2
Chapter 2
จึงไม่อยากจะสุงสิงกับเขาเลยสักนิด เธอไม่เคยลืมว่าสมัยเป็นเด็ก เขาชอบรังแกเธอขนาดไหน
แทนคุณชอบมาแกล้งดึงผมเปียเธออยู่บ่อยๆ หัวเราะเยาะเธอทุกครั้งเวลาเธอทำอะไรผิดพลาด
“ซื้ออะไรแล้วมันยุ่งอะไรกับนาย กรุณาหลีกไปด้วย”
พนิดาพูดอย่างถือดีมองเขาแบบไม่เกรงกลัวสักนิด
“ดุจริงๆ น้องพริกหวาน”
แทนคุณพูดพร้อมทั้งลูบปลายคางไปมาอย่างกวนๆ
“จะดุไม่ดุไม่เกี่ยวอะไรกับนาย”
พนิดาว่าใส่เขาด้วยความหงุดหงิดที่เขาไม่ยอมถอยไปสักที
“เกี่ยวสิ ทำไมจะไม่เกี่ยว เพราะอนาคตแม่ของลูกพี่ดุอย่างนี้ พี่ต้องเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้”
“ไอ้บ้า! พูดจาทุเรศ ใครจะไปเป็นแม่ของลูกนาย”
พนิดาหน้าแดงในคำพูดของเขา
“ทุเรศตรงไหนพี่พูดเรื่องจริง”
แทนคุณเอามือลูบปลายคางไปมาอย่างกวนอารมณ์หญิงสาวไม่เลิกรา
“เรื่องจริงอะไรของนาย”
พนิดาถามด้วยความโมโหจัด จนหน้าแดงก่ำไปหมด
“ลืมไปแล้วเรอะ ที่พี่เคยพูดเอาไว้”
แทนคุณเน้นยำในคำพูดที่เขาเคยพูดกับเธอ ตอนที่เธอแตกเนื้อสาวว่าห้ามเธอมีใครเพราะเธอจะต้องเป็นเมียของเขาคนเดียวเท่านั้น
“ทำไมจะต้องลืม เพราะไม่เคยจำด้วยซ้ำ”
พนิดาเชิดหน้าตอบอย่างถือดี แทนคุณหรี่ตามองหญิงสาวอย่างไม่ชอบใจ ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในตลาดผู้คนจอแจหรือเธอพาลูกน้องมาเยอะเช่นนี้ เขาจะลากไปปล้ำทำเมียเสียให้เข็ด
“ปากดีนักนะ”
แทนคุณกระชากร่างอรชรเข้ามาปะทะกับอกกว้าง
ลูกน้องที่กำลังมองหน้ากันอยู่ทำท่าว่าจะฆ่ากันตายเพราะเจ้านายที่กำลังเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ลูกน้องของแทนคุณและพนิดาคุ้นชินกับเหตุการณ์เช่นนี้มาเนิ่นนานเพราะทั้งสองเจอกันที่ไหนก็ต้องทะเลาะกันทุกคราไป มีเพียงช่วงหนึ่งเท่านั้นที่ทั้งสองไม่ได้ทะเลาะกัน ตอนที่แทนคุณไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่เมื่อกลับมาเพียงไม่กี่วัน ไดเจอกันใหม่ ก็ยังทะเลาะกันอีกเช่นเดิม
“ปล่อย!”
พนิดาพยายามกระชากมือออกจากมือหนาที่จับเธออย่างแนบแน่น แต่เขาหาปล่อยไม่
“ไม่ปล่อยจะทำไม”
แทนคุณพูดอย่างไม่สนใจว่าเธอจะมีลูกน้องมากมายขนาดไหนเพราะเขาไม่เคยเกรงกลัวเลยสักนิด
“นายหัวแทนคุณ กรุณาปล่อยคุณหนูของเราด้วย”
หย้งกับจอมที่รักนายสาวยิ่งชีวิตเตือนแทนคุณอย่างไม่เกรงกลัวเช่นกัน
“อย่าเสือก!”
แทนคุณหันไปตวาดลูกน้องคนสนิทของพนิดาอย่างวางอำนาจ
“ปล่อย”
พนิดาดิ้นรนสะบัดแขนบอบบางอีกครั้ง ครั้งนี้แทนคุณยอมปล่อยแต่โดยดี
“ที่ปล่อยเพราะไม่ใช่ว่ากลัวลูกน้องของเธอ แต่ที่พี่ปล่อยเพราะที่นี่ไม่เหมาะที่จะฉุดเธอไปทำเมีย”
แทนคุณพูดอย่างยั่วโมโหไม่เลิก พนิดาสะบัดหน้าไปทางอื่นอย่างเกลียดขี้หน้าเขาจับใจ
“ไปกันเถอะค่ะคุณหนู”
เอิบบอกนายสาวเสียงแผ่วเพราะดูๆ ไป ถ้ายังไม่ไปจากตรงนี้คงมีเรื่องเป็นแน่
“ค่ะป้า”
พนิดารับคำ จูงมือป้าเอิบเดินไปซื้อของต่อ โดยมีสายตาของแทนคุณมองตามร่างอรชรไปอย่างหมายมาด
เขาคิดในใจว่าคงจะมีเธอเพียงคนเดียวในโลกนี้ที่มองเมินเขา ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยได้รับการปฏิเสธจากหญิงสาวคนใดมาก่อน ความอยากเอาชนะหญิงสาวตรงหน้าปะทุขึ้นมาแทบล้นอก
“แล้วเราจะได้เห็นดีกันพริกหวาน ที่เธอกล้ามาทำหยิ่งยโสใส่พี่”
แทนคุณหันไปพยักหน้ากับลูกน้องคนสนิทให้เดินตามเขาไปเพื่อสำรวจตลาดอีกครา ลูกน้องคนอื่นๆ เดินตามเจ้านายหนุ่มอยู่ไม่ห่าง
“จะดีเหรอคะคุณหนู ไล่ลูกน้องไปหมดแบบนั้น”
เอิบพูดอย่างไม่เห็นด้วยเมื่อพนิดาไล่ลูกน้องไปหมดและให้เหตุผลว่ารู้สึกไม่เป็นส่วนตัวที่จะมีใครเดินตาม แต่โชคดีที่เอาหย้งกับจอมตามมาด้วย เพื่อมาถือของให้
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะป้าเอิบ”
พนิดาบอกเสียงสดใสให้ท่านคลายความกังวล
“นายหัวแทนคุณน่ากลัวจังค่ะคุณหนู ป้าคิดดูแล้ว เหมือนเขาจงใจจะหาเรื่องคุณหนูนะคะ”
เอิบแสดงความคิดเห็นเมื่อเดินมาจับจ่ายซื้อของต่อ
“จะไปกลัวเขาทำไมคะป้า หนูไม่เห็นจะกลัวเขาสักนิด”
พนิดาพูดอย่างไม่เกรงกลัวดังใจคิด
“ป้าว่าคุณหนูระวังตัวไว้ก็ดีนะคะ อย่าไปไหนคนเดียว ป้ารู้สึกว่าสายตาที่เขามองคุณหนูมันดูแปลกๆ ชอบกล”
เอิบแสดงความคิดเห็นอย่างตั้งข้อสังเกต นางอาบน้ำร้อนมาก่อน จึงรู้ว่าแทนคุณกำลังคิดเช่นไรกับนายสาว และสิ่งที่ชายหนุ่มคิดไม่มีวันเป็นไปได้เพราะทั้งสองตระกูลไม่ถูกกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตาทวด
“ไม่เห็นจะต้องไปสนใจเลยค่ะป้า เราอย่าพูดถึงเขาเลยค่ะ พูดถึงทีไรหนูหงุดหงิดทุกที” พนิดาตัดบทอย่างไม่ใส่ใจ
“วันนี้คุณหนูอยากทานอะไรคะ”
ป้าเอิบเปลี่ยนเรื่องตามนายสาวเพราะรู้ว่าพนิดาไม่อยากพูดถึงแทนคุณ
“อยากทานหลายอย่างค่ะป้า พูดแล้วหิวเลย”
พนิดาพูดอย่างอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างเมื่อเปลี่ยนเรื่องคุย
“เราเดินไปดูตรงทางฝั่งโน้นกันดีกว่าค่ะคุณหนู”
ป้าเอิบชวนหญิงสาว
“ค่ะป้า” พนิดารับคำยิ้มๆ
“วันนี้คนเยอะดีนะคะคุณหนู”
ป้าเอิบพูดกับหญิงสาวขณะเดินเลือกซื้อของโดยมีลูกน้องคนสนิทเดินตามไม่ห่าง
“ค่ะป้า วันนี้ของสดนะคะ หนูอยากทานแกงเลียงแล้วแกงไตปลาจังเลยค่ะ” พนิดากอดแขนป้าเอิบอย่างประจบประแจง
“ค่ะคุณหนู เดี๋ยวป้าจะเลือกวัตถุดิบไปทำให้แล้วกัน ผักที่บ้านเราเยอะ ไม่ต้องซื้อหรอกค่ะ”
พนิดาเดินเลือกซื้อของกับเอิบอย่างเพลิดเพลินจนเกือบครบทุกอย่าง
“ว้าว... น้องพริกหวานคนสวย ไม่ได้เจอกันเสียนาน วันนี้เราคงมีวาสนาต่อกันเป็นแน่แท้”
โตมอญ บุตรชายของนายหัวตะวันพูดกับหญิงสาวเสียงหวาน พร้อมทั้งไล่สายตาโลมเลียไปทั่วร่างงามอรชรของพนิดาอย่างหื่นๆ
หญิงสาวมองกลับอย่างไม่ชอบขี้หน้า เพราะนอกจากที่เขาจะชอบเบ่งก้ามใหญ่โตแล้ว ครอบครัวของเขาเบื้องหลังยังประกอบอาชีพทุจริต เปิดบ่อนการพนัน เปิดซ่อง ที่ร้ายกว่านั้นเขายังเจ้าชู้อย่างร้ายกาจ แถมครอบครัวยังเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่สำคัญของครอบครัวเธออีกด้วย
“ใครอยากมีวาสนากับคนอย่างนาย”
พนิดาโต้กลับอย่างไม่ชอบใจ หญิงสาวจูงมือป้าเอิบเลี่ยงไปอีกทาง ไม่อยากจะคุยด้วย
“จะรีบไปไหนล่ะน้องพริกหวานคุยกับพี่ก่อน”
โตมอญฉุดแขนเรียวของหญิงสาวเข้ามาหาอย่างหยาบคาย
หย้งกับจอมลูกน้องคนสนิทจะเข้าไปช่วยนายสาวแต่โดนลูกน้องของโตมอญที่เยอะกว่าล็อกร่างเอาไว้ ทำให้ทั้งสองไม่สามารถช่วยนายสาวได้
“ปล่อย! ไอ้บ้า” พนิดาสะบัดแขนออกอย่างรังเกียจ
“ไม่ปล่อย อย่าดีดดิ้นเล่นตัวไปหน่อยเลย”
โตมอญมองด้วยสายตาลามเลียไม่ปิดบัง หญิงสาวมองกลับอย่างรังเกียจ
“มองพี่ด้วยสายตารังเกียจขนาดนี้เชียวรึ”
โตมอญมองหญิงสาวก่อนหัวเราะเสียงน่าเกลียดเช่นเดิม
“ปล่อย! บอกให้ปล่อยไง”
พนิดาพยายามสะบัดมือให้หลุดจากการเกาะกุมแต่ไม่สำเร็จเพราะโตมอญจับอย่างแน่นหนา
“ปล่อยคุณหนูเถอะค่ะ”
เอิบเข้าไปช่วยเจ้านายสาว จึงโดนผลักเสียหลักล้มลงไป
“ป้าเอิบ! ไอ้คนสารเลว”
พนิดาพยายามสะบัดมือเพื่อจะเข้าไปช่วยป้าเอิบที่ล้มลงไป
“ไม่ต้องชมพี่ขนาดนั้นก็ได้ยาหยี” โตมอญหัวเราะเสียงดังอีกครั้ง
“ไอ้บ้า! โรคจิต”
พนิดาเตะต่อยแต่สู้แรงเขาไม่ไหว ถึงเธอจะมีฝีมือด้านการต่อสู้ แต่ระยะกระชั้นชิดแบบนี้แทบตั้งตัวไม่ทัน
“ปล่อยพริกหวานเดี๋ยวนี้”
เสียงเข้มแสดงถึงพลังอำนาจตวาดมาแต่ไกล ทุกคนหันไปมองตามเสียงนั้น ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยพนิดาเพราะรู้กิตติศัพท์ความโหดร้ายและนักเลงหัวไม้ของโตมอญดี
ส่วนลูกน้องของพนิดา เธอไล่ให้กลับไปรอที่รถเพราะรำคาญที่ต้องมีคนเดินติดตามมามากมายเช่นนี้ รถที่จอดอยู่อีกฟากไกลจากที่เธอซื้อของมากนัก ตลาดในตัวเมืองกว้างขวาง ลูกน้องคนสนิทของหญิงสาวกำลังเสียท่าให้กับลูกน้องนับสิบของโตมอญ