บทที่ 4 (2)
จักรินและภูริศย่องเข้ามาในห้องนอนของคิวากรอีกครั้ง และก็ตั้งหน้าตั้งตาหยิบโทรศัพท์ของตนเองขึ้นมาบันทึกคลิปวีดีโอไว้สำหรับแบล็คเมล์คิวากรในภายหลัง
เมื่อได้วีดีโอคลิปฉบับเต็มเกือบสามสิบนาทีไว้เป็นหลักฐานแล้ว ทั้งภูริศและจักรินก็สะกิดกันย่องออกจากห้องพักของคิวากร ก่อนที่เพื่อนคนนี้จะเสร็จสุขสมในภาระกิจหลอกเชือดฟ้าคราม
พอกลับเข้ามานั่งในรถยนต์แล้ว ภูริศก็กดเปิดดูคลิปที่บันทึกไว้ และก็อดบ่นไม่ได้เพราะในห้องนอนมีแสงสว่างจากหัวเตียงนอนเท่านั้น ทำให้เห็นภาพใบหน้าของคิวากรและฟ้าครามได้ไม่ชัดเท่าที่ควร
“เสียดายชะมัดที่ไอ้คิวามันปิดไฟ ไม่ยังงั้นมันกับยัยบ้านนอกคงได้เป็นพระเอกนางเอกหนังโป๊ชัดกว่านี้”
“กูก็เสียดายเหมือนกัน ไอ้คิวาคงคิดว่าไม่อยากเห็นหน้ายัยบ้านนอกในขณะที่กำลังจิ้มนังนี่อยู่ ก็เลยปิดไฟซะเลย”
เอ่ยพูดแล้วจักรินก็หัวเราะร่วน ดวงตาทั้งคู่ยังจับจ้องมองคลิปในโทรศัพท์มือถือที่ภูริศได้เปิดดูซ้ำอีกรอบ
“เห็นหน้าไม่ชัดก็ไม่เป็นไร แต่ยังดีที่ไอ้คิวากับนังบ้านนอกพากันครางลั่นห้อง แถมไว้
คิวามันเรียกชื่อของนังฟ้าครามด้วย ซึ่งมันเป็นหลักฐานชั้นดีที่พวกเราจะใช้เรียกเงินก้อนโตจากไอ้คิวา”
“ถูกต้อง”
จักรินสนับสนุนคำพูดของภูริศ ก่อนจะบอกต่อด้วยแววตาชั่วร้าย เป็นงูพิษที่คอยแว้งกัดคิวากรในตลอดเวลา
“ไอ้คิวามันครางกระเส่าลั่นห้อง สงสัยถูกใจยัยฟ้าครามมาก และก็นับว่าเป็นความโชคดีของพวกเราที่มันเสือกเรียกชื่อของนังฟ้าครามตลอดเวลา ถ้าเราเอาคลิปนี้ไปขู่มันว่ามันข่มขืน
นังฟ้าคราม พวกเราก็จะได้เงินก้อนโตจากไอ้คิวาโดยไม่ต้องสงสัย”
“ฮ่าๆๆ กูเชื่อแล้วกับสุภาษิตที่ว่าคนโง่ย่อมตกเป็นเหยื่อของคนฉลาด” ภูริศแหงนศีรษะหัวเราะลั่นรถ
“และไอ้คิวาก็คือคนโง่ที่ตกเป็นเหยื่อของพวกเรา” จักรินแสยะยิ้มกับคำพูดของเพื่อน
“งานนี้เราได้รวยเละแน่ ไอ้คิวาต้องจ่ายอย่างต่ำๆ ล้านหรือสองล้าน เพื่อแลกกับคลิปที่อยู่ในมือของพวกเรา”
“ใช่! เซฟคลิปเก็บไว้ให้ดีนะมึง ถ้าโทรศัพท์มึงถูกไวรัสแดกก็จบเห่กันพอดี” จักรินเตือนเพื่อนร่วมแก๊งชั่ว
และภูริศก็พยักหน้ารับในทันที “กลับถึงบ้านเมื่อไรกูจะเซฟคลิปเก็บไว้ สำรองไฟล์ไว้สักสิบไฟล์ก็น่าจะพอ”
“ไอ้คิวาได้กระอักเลือดเพราะความแค้นก็คราวนี้นี่แหละ”
จักรินมั่นใจว่าลูกชายของมหาเศรษฐีชื่อดังจะต้องมีความรู้สึกเช่นนั้นแน่นอน ในตอนเห็นคลิปที่พวกเขาได้บันทึกไว้
“แต่มันก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้ เพราะมันเสือกข่มขืนยัยฟ้าคราม และเราก็มีหลักฐานไว้มัดมือมันด้วยสิ”
ภูริศแสยะยิ้มด้วยความสะใจ ส่วนจักรินก็แหงนศีรษะหัวเราะดังลั่นรถ เห็นเงินล้านลอยอยู่รำไร
“ฮ่าๆ กูอยากเห็นหน้าไอ้คิวาตอนที่พวกเราเอาคลิปไปรีดไถ่เงินจากมันจริงๆ”
“กูนี่แทบทนรอเวลานั้นไม่ไหว” ภูริศหัวเราะลั่นผสมโรงอีกคน ก่อนจะบอกกับเพื่อนชั่วว่า “กลับไปดื่มฉลองที่งานเลี้ยงต่อเถอะวะ มีแชมเปญและสาวๆ ให้เรามั่วไม่มีหมด ไม่เมา ไม่กลับ”
“ไม่เมาอ้วกแตกไม่กลับ”
จักรินรับคำกลั้วเสียงหัวเราะ ยื่นหมัดไปชนกับภูริศ ก่อนจะทำหน้าที่เป็นพลขับเคลื่อนรถยนต์กลับไปที่ร้านอาหารซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงจบการศึกษาอีกครั้ง
เพราะไว้ใจและคิดว่าทั้งจักรินและภูริศเป็นเพื่อนที่ดีกับตนเสมอ คิวากรจึงไม่ได้ระแวด
ระวังและทำตามคำท้าทายของเพื่อนทั้งสอง โดยไม่รู้ว่าถูกแอบบันทึกวีดีโอคลิปในขณะที่ตนกำลังเริงรักอยู่กับฟ้าคราม
เมื่อความใคร่ถูกบำบัดลงด้วยการปลดปล่อยลาวาร้อนเข้าสู่โพรงสวาทจนหมดสิ้น
คิวากรก็ทิ้งตัวซาซบอยู่กับซอกคอพราวด้วยเม็ดเหงื่อของฟ้าคราม ความกระสั่นซ่านยังอาบลึกอยู่ทั่วเรือนกายอย่างไม่เคยได้รับจากหญิงสาวคนไหนมาก่อน จนต้องสูดปากอยู่ในตลอดเวลา ก่อนจะยื่นหน้ากดจูบลงบนเรียวปากอิ่มหวานฉ่ำ กระซิบบอกคนในอ้อมแขนเสียงอ่อนโยนโดยไม่รู้ตัว
“นอนพักซะฟ้าคราม ผมให้คุณพักสามสิบนาที ก่อนจะออกศึกกับผมอีกครั้งตลอดทั้งคืนนี้”
ฟ้าครามพยักหน้ารับด้วยความมึนงง แต่ไม่ได้ทำตามคำกระซิบบอกของคิวากร คนที่ไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์ยังถูกฤทธิ์ของแชมเปญและยาเสียสาวเล่นงานอยู่ จึงโอบมือเล็กไปบนแผ่นหลังและบนสะโพกแข็งแกร่งของคิวากร จากนั้นก็กรีดเล็บพร้อมกับพยายามยื่นปากจูบสะเปะ
สะปะบนริมฝีปากร้อน
และนั่นทำให้คิวากรร้อนรุ่มขึ้นมาอีกครั้ง จากที่ตั้งใจจะนอนพักสักครู่ก็เปลี่ยนใจแล้ว ร่างใหญ่ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้าง ก่อนจะดึงร่างบางให้เป็นฝ่ายขึ้นควบขับบ้าง โดยมีเขาเป็นกูรูคอยชี้ทางให้ใช้ปากและลิ้นนุ่มอย่างไร เพื่อทำให้เขาคลั่งได้ในทุกหยาดหยดเลือด