บทที่ 5
สำหรับอินทัชเมื่อส่งหญิงสาวเรียบร้อยแล้วก็ขับรถออกมาจากโรงแรม ขับไปได้ไม่นานก็เปลี่ยนใจวกรถกลับไปที่เดิม โดยไม่มีเหตุผลว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้น รู้แต่ว่าเขารู้สึกเป็นห่วงเธอ เมื่อถึงโรงแรมเขาก็พบณัฐธิชานั่งอยู่หน้าโรงแรม พร้อมกับกระเป๋าสัมภาระทั้งหมดของเธอ อินทัชเดินลงจากรถและมาหยุดยืนตรงหน้าหญิงสาว ณัฐธิชาเงยหน้าขึ้นมามองพอเห็นว่าเป็นเขาก็ยิ้มอย่างดีใจมากมาย ราวกับว่าเขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย
“คุณยังไม่ได้กลับบ้านอีกเหรอคะ”
“ผมขับรถออกไปแล้วแต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ย้อนรถกลับมาหาคุณที่นี่อีก ผมคิดว่าบางทีคุณอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากผม”
“ใช่ค่ะคือตอนนี้ฉันไม่มีที่ไปไม่รู้จะไปพักที่ไหน ที่สำคัญเงินที่มีฉันก็จ่ายค่าโรงแรมไปหมดแล้ว ให้ฉันไปพักอยู่กับคุณนะคะ” แต่พอเธอเห็นสีหน้าแปลกใจของเขาทำให้เธอพูดกลบเกลื่อน
“คุณไม่ต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นก็ได้ ฉันแค่ล้อคุณเล่นเท่านั้น ฉันคงต้องไปละลาก่อนนะคะ” จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่และสะพายกระเป๋าเป้ รวมไปถึงกระเป๋าสะพายแบรนด์เนมยี่ห้อดังอย่างทะมัดทะแมงเดินผ่านหน้าของชายหนุ่มไป
“เดี๋ยวก่อนครับ” หญิงสาวหันกลับไปมอง
“คุณจะไปไหนคุณไม่มีที่ไปไม่ใช่หรือครับ แล้วนี่มันก็ดึกแล้วด้วยผู้หญิงสวย ๆ อย่างคุณเดินคนเดียวในที่มืดแบบนี้ คุณไม่กลัวอันตรายหรืออย่างไรกัน”
“แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไงละคะ หรือว่าคุณจะให้ฉันไปอยู่กับคุณด้วยละ”
“มันไม่เหมาะหรอกนะ” ณัฐธิชาทำหน้าเศร้าแบบผิดหวังกับคำตอบของเขาสุด ๆ
“ไม่เป็นไรค่ะฉันเข้าใจ”
“ที่ผมพูดแบบนี้ก็เพราะว่าเราเพิ่งจะรู้จักกัน และเราสองคนก็ยังไม่รู้จักกันและกันดีพอ อีกอย่างผมก็เป็นผู้ชายคุณไว้ใจผมเหรอ” ณัฐธิชารีบพยักหน้าแทนคำตอบทันทีที่เขาพูดจบ
“ฉันว่าคุณดูเป็นคนดีคงจะไม่ทำอันตรายฉันหรอกใช่ไหมคะ แล้วที่คุณวกรถกลับมาหาฉันที่นี่ก็เพราะว่าคุณเป็นห่วงฉัน” ไม่รู้ละเขาจะกลับมาด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่เธอขอโมเมไว้แบบนี้ก่อนละกัน
แล้วเธอก็พูดออดอ้อนเขา “ให้ฉันไปอยู่กับคุณด้วยคนนะคะ”
“ธิชาทำไมคุณถึงไว้ใจคนง่ายแบบนี้ คุณไม่ควรไว้ใจใครง่าย ๆ โดยเฉพาะคนที่เจอกันเพียงแค่ครั้งเดียว และคุณเองก็ยังไม่รู้จักเขาดีพอโดยเฉพาะผู้ชาย”
“ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นฉันก็คงจะไม่ทำแบบนี้หรอกค่ะ แต่นี่เป็นคุณฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมฉันถึงไว้ใจคุณ” อินทัชไม่พูดอะไรได้แต่มองเธอนิ่งนานและคิดว่าเขาควรจะทำอย่างไรดี
“ถ้าคุณไม่ให้ฉันไปอยู่ด้วยแล้วฉันจะไปอยู่ที่ไหนละคะ” ณัฐธิชามองอินทัชด้วยสายตาวิงวอน และเริ่มทำท่าจะร้องไห้
“โอเคคุณอย่าร้องไห้เลยนะผมยอมคุณละ ถ้าคุณไม่มีที่ไปจริง ๆ คุณไปพักอยู่กับผมก่อนก็ละกัน ถ้าคุณจะไว้ใจผมนะ” เธอเงยหน้าขึ้นและยิ้มให้ชายหนุ่ม ดวงตากลมโตที่มีหยาดน้ำตาคลอสดใสขึ้นมาทันตาเห็น รอยยิ้มของเธอทำให้เขาใจอ่อน
“ฉันไว้ใจคุณอยู่แล้วละค่ะ ฉันรู้ว่าคุณเป็นสุภาพบุรุษ แต่คุณพูดจริงใช่ไหมคะที่จะให้ฉันไปพักอยู่กับคุณ ฉันรับรองนะคะว่าฉันจะไม่อยู่บ้านคุณฟรี ๆ ฉันจะช่วยดูแลทำความสะอาดบ้านให้คุณด้วย”
“เรื่องนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ผมมีแม่บ้านมาทำความสะอาดให้ผมสัปดาห์ละสามครั้ง”
“งั้นฉันจะตอบแทนคุณโดยการทำอาหารให้คุณทานก็ละกัน”
“ตามใจคุณ” อินทัชขนกระเป๋าเดินทางและสัมภาระทั้งหมดของณัฐธิชาไปใส่ไว้ที่ท้ายรถของเขา และเริ่มคิดว่าเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่ คิดถูกหรือผิดที่ทำแบบนี้ แต่สุดท้ายเขาก็บอกกับตัวเองว่า
‘ยังดีกว่าปล่อยเธอไว้แบบนี้ ถ้าเขามารู้ทีหลังว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เขาคงจะรู้สึกผิดและไม่สบายใจไปอีกนาน’
“ยืนรออะไรอยู่ละคุณขึ้นรถสิ” ณัฐธิชาก้าวขึ้นรถโดยไม่ต้องรอให้เขาพูดรอบสอง
“ขอบคุณนะคะที่ให้ฉันไปพักอยู่กับคุณ ถ้าฉันมีงานทำมีเงินเมื่อไรฉันจะใช้คืนคุณพร้อมดอกเบี้ยเลยค่ะ”
อินทัชขับรถไม่นานก็มาถึงคอนโดหรูหราย่านใจกลางเมือง ที่ดูก็รู้ว่ามีแต่พวกเศรษฐีเท่านั้นที่จะพักอยู่ได้ เขาช่วยขนกระเป๋าของเธอเข้ามาในห้องพักสไตล์โมเดิร์นสุดหรูของเขา ณัฐธิชาสังเกตเห็นว่ามีสองห้องนอนแต่เขากลับยกกระเป๋าเดินทางของเธอไปไว้ในห้องนอนห้องใหญ่ ที่ถูกจัดตกแต่งไว้อย่างสวยงามเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นล้วนแล้วแต่เป็นของดี ราคาแพงที่บ่งบอกรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี
“คุณจัดห้องได้สะอาดน่าอยู่มากเลยนะคะ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นห้องของผู้ชาย ฉันคิดว่าห้องของผู้ชายน่าที่จะรกกว่านี้ซะอีก”
“ผมมีแม่บ้านมาจัดและทำความสะอาดให้อาทิตย์ละสามครั้ง...คุณคงจะเหนื่อยแล้วผมว่าคุณไปอาบน้ำให้สบายตัวก่อนดีกว่านะจะได้พักผ่อน”
“งั้นฉันขอใช้ห้องน้ำของคุณนะคะ” เขาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
ณัฐธิชาเดินไปเปิดกระเป๋าแล้วหยิบเสื้อผ้ารวมไปถึงของใช้ส่วนตัว เพื่อที่จะใช้ในการอาบน้ำ หญิงสาวใช้เวลาไม่นานนักในการอาบน้ำชำระร่างกาย เมื่อเธอเดินออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าเขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วเช่นกัน และกำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงนอนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง
“คุณจะให้ฉันนอนที่ไหนคะ”
“ก็นอนกับผมที่นี่” เธออุทานเสียงดัง
“นอนห้องเดียวกับคุณนะเหรอคะ”
“ก็ใช่นะสิไม่อย่างนั้นแล้วคุณจะไปนอนที่ไหน”
“ที่นี่มีสองห้องนอนไม่ใช่เหรอคะ”
“ใช่แต่ว่าห้องนั้นผมไว้เก็บของแล้วผมก็ล็อคกุญแจเอาไว้ ทีนี้ผมจำไม่ได้ว่าเอากุญแจไปทิ้งไว้ที่ไหนห้องนั้นก็เลยถูกปิดไว้แบบนั้น อีกอย่างผมก็อยู่คนเดียวไม่จำเป็นต้องใช้หลายห้อง”
“เหรอคะถ้างั้นคุณนอนบนเตียงก็แล้วกันนะคะส่วนฉันจะนอนที่โซฟาเอง”
“ได้ยังไงกันผมเป็นผู้ชายนะจะปล่อยให้คุณไปนอนที่โซฟาได้อย่างไร เอาเป็นว่าผมเสียสละเตียงให้คุณก็แล้วกัน ผมจะเป็นคนนอนที่โซฟาเอง”
“จะดีเหรอคะนี่มันห้องของคุณ อีกอย่างตัวคุณก็สูงนอนโซฟาจะไม่สบายนะคะ” อินทัชลุกขึ้นเดินมายืนใกล้ ๆ หญิงสาวและเอียงหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูเธอ
“หรือคุณจะให้ผมนอนบนเตียงกับคุณ ที่จริงแล้วเตียงนอนของผมเป็นเตียงแบบดับเบิ้ลคิงไซส์ นอนด้วยกันสามคนยังได้เลยนะ”
“แต่ว่าฉันเป็นคนนอนดิ้นนะคะ”
“ไม่เป็นไรผมมีวิธีทำให้คุณหยุดดิ้นได้ผมรับรอง”
“ห๊า...คุณหมายความว่ายังไงคะ คุณคงจะไม่ปล้ำฉันหรอกนะคะ เพราะฉันมั่นใจว่าคุณมีความเป็นสุภาพบุรุษมากพอ คงจะไม่รังแกผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้อย่างฉันหรอกใช่ไหมคะ” อินทัชถึงกลับหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของหญิงสาวตรงหน้า
“คุณไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมจะพูดหรือ ผมกำลังจะบอกคุณว่าเด็กแบบคุณ ไม่ควรที่จะไว้ใจใครง่าย ๆ โดยเฉพาะผู้ชายซึ่งก็รวมถึงผมด้วย เพราะผมก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งเหมือนกัน ที่สำคัญยังหล่อและมีเสน่ห์มากอีกด้วย” ชายหนุ่มเตือนอย่างหวังดีแต่ณัฐธิชาวีนใส่เขาทันที
“เลิกเรียกฉันว่าเด็กซะทีได้ไหม? ฉันอายุยี่สิบสี่แล้วและก็โตพอที่จะรับผิดชอบชีวิตของตัวเองได้แล้ว ไม่ใช่เด็ก ๆ อย่างที่คุณพูดซะหน่อย” เธอให้ความกระจ่างแก่เขาเกี่ยวกับอายุของตนเอง ชายหนุ่มทำหน้าตาประหลาดใจ
“แต่คุณดูเด็กจังตอนแรกผมนึกว่าคุณอายุยังไม่ถึงยี่สิบด้วยซ้ำไป ยังกลัวเลยว่าผมจะโดนข้อหาพรากผู้เยาว์หรือเปล่า...แล้วไอ้ที่คุณบอกว่าคุณโตพอที่จะรับผิดชอบชีวิตของตัวเองได้แล้ว ทำไมถึงได้มาเดือดร้อนผมละ แต่เอาเถอะเนื่องจากผมเป็นคนดีมีน้ำใจ และชอบช่วยเหลือผู้อื่นเพราะฉะนั้นผมเต็มใจทำ” แต่เมื่ออินทัชเห็นอีกฝ่ายทำปากขมุบขมิบทำให้เขาอยากที่จะแกล้งเธอมากขึ้นไปอีก เขาเอียงหน้าเข้าไปใกล้ ๆ ใบหน้าของเธออีกทั้งยังพูดว่า
“คุณไม่ต้องซึ้งใจผมขนาดนั้นก็ได้” ณัฐธิชายกมือขึ้นผลักใบหน้าของเขาเบา ๆ ให้ออกห่างจากใบหน้าของตัวเอง
“เชอะ...ออกไปห่าง ๆ เลย...ตกลงคุณจะนอนที่ไหน”
“ก็คุณอนุญาตให้ผมนอนกับคุณและยังจะต้องมาถามอะไรผมอีก ทำไมต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นด้วยผมล้อเล่นหรอกน่า เอาเป็นว่าคุณนอนเตียงผมก็แล้วกัน ส่วนผมจะไปนอนที่โซฟาตัวนั้นเอง” เขาชี้ไปที่โซฟาในห้องที่เขามักจะใช้นั่งดูโฮมเธียร์เตอร์
“งั้นก็ได้คุณใจดีจังขอบคุณนะคะ” หญิงสาวตอบพร้อมกระโดดขึ้นไปนั่งบนเตียงนอนของเขา จากนั้นเธอก็ทิ้งตัวลงนอน
“อืม...สบายจังเลย”