บทที่ 7
ณ บริษัทเมโลดี้เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้าไปในตึกนั้นด้วยความกระฉับกระเฉง วันนี้เธอสวมเสื้อยืดพอดีตัวสีส้มพร้อมกับกางเกงยีนส์คู่ใจ ผมของเธอยาวจนเกือบถึงกลางหลัง สไลดและดัดเป็นลอนใหญ่ ๆ ตามสมัยนิยม เธอกดลิฟต์ขึ้นไปชั้นยี่สิบเก้าเพื่อที่จะมาซ้อมเต้น เมื่อเดินออกจากลิฟต์หญิงสาวก็พบกับผู้จัดการส่วนตัวที่ทำหน้าที่ดูแลเธออยู่ในขณะนี้
“สวัสดีค่ะพี่ดาหลา”
“สวัสดีธัญญ่าทำไมวันนี้มาแต่เช้าเลย”
“เช้าเหรอคะนี่สิบโมงแล้วนะคะ ธัญญ่าว่าจะเข้ามาซ้อมเต้น ห้องซ้อมว่างอยู่ใช่ไหมคะ”
“ว่างเรานี่ขยันดีนะ” หญิงสาวเพียงแต่ยิ้มให้พี่ดาหลาด้วยรอยยิ้มที่สดใส ชนิดที่ใครเห็นก็อดที่จะใจละลายไม่ได้ เพราะเวลาธัญญ่ายิ้มตาของเธอจะเป็นประกายสดใส เรียกได้ว่าเธอจะยิ้มทั้งปากและตานั่นเอง
“พี่ดาหลาคะบริษัทยังหานักร้องที่จะมาคู่กับธัญญ่าไม่ได้อีกเหรอคะ”
“ก็กำลังคัดเลือกกันอยู่และจะต้องให้เข้ากับธัญญ่าได้ด้วย เพราะว่าเป็นนักร้องคู่ดูโอ้”
“คอนเซ็ปที่บริษัทวางไว้เป็นผู้หญิงใช่ไหมคะ”
“ใช่เรามีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ เพียงแต่อยากให้ได้มาไว ๆ”
“ทำไมล่ะ”
“ธัญญ่าจะได้ทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเสียทียังไงละคะ ไม่งั้นวัน ๆ หนึ่งผ่านไปโดยไม่มีอะไรจะทำ”
“พี่ก็เห็นเราขยันฝึกซ้อมเต้นและเรียนร้องเพลงอยู่ทุกวันไม่ใช่หรือ ไหนยังจะต้องเรียนแอ๊คติ้ง แล้วยังบอกว่าไม่มีอะไรจะทำได้อย่างไร”
“ธัญญ่าหมายถึงว่าธัญญ่าจะได้ทำอัลบั้มของตัวเองจริง ๆ ซะที”
เมื่อทั้งคู่เดินมาถึงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าหญิงสาวก็เอ่ยปากขอแยกตัว เพื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่จะไปเริ่มต้นการฝึกซ้อม เธอเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่มีตู้ล็อคเกอร์เรียงรายอยู่ และใช้เวลาไม่นานนักในการผลัดเปลี่ยน จากนั้นก็เดินไปที่ห้องซ้อมเต้นของบริษัท เมื่อเดินเข้าไปในห้องธัญญ่าก็พบว่ามีชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเครื่องเสียง
“นี่ขนาดเห็นแค่ด้านข้างยังหล่อขนาดนี้ ขอเห็นหน้าให้ชัดหน่อยเถอะ” ธัญญ่าเอ่ยพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะเดินเข้าไปยืนใกล้เขา
“ขอโทษค่ะฉันนึกว่าห้องซ้อมว่างอยู่ซะอีก คุณเป็นศิลปินหน้าใหม่ของบริษัทเหมือนกันเหรอคะ” แต่ชายหนุ่มคนดังกล่าวไม่ได้ตอบคำถามของเธอ เขาแทบไม่สนใจเธอด้วยซ้ำ
“ว้าวคุณหล่อจังหุ่นก็ดีอีกต่างหาก” หญิงสาวยังคงพูดต่อถึงแม้ว่าเขาจะทำเป็นไม่สนใจเธอก็ตามที และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ธัญญ่าอยากที่จะตอแยเขามากกว่าเดิม
“คุณซ้อมเสร็จหรือยังคะ...ถ้ายังไม่เสร็จจะซ้อมต่อก็ได้นะฉันรอได้ค่ะ”
เขาไม่พูดกับเธอสักคำ ถ้าพูดให้ถูกต้องก็คงจะต้องบอกว่า เขาทำเหมือนเธอไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนี้ด้วยซ้ำ สำหรับธัญญ่าแล้วทุกย่างก้าวที่เธอเดินผ่าน เก้าในสิบของพวกผู้ชายมักจะอดใจไม่ได้ ที่จะหันมามองเธอด้วยสายตาชื่นชม และมีผู้ชายมากมายที่อยากจะเป็นเจ้าของครอบครองหัวใจของเธอ เพียงแต่เธอไม่เคยสนใจผู้ชายพวกนั้น จะมีก็แต่เขาคนนี้ที่ไม่แสดงความสนใจเธอเฉกเช่นผู้ชายคนอื่น ๆ และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้ธัญญ่าอยากที่จะตอแยเขา
“ฉันถามคุณอยู่นะทำไมไม่ตอบละคะ” ธัญญ่าพูดพร้อมกับจับแขนแข็งแรงที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อกระชับของเขา เธอรอคำตอบของเขาแต่เขาก็ไม่ได้พูดกับเธอสักคำ หนำซ้ำยังปัดมือของเธออย่างแรง
“ว่าไงคะ...เงียบ...ไม่มีสัญญาณตอบรับจากคนที่ท่านเรียก”
ไม่มีใครเคยทำแบบนี้กับธัญญ่ามาก่อน ธัญญ่ารู้ตัวดีว่าตนเองสวยมากแค่ไหน นี่ไม่ได้หลงตัวเองนะ และไม่มีผู้ชายหน้าไหนที่กล้าปฏิเสธเธอ ส่วนใหญ่จะต้องเป็นเธอนี่แหละที่จะต้องคอยระวังตัวจากผู้ชายพวกนั้น เพราะเธอรู้ดีว่าความสวยของเธออาจจะนำภัยอันตรายมาสู่เธอได้ เธอจึงไม่เคยประมาท จะมีก็แต่ผู้ชายคนนี้ที่ทำกับเธอราวกับว่าเธอเป็นตัวเชื้อโรค...ก็ดีแบบนี้แหละที่ชอบ...ธัญญ่าชะโงกหน้าเข้าไปใกล้กับใบหน้าเขา
“ว่าไงคะตกลงคุณเป็นใบ้แล้วก็ยังหูหนวกด้วยหรือคะ” เมื่อธัญญ่าเห็นว่าเขาไม่สนใจและยังคงเก็บแผ่นซีดีที่เขาเอามาใช้ซ้อมเต้นของตัวเองต่อไป เธอก็เลยถือโอกาสเดินวนไปรอบตัวเขาเพื่อสำรวจ เธอสังเกตเห็นรูปร่างของเขาผ่านเสื้อกล้ามสีขาวแนบลำตัวที่ชายหนุ่มสวมใส่ ซึ่งตอนนี้มันก็ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่ออันเนื่องมาจากการซ้อมเต้น ทำให้เห็นรูปร่างของเขาค่อนข้างชัดเจน ‘มีซิคแพ็คซะด้วย’ ธัญญ่าคิดในใจ
“คุณดูแลรูปร่างได้ดีจังหุ่นแมน ๆ แบบนี้แหละที่ฉันชอบ...ว้าว!! กล้ามเป็นมัด ๆ เลยแถมยังมีซิคแพ็คซะด้วย” ธัญญ่าพูดพร้อมกับลูบไล้หน้าอกของเขาผ่านเสื้อกล้ามตัวนั้น และไม่ลืมที่จะใช้เล็บของเธอครูดลงไปที่ตัวของชายหนุ่มตั้งแต่หน้าอกจนถึงหน้าท้องแบนราบ และถึงแม้ว่าจะมีเสื้อขวางกั้นอยู่แต่สัมผัสจากมือของเธอ ก็ทำให้ชายหนุ่มขนลุกเกรียวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เขารู้สึกเสียวซ่านไปทั่วทุกอณูของร่างกาย เมฆินแอบค่อนคอดเธออยู่ในใจ
‘ผู้หญิงอะไรไม่รู้จักสงวนท่าทีซะบ้างเลย ถ้าเป็นน้องจะจับมาตีก้นสั่งสอนซะให้เข็ด’
ทำแบบนี้กับผู้ชายก่อนได้อย่างไร ไม่รู้หรือว่ามันอันตรายขนาดไหน ถ้าผู้ชายเขาเล่นด้วยและเกิดจับปล้ำขึ้นมาจะว่าอย่างไร แต่จะว่าไปเขากลับไม่ได้รู้สึกรังเกียจสัมผัสนั้นจากเธอ ในทางตรงกันข้ามกลับชอบสัมผัสของเธอและอยากให้เธอทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำไป พอชายหนุ่มรู้สึกตัวว่าตนเองกำลังคิดอะไรกับเธออยู่ก็เลยทำให้เขารู้สึกเก้อเขิน ผู้หญิงกับเขาแล้วก็แค่สิ่งที่คอยปลดเปลื้องอารมณ์ใคร่ของเขาเท่านั้นเอง เสร็จแล้วก็แล้วกันต่างคนต่างแยกย้ายกันไปไม่มีการผูกมัด ที่สำคัญเขาไม่ได้มีกิจกรรมประเภทที่ว่านั่นบ่อยครั้งนัก เมฆินลอบชำเลืองมองอีกฝ่ายโดยที่ไม่ให้เธอรู้ตัวว่าเขาจ้องมองเธออยู่เช่นกัน ที่จริงแล้วเธอก็จัดได้ว่าเป็นคนสวยที่หาตัวจับยากคนหนึ่งทีเดียว
‘ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันนะ หรือว่าจะเป็นศิลปินหน้าใหม่ของบริษัท แต่ทำไมถึงไม่รู้สึกคุ้นหน้าเธอมาก่อน’
ที่สำคัญเธอยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร และมีความสำคัญมากขนาดไหนในบริษัทนี้ เมื่อธัญญ่าจับได้ว่าเขาเขินอายกับสิ่งที่เธอทำก็ยิ่งรู้สึกสนุก และอยากที่จะแกล้งเขามากยิ่งขึ้นไปอีก
“ฉันแค่ล้อเล่นแค่นี้ทำไมคุณต้องอายด้วย หรือว่าคุณไม่เคยมีเซ็กส์กับผู้หญิง” ธัญญ่าพูดพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขาอีกครั้ง จนเขารับรู้ได้ถึงลมหายใจของเธอ เมื่อเขาเก็บของเสร็จก็เดินไปที่ประตู แต่ก่อนที่จะออกประตูไปเขาก็หันมาพูดใส่หน้าเธอ
“คุณมันเพ้อเจ้อ” ธัญญ่าขำกลิ้งกับท่าทางปั้นปึ่งที่ทำเหมือนไม่สนใจผู้หญิง แต่แท้ที่จริงแล้วเธอรู้ว่าเขารับรู้ถึงสัมผัสของเธอและอาจจะชอบด้วยซ้ำไป ปกติแล้วธัญญ่าจะไม่เคยตอแยหรือทำพฤติกรรมแบบนี้กับผู้ชาย แต่ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงอยากที่จะแกล้งเขานัก
“คุณอายใช่ไหมล่ะ”
“ผมไม่ได้อาย...คุณต่างหากที่ควรจะอาย”
“อายก็ยอมรับมาเถอะน่าไม่เห็นจะต้องรักษาฟอร์มเลย ฉันรู้นะว่าคุณก็ชอบสิ่งที่ฉันทำไปเมื่อกี้”
“ประสาท” พูดจบเขาก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้หญิงสาวหัวเราะอย่างชอบใจที่แกล้งเขาได้สำเร็จ