บท
ตั้งค่า

บทที่ 8

เมื่อเมฆินเดินออกมาจากห้องซ้อมเต้น เขารีบเดินตรงไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับผู้ชาย โดยบ่นพึมพำกับตัวเอง

‘ผู้หญิงอะไรทำตัวยั่วยวนกับผู้ชายแปลกหน้าก็ได้พิลึกจริงยายคนนี้’ เขาต้องรู้ให้ได้ว่าเธอเป็นใคร จากนั้นเท้าก็ไวเท่าความคิด เพราะหลังจากที่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เขาก็เดินตรงไปที่ห้องของผู้จัดการส่วนตัวของศิลปิน

“มีใครเห็นดาหลาบ้าง”

“เธอไปเข้าห้องน้ำค่ะ...เดินมาพอดีเลยค่ะ”

“สวัสดีค่ะบอส” ดาหลาเอ่ยทักบอสหนุ่มในขณะที่บอสหนุ่มพยักหน้าตอบ ก่อนที่จะถามถึงสิ่งที่เขาอยากรู้

“ดาหลาผมมีเรื่องจะถาม...คุณรู้จักผู้หญิงที่เข้าไปซ้อมเต้นในห้องซ้อมของบริษัทไหมว่าเขาเป็นใคร”

“น่าจะเป็นธัญญ่านะคะ”

“เขาเป็นใคร”

“ศิลปินหน้าใหม่ที่เพิ่งจะเซ็นสัญญากับบริษัทของเราค่ะ”

“เดี๋ยวคุณเอาประวัติของเธอและตามไปพบผมที่ห้องด้วย ผมต้องการประวัติของเธอภายในสิบนาทีเข้าใจไหม”

“ได้ค่ะเดี๋ยวดิฉันจะรีบจัดการให้ค่ะ”

“ดีมาก” จากนั้นเมฆินก็เดินกลับไปเพื่อขึ้นลิฟต์ที่มีไว้สำหรับผู้บริหารเท่านั้น ชั้นที่เขาทำงานอยู่นั้นเป็นห้องทำงานเฉพาะผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น ใครก็ตามที่ไม่มีธุระอะไรจะขึ้นไปยุ่งย่ามไม่ได้อย่างเด็ดขาด เมื่อชายหนุ่มเดินมาถึงห้องทำงานก็สั่งเลขาว่า ถ้าดาหลามาให้เข้าไปพบได้ทันทีจากนั้นก็เดินเข้าห้องไป ดาหลามาไวทันใจเธอเคาะประตู

ก่อนที่จะเข้าไปพร้อมกับแฟ้มประวัติที่เจ้านายหนุ่มต้องการ

“เข้ามา” เสียงอนุญาตเบาแต่ทรงอำนาจ ดาหลาเดินเข้าไปหน้าโต๊ะทำงานของผู้เป็นนาย และวางแฟ้มที่ถือมาในมือลงบนโต๊ะของชายหนุ่ม

“แฟ้มที่บอสต้องการมาแล้วค่ะ” เขาเงยหน้าจากกองเอกสารพร้อมกับบอกให้เธอนั่งรอ

“นั่งก่อนสิผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ ขอผมเซ็นเอกสารให้เสร็จก่อน” หญิงสาวนั่งลงหน้าโต๊ะทำงานของบอสหนุ่ม เมื่อเขาเซ็นเอกสารเสร็จก็กดอินเตอร์คอม เพื่อบอกให้เลขาเข้ามาเอางานที่เขาเซ็นเสร็จแล้วออกไป

“ผมขอกาแฟสองที่และก็ห้ามใครเข้ามารบกวน ในขณะที่ผมกำลังคุยกับดาหลา” จากนั้นเมฆินหรือ เมฆก็หยิบแฟ้มรายละเอียดที่เขาต้องการมาเปิดดู

“ชื่อธัญญ่า อายุยี่สิบห้าปี เป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เป็นลูกคนเดียวที่เกิดและเติบโตที่อเมริกา” เขาอ่านประวัติของเธอคร่าว ๆ และเงยหน้าขึ้นมามองลูกน้อง แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรกันเลขาก็เอากาแฟมาเสริฟก่อนจะขอตัวออกไปทำงานต่อ

“ดื่มกาแฟก่อนแล้วกันเดี๋ยวค่อยคุยกัน”

“ขอบคุณค่ะ”

“ผู้หญิงคนนี้มาเป็นศิลปินหน้าใหม่ของบริษัทเราได้อย่างไร”

“บอสหมายถึงธัญญ่าเหรอคะ”

“ถ้าคนที่คุณพูดถึงเป็นคนคนเดียวกับคนในแฟ้มนี้ละก็คงจะใช่”

“ธัญญ่าผ่านการออดิชั่นของบริษัทเรา และเธอได้คะแนนสูงสุดนำหน้าคนที่ได้คะแนนรองลงมาอย่างทิ้งห่างหลายช่วงตัว เธอเสียงดีและเต้นเก่งเสียงร้องของเธอมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สำคัญธัญญ่าเคยได้รับรางวัลจากการประกวดเต้นเวทีใหญ่ ๆ ระดับประเทศของอเมริกาด้วยค่ะ ในโพลไฟล์ของเธอก็จะมีระบุไว้อย่างละเอียด และก่อนหน้านี้เธอเคยเป็นแดนซ์เซอร์ให้กับนักร้องชื่อดังของอเมริกามาแล้วหลายคน”

“คุณได้อยู่ด้วยหรือเปล่าตอนที่เขามาออดิชั่น”

“ดิฉันได้เข้าไปดูการตัดสินรอบสุดท้ายค่ะ ธัญญ่ามีความสามารถโดดเด่นเหนือผู้เข้าออดิชั่นคนอื่น ๆ เธอสวยและหุ่นดีเซ็กซี่ตรงตามคอนเซ็ปที่เราวางเอาไว้เลยค่ะ อีกทั้งกรรมการผู้ตัดสินที่ทรงคุณวุฒิก็ลงคะแนนมติเป็นเอกฉันท์ให้เธอเป็นผู้ชนะ”

“แต่ว่าผมยังไม่พอใจ” เมฆินพูดด้วยใบหน้านิ่งเฉยไม่มีรอยยิ้ม และจับอารมณ์ของคนพูดไม่ได้เลยว่าตอนนี้เขามีความรู้สึกยังไง

“แต่ว่าเธอผ่านกระบวนการทดสอบของเราด้วยคะแนนสูงที่สุดเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องที่สามารถร้องได้หลากหลายแนวหรือแม้กระทั่งการเต้น และเธอก็ยังมีรางวัลการันตีมากมายจากอเมริกา ที่สำคัญก็คือเราได้เซ็นสัญญากับเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ ว่าเราจะปั้นให้เธอเป็นศิลปินหน้าใหม่ของบริษัท บอสเองก็เซ็นเอกสารฉบับนั้นแล้วด้วย ตอนนี้ก็เหลือแค่รอศิลปินคู่ดูโอ้ของเธอเท่านั้นเองค่ะ ถ้าเรายกเลิกสัญญากับเธอโดยที่เธอไม่มีความผิดแล้วละก็เราก็จะต้องเสียค่าปรับนะคะ เนื่องจากในสัญญาระบุไว้อย่างชัดเจนว่าถ้าเธอไม่ได้กระทำความผิดหรือละเมิดสัญญา และถ้าเราเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญานั้นซะเอง เราจะต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นค่าเสียเวลาให้กับเธอค่ะ และมันเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว”

“ผมไม่ได้หมายความว่าเราจะล้มเลิกสัญญา เพียงแต่ผมเห็นว่าเธอยังไม่ได้มาตราฐานเพียงพอตามที่ผมต้องการ และก็ยังวางตัวไม่เหมาะสม ผมจึงต้องการให้มีการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวที่ทำหน้าที่ดูแลเธอ โดยผมจะทำหน้าที่คอยควบคุมดูแลเธอด้วยตัวผมเองอีกที”

เมฆินเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจะต้องลงไปจับรายละเอียด ทั้งที่มีทีมงานมืออาชีพคอยทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว อาจเป็นเพราะเขาเห็นแววบางอย่างฉายออกมาจากตัวธัญญ่า อีกทั้งนี่เป็นศิลปินคู่ดูโอ้คู่แรกของบริษัทที่เขาต้องการสร้างขึ้นมายืนอยู่แถวหน้า เพื่อตีตลาดบริษัทคู่แข่ง ดังนั้นเมฆินจึงใส่ใจโปรเจคนี้มากเป็นพิเศษ

“เปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวของเธอ!? ฉันทำอะไรผิดหรือคะ”

“ผมไม่ได้หมายความว่าคุณทำอะไรผิด ผมก็แค่อยากจะให้คุณเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวให้เธอก็เท่านั้นเอง มันก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น ส่วนคุณก็ไปทำหน้าที่ผู้จัดการส่วนตัวของศิลปินบอยแบนด์กลุ่มใหม่ที่เราเพิ่งจะได้มาก็แล้วกัน ตอนนี้ยังไม่ได้ระบุไม่ใช่เหรอว่าจะให้ใครเป็นคนดูแลเขา”

“ใช่ค่ะ”

“ถ้างั้นคุณไปทำหน้าที่นั้นแทน”

“แล้วบอสจะให้ใครทำหน้าที่ผู้จัดการส่วนตัวของธัญญ่าคะ” ดาหลาทนเก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่จึงต้องเอ่ยปากถามออกไป แต่คำตอบที่ได้รับกลับมานั้นทำให้เธออึ้งไปอย่างแรง

“ผมจะเป็นคนทำหน้าที่นี้เอง”

“บอสนะเหรอคะแต่บอสเองมีงานล้นมือจะมีเวลาว่างมากพอ...” เธอชะงักไปเพราะนึกขึ้นได้ว่าบอสไม่ได้ถามความคิดเห็นของเธอ

“คุณไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้น ผมจะจัดการเรื่องการบริหารเวลาของผมเอง คุณมีหน้าที่แค่แจ้งให้ธัญญารับรู้ถึงสิ่งที่ผมต้องการก็พอเข้าใจไหม”

“เข้าใจค่ะแล้วบอสจะให้บอกเธอเมื่อไรคะ”

“ก็แล้วแต่คุณแต่ผมจะต้องเจอธัญญ่าในห้องประชุมวันพรุ่งนี้ตอนสิบเอ็ดโมง และผมต้องการให้คุณอยู่ด้วย ส่วนคุณจะบอกเธอก่อนหรือว่าบอกในห้องประชุมในวันพรุ่งนี้ก็ตามใจคุณ”

“มีแค่บอส ดิฉัน และก็ธัญญ่าใช่ไหมคะ ที่จะต้องเข้าประชุมในวันพรุ่งนี้”

“ใช่มีแค่เราสามคนเท่านั้นคุณมีปัญหาอะไรอีกไหม” ความจริงดาหลาอยากที่จะถามถึงสาเหตุว่าทำไมเขาจะต้องทำเช่นนั้น แต่กลับปากหนักไม่กล้าที่จะพูดออกไป แต่ถึงเธอจะไม่พูดเขาก็ยังจับความคิดของเธอได้อยู่ดี

“คุณคงจะแปลกใจและคงจะอยากรู้ว่า ผมมีเหตุผลอะไรที่ทำแบบนี้ใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ” ดาหลายอมรับออกมาตรง ๆ

“ก็อย่างที่ผมบอกจากแฟ้มประวัติของเธอ ผมคิดว่าเธอมีคุณภาพแต่มันยังไม่ดีพอ อีกอย่างบริษัทของเรากำลังจะปั้นศิลปินคู่ดูโอ้คู่แรก ผมจึงอยากที่จะทำให้มันออกมาให้ดีที่สุด ดังนั้นผมจะคอยดูแลและฝึกฝนเธออย่างหนัก เพื่อให้พร้อมสำหรับการเป็นศิลปินหน้าใหม่ ที่บริษัทของเรากำลังจะปั้นขึ้นมาให้อยู่ในชั้นแนวหน้าของวงการเพลง ไม่ใช่จะทำเอาแบบสุกเอาเผากิน ทำกันง่าย ๆ ผมไม่ต้องการแบบนั้น ศิลปินในค่ายของผมจะต้องมีคุณภาพชนิดที่จะต้องเป็นที่ยอมรับของทุกคน โดยไม่มีข้อกังขาใด ๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะศิลปินดูโอ้คู่นี้ ทีนี้คุณเข้าใจหรือยัง”

“เข้าใจแล้วค่ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel