญครางของฟ้าคราม ที่หวีดเสียงครางกับคลื่นไฟสวาทซึ่งก่อเกิดขึ้นในตัวทั้งด้วยฤทธิ์ของยา และด้วยฤทธิ์ของฝ่ามือของคิวากร
“โอ้ววว...จูบ...จูบ...ฉัน...ช่วยฉันด้วย...ทรมานเหลือเกิน...”
ฟ้าครามครวญครางดังลั่น แอ่นหน้าอกเข้าหาเพื่อให้คิวากรฟอนเฟ้นได้ถนัดมือ เท่านั้นยังไม่พอ ยังหยัดสะโพกขึ้นสูง เหยียดเท้าออกกว้างเพื่อให้คิวากรช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความทรมานอันร้อนรุ่ม
และด้วยท่วงท่าแหวกเท้าของตัวเองออกกว้าง ก็ทำให้คิวากรได้เห็นเนินเนื้ออวบอิ่มเนียนลออได้อย่างถนัดตา ติ่งสวางแดงระเรื่อ กลีบดอกสวาททั้งสองที่เต็งตึงน่าดูดกลืนกินทำให้คิวากรต้องคำรามลั่น และก็อดใจไม่ไหว ฉกริมฝีปากและลิ้นร้อนเข้าหาเนินเนื้ออวบอิ่ม ตวัดดูดโลมเลียติ่งสวาทรวมทั้งกลีบดอกไม้ทั้งสองข้างอย่างที่ไม่เคยทำกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน
“โอ้ววว...หอมหวาน...โอ้ววว...”
ไม่มีกลิ่นโคลนสาบควายดั่งที่เคยปรามาสไว้ตั้งแต่แรก ทันทีที่ลดริมฝีปากและฉกลิ้นร้อนๆ เข้าดูดโลมเลียทั่วดอกไม้สวาทและติ่งของความหฤหรรษ์สีแดงระเรื่อ คิวากรก็พานพบแต่ความเสียวซ่านสุดกำลัง กลิ่นกายสาวที่หอมยั่วยวน มีกลิ่นแป้งเด็กอ่อนๆ โชยมาปะทะจมูกยิ่งกระตุ้นให้เลือดในกายของเขาร้อนระอุมากกว่าเดิม
“ฟ้าคราม...โอ้วววว...ไม่นึกว่าคุณจะหอมหวานถึงเพียงนี้”
คิวากรคำรามไม่หยุดปาก และลิ้นร้อนไม่หยุดทำหน้าที่เช่นเดียวกัน กวาดขึ้นลงตามร่องสวาทอันหอมยั่วยวนใจ ตบท้ายด้วยการดูดเม้มติ่งสวาทหนักหน่วงจนแก้มตอบเข้าหากัน ส่งให้ผู้เป็นเจ้าของต้องหวีดเสียงครวญครางดังลั่นห้อง
“โอ้ววว...อ้าร์...ซี๊ดด...”
ฟ้าครามครางกระเส่า สูดปากดังลั่นราวกับกำลังซดน้ำแกงอันเอร็ดอร่อย มือเล็กเอื้อมกดศีรษะของคิวากรให้แนบชิดกับเนินสวาทให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ขณะเดียวกันก็แยกเท้าหยัดสะโพกขึ้นเพื่อให้ลิ้นร้อนๆ ดูดโลมเลียได้อย่างถนัดถนี่ที่สุด
“โอ้วว...ฟ้าคราม...ผมทนไม่ไหวแล้ว...คุณน่ากินชะมัด...”
คิวากรลืมคำว่าบ้านนอก ลืมคำว่าเหม็นกลิ่นโคลนสาบควายจนหมดสิ้น นาทีนี้เขาจดจำได้แค่เพียงความหอมหวานจากกายสาว จดจำได้แค่เพียงความเสียวซ่านที่ได้รับจากฟ้าคราม
และทันทีที่ผละใบหน้าออกจากดอกไม้สวาทอันหอมหวานแล้วแทนที่ด้วยแก่นกายลำใหญ่ที่พุ่งพรวดเข้าสู่โพรงสวาท ก็ต้องแหงนศีรษะคำรามลั่นมากกว่าเดิมกับความคับแน่นที่ตอดรัดทั่วอณูของแก่นกาย ขณะเดียวกันก็กัดเม้มริมฝีปากเพื่อข่มความเสียวซ่านไว้สุดกำลัง เพราะความบริสุทธิ์ที่ไม่เคยต้องมือชายใดมาก่อน กำลังจะทำให้เขาระเบิดสู่ความหฤหรรษ์ก่อนเวลาอันควร
“โอ้วว...อ้าร์...ผม...ผมเป็นคนแรกของคุณใช่ไหม...”
ทั้งๆ ที่รู้คำตอบได้ด้วยตัวเอง แต่กระนั้นคิวากรก็หลุดเสียงครางถาม และด้วยไม่อยากให้ความเจ็บปวดต้องเกิดขึ้นกับฟ้าครามหลายครั้ง จึงกดแก่นกายแข็งขึงให้พุ่งหลาวอีกครั้งจนทะลุเนื้อเยื่อแห่งความบริสุทธิ์เข้าไปจมดิ่งดำลึกอยู่ในโพรงสวาทจนหมดลำของความใหญ่โต
ฟ้าครามอ้าปากค้าง เบิกตาโพลงกับความเจ็บแปลบที่วิ่งเข้าหา อยากผลักร่างใหญ่ให้ถอยออกห่าง แต่ขณะเดียวกัน...ฤทธิ์ของยาเสียสาวก็ทำให้เธอต้องยกมือขึ้นโอบรอบลำคอของคิวากรไว้แน่น แล้วทำได้แค่เพียงหยัดกายให้แนบชิดกับท่อนเนื้อลำใหญ่ หวีดเสียงครวญครางดังลั่น ทั้งด้วยความเจ็บปวดทั้งด้วยความเสียวซ่าน
“คุณคิวา...โอ้ววว...โอ้ววว...ทรมานเหลือเกิน...อ้าร์...”
คิวากรอยากเยื้อเวลาในการเสพสุขให้เนิ่นนานกว่าที่เป็นอยู่ อยากกดแช่ท่อนเนื้อให้จมดิ่งอยู่ในโพรงสวาทให้เนิ่นนาน เพื่อให้ความเจ็บแปลบที่ก่อเกิดกับผู้เป็นเจ้าของได้จางหายไป อยากให้ฟ้าครามได้รับรู้ถึงตัวตนของเขาที่สอดแทรกอยู่ในตัวเธอ แต่เพราะความคับแน่นของดอกไม้สวาทที่ไม่เคยต้องชายใดมาก่อนได้ตอดรัดทั่วทุกอณูของท่อนเนื้อ และยิ่งได้ยินเสียงสูดปากร้องครวญครางเพราะความเสียวซ่านจากปากของฟ้าคราม ก็ทำให้เขาไม่อาจทนได้อีกต่อไปแล้ว
มือใหญ่จัดจับยึดตรงเอวเล็กทั้งสอง กดแก่นกายโรมรันโลดแล่นอยู่บนเรือนร่างอรชรอันหอมหวานไม่มีหยุด ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย
ทั้งคิวากรและฟ้าครามต่างก็สูดปากแข่งกัน หวีดเสียงครางดังลั่นห้อง โดยที่ไม่รู้เลยว่าในขณะที่เขากำลังตักตวงความสุขหฤหรรษ์อยู่กับฟ้าครามนั้น เพื่อนชั่วทั้งสองได้แอบย่องเข้ามาในห้องนอน และบันทึกวีดีโอคลิปไว้หมดแล้ว...