ตอนที่ 3 (2)
ไม่จำเป็นต้องได้ยินถ้อยคำเยาะเย้ยถากถาง แค่เพียงสายตาของบรรดาเพื่อนร่วมแก๊ง รวมทั้งตัวคิวากรได้จ้องเขม็งมาที่เธอแล้วพากันหัวเราะร่วนด้วยความสนุกสนาน ฟ้าครามก็รับรู้ได้ว่าเธอกำลังตกเป็นหัวข้อการนินทาของพวกเขาและพวกเธอเหล่านั้น
ถึงแม้จะหิวจนไส้กิ่วมากเพียงใด จู่ๆ ลำคอก็เกิดอาการตีบตันทำท่าจะกลืนอาหารไม่ลง จึงตักอาหารมาแค่เพียงนิดเดียวแล้วรีบเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ นั่งหันหลังให้กลุ่มของคิวากร แล้วบอกกับเพื่อนทั้งสองว่า
“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วฟ้าจะกลับเลยนะ”
“อ้าว! ทำไมกลับเร็วนักละ ฟ้าเพิ่งมาถึงเอง”
อัจฉราร้องถามหลังจากฟ้าครามได้บอกถึงความต้องการ และประภาพรก็เอ่ยทักท้วงอีกคน
“นั่นนะสิ ทำไมกลับเร็วจัง ฟ้าไม่รอกลับพร้อมกับพวกเราหรือ”
ประภาพรยังไม่เปิดโอกาสให้ฟ้าครามได้ตอบคำถาม ก็บอกตัวถึงไฮไลท์ของงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ว่า
“รู้ไหมว่าคิวาเขาจ้างนักร้องวงร็อคให้มาเล่นมินิคอนเสิร์ตในคืนนี้ด้วย”
“ใช่! ไม่รวยจริง ทำไมไม่ได้ เพราะนักร้องคนนี้มีคิวแน่นตลอดทั้งเดือน แต่คิวาก็สามารถฉกตัวเขาให้มาเล่นมินิคอนเสิร์ตในคืนนี้ได้”
อัจฉราและประภาพรต่างก็รอเวลาที่นักร้องวงร็อคชื่อดังของเมืองไทยจะเดินทางมาถึงและเปิดมินิคอนเสิร์ต ซึ่งเพื่อนคนอื่นๆ ก็รอเวลานี้เช่นเดียวกัน
และต่างก็อดอึ้งไม่ได้ที่คิวากรสามารถลัดคิวให้นักร้องคนนี้มาเล่นคอนเสิร์ตให้พวกเธอได้โยกหัวในค่ำคืนนี้ได้ เพราะนักร้องคนนี้นอกจากคิวแน่นตลอดทั้งปีแล้ว ค่าตัวก็แพงเอาการ
“เรามีสอนพิเศษตอนเจ็ดโมงเช้า ถ้ากลับดึกเรากลัวว่าจะตื่นไปสอนไม่ทัน บ้านเด็กอยู่ไกลจากหอของเรามาก”
ฟ้าครามจำต้องโกหกเพื่อนสนิททั้งสอง ซึ่งเหตุผลหลักที่ไม่อยากอยู่ในงานเลี้ยงต่อเพราะไม่อยากเป็นตัวตลกให้แก๊งก๊วนของคิวากรและตัวคิวากรหัวเราะเยาะเธอราวกับเป็นตัวตลก ซึ่งทั้งอัจฉราและประภาพรก็เชื่อสนิทใจ เพราะเพื่อนทั้งสองต่างก็รู้ดีว่าเธอรับสอนพิเศษด้วย
“ถ้ายังงั้นก็แล้วแต่ฟ้า เรากับอัจฉราจะอยู่จนกว่างานเลี้ยงจะเลิก จริงไหมเธอ!”
ประภาพรหันไปตีต้นแขนของเพื่อนเบาๆ ขณะเอ่ยถาม และอัจฉราก็ยิ้มร่าพยักหน้ารับในทันที
“ใช่แล้ว งานเลี้ยงไม่เลิก เราไม่กลับ ดื่มฟรี กินฟรี มีนักร้องมาเปิดคอนเสิร์ตให้ดูฟรีๆ ด้วย หาได้ที่ไหนละ”
ฟ้าครามพยักหน้าให้เพื่อนทั้งสอง ไม่ทันได้เอ่ยพูดอะไรต่อ ก็ได้ยินเสียงบรรดาเพื่อนสาวๆ ร้องกรี๊ดดังลั่น ประภาพรและอัจฉราก็ร่วมวงด้วย ทั้งสองร้องกรี๊ดแล้วรีบลุกขึ้นวิ่งตรงไปยังหน้าเวทีอย่างรวดเร็ว
“นักร้องมาแล้ว อัจฉราไปเร็ว เดี๋ยวไม่ได้อยู่หน้าเวที”
ไม่ต้องรอให้เพื่อนบอกซ้ำ อัจฉราวิ่งตามประภาพรตรงไปยังเวที ซึ่งตอนนี้นักร้องวง
ร็อคชื่อดังได้เดินทางมาถึงร้านอาหารแล้ว และกำลังทักทายกับบรรดาว่าที่บัณฑิตจบใหม่อย่างเป็นกันเอง
ฟ้าครามถอนหายใจลึกมองตามเพื่อนทั้งสอง และก็อดไม่ได้ที่จะเอี้ยวตัวหันไปมองยังโต๊ะที่คิวากรนั่งอยู่กับผองเพื่อน ซึ่งตอนนี้ไม่เห็นคิวากรแล้ว คงมีแค่ภูริศกับจักรินเท่านั้น
“รีบกินรีบกลับดีกว่าเรา”
ฟ้าครามบอกกับตัวเองอีกครั้ง จากนั้นก็ตักอาหารที่มีอยู่แค่เพียงนิดเดียวส่งเข้าปาก
แต่...กินอาหารไม่ทันหมด ก็ต้องเงยหน้าขึ้น เมื่อเพื่อนสนิทของคิวากรนั่นก็คือจักรินและภูริศได้ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเธอ
ภูริศกับจักรินเริ่มดำเนินแผนชั่วแล้ว พวกเขาถือแก้วแชมเปญของตัวเอง และอีกแก้วที่พิเศษสุดสำหรับฟ้าครามเดินตรงมาหาเหยื่อสาว จากนั้นก็ทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามแล้วคลี่ยิ้มกว้างที่อาบไปด้วยยาพิษให้กับหญิงสาว ที่เงยหน้าขึ้นมองพวกเขาด้วยสายตาหวาดๆ
“สวัสดีฟ้า พวกเรานึกว่าคุณจะไม่มาร่วมงานเลี้ยงในวันนี้”
ภูริศเป็นฝ่ายเริ่มก่อน นอกจากจะทักทายด้วยน้ำเสียงฟังดูเป็นกันเองแล้วยังยิ้มกว้างให้กับฟ้าครามด้วย
ฟ้าครามวางช้อนในมือลง เกิดอาการอึดอัดกับสายตาของเพื่อนร่วมคณะทั้งสองคนนี้ และในหัวเต็มไปด้วยคำถามว่าพวกเขามาพูดคุยด้วยทำไม เพราะปกติแล้วพวกเขาทั้งสองไม่เคยเข้ามาข้องแวะหรือทักทายกับเธอ แม้จะเรียนคณะเดียวกันก็ตาม
“เอ่อ...ค่ะ แต่กำลังจะกลับแล้วค่ะ”
“อ้าว...ทำไมกลับเร็วนักละครับ เพิ่งสองทุ่มกว่าเองนะครับ”
จักรินแสร้งร้องด้วยความผิดหวัง ในใจนั้นนึกเยาะคนที่กำลังจะตกเป็นอาหารอันโอชะของคิวากร
ฟ้าครามขยับตัวนั่งอยู่ไม่เป็นสุข อยากให้จักรินและภูริศลุกออกจากที่นั่งสักที เธอจะได้กลับหอพัก เพราะรู้ตัวว่าตัวเองไม่เหมาะที่จะอยู่ร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้
“พรุ่งนี้มีสอนพิเศษแต่เช้า ก็เลยอยากกลับไปเตรียมแผนการสอนนะคะ”
“อ๋อ...ครับ พวกเราได้ยินอยู่ว่าฟ้ารับสอนพิเศษให้เด็กๆ ด้วย”
จักรินพูดไปตามน้ำขณะหันไปพยักพเยิดให้กับภูริศ ซึ่งจริงๆ แล้วพวกเขาไม่เคยรู้เรื่องและไม่เคยสนใจเกี่ยวกับวิถีชีวิตของสาวบ้านนอกคนนี้เลย
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฟ้าขอตัวกลับก่อนนะคะ”
ภูริศรีบเอื้อมมือไปจับต้นแขนของฟ้าครามไว้เมื่อหญิงสาวทำท่าจะลุกจากเก้าอี้ “อย่าเพิ่งกลับสิครับ นั่งลงคุยกันก่อนครับ”
“ใช่ครับ อย่าเพิ่งกลับเลย พวกเรามีของขวัญจะให้ฟ้าด้วย ที่ฟ้าสอบชิงทุนไปเรียนต่อปริญญาโทและปริญญาเอกที่อเมริกาได้”