บทที่ 8
“โอ๊ย” เซี่ยหมิงร้องเสียงหลงตกใจหงายหลังลงไปนั่งกับพื้น เพราะชนกับใครบางคนโดยที่เขาไม่ทันมองในขณะกำลังจะออกจากที่ซ่อน
“แม่ขอโทษ เจ็บที่ใดหรือไม่” เสวียนหนี่เองก็ตกใจไม่แพ้กัน ไม่คิดว่าจะทำให้เซี่ยหมิงตกใจถึงกับล้มก้นจ้ำเบ้า หญิงสาวปราดเข้าไปดึงตัวให้ลุกขึ้น ก่อนจะปัดฝุ่นตามเนื้อตัวจัดระเบียบชุดให้เสียใหม่
“ม่ะ...ไม่เจ็บขอรับ” กลัวว่าที่ชนกันเมื่อครู่จะทำให้มารดาไม่พอใจ ทำเอาเด็กน้อยตัวสั่นกลัวจะถูกต่อว่าและห้ามไม่ให้มาหาอีก ท่านพ่อเคยสอนไว้ลูกผู้ชายไม่ควรทำตัวอ่อนแอ ผู้อื่นจะรังแกเอาได้ง่าย ๆ ฉะนั้นเขาจะไม่ร้อง
แต่ดูเหมือนว่าจิตใจและร่างกายไม่สัมพันธ์กันเอาเสียเลย ปากบอกไม่ร้องไห้แต่น้ำตาเม็ดโตก็พร้อมจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อ ปากล่างหรือก็ยื่นจะถึงปลายจมูกอยู่แล้ว ภาพเหล่านี้ยิ่งทำให้เสวียนหนี่สงสารบุตรชายจับใจ ตัวนางต้องน่ากลัวมากแค่ไหนถึงทำให้ลูกร้องไห้ทุกครั้งเมื่อเจอหน้า
“โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะคนเก่งของแม่” หญิงสาวตัดสินใจเข้าไปกอดเจ้าหัวผักกาดเอาไว้ เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่ต่อต้าน นางจึงอุ้มเขาเดินกลับไปนั่งพักที่ศาลาพักด้วยกัน นับว่าไม่เสียเปล่ากับการให้อาหงเตรียมขนมที่เขาชอบไว้ตลอด
“ฮือออ ฮึก” มีเพียงเสียงสะอื้นที่เปล่งออกมาให้ได้ยิน ใบหน้าเล็กซบบ่าของมารดาแขนทั้งสองข้างเกาะไหล่ไว้แน่น เป็นครั้งแรกที่ท่านแม่ยอมให้เขาโดนตัว หวังว่ามันไม่ได้เป็นเพียงแค่ความฝัน แต่ถึงจะเป็นฝันตนก็ไม่อยากตื่นขึ้นมาเลย อยากอยู่เช่นนี้ตลอดไปจัง
เสวียนหนี่ตบหลังบุตรชายเบา ๆ ปลอบประโลมให้เขาผ่อนคลาย สองแม่ลูกนั่งกอดกันกลม เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันตามลำพัง โดยที่ไม่ใช่การดุด่าต่อว่าให้เกิดความหมางใจ
ในสายตาของอาหงนี่ช่างเป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่ง โอกาสมาถึงแล้วนางจะทำพลาดไม่ได้เด็ดขาด อาหงวิ่งหน้าตั้งเข้าเรือนพักอย่างว่องไว รีบจัดเตรียมขนมที่คุณชายชอบอย่างเร่งด่วน
เสวียนหนี่นึกชื่นชมอาหงอยู่ในใจ สาวใช้ที่แสนจะรู้งานหายไปไม่นานก็กลับมาพร้อมกับขนมที่ลูกชายนางชมชอบ คงต้องเพิ่มค่าแรงให้มากขึ้นเสียแล้ว
“หมิงเอ๋อร์แม่รู้ว่าเจ้าชอบเซาปิ่งไส้ถั่ว แม่เตรียมไว้ให้เจ้าเยอะเลยดูสิ” หลังจากกอดปลอบกันจนพอใจ นางจึงใช้ขนมมาล่อเพื่อให้เซี่ยหมิงอารมณ์ดีขึ้น เพราะเจ้าตัวเล็กร้องไห้ตาบวมซึ่งก็ไม่รู้ว่าการร้องครั้งนี้ เขาดีใจหรือเสียใจกันแน่ แต่นางจะขอเหมารวมว่าบุตรชายดีใจก็แล้วกัน
“ให้ลูกทั้งหมดเลยหรือขอรับ” เขาไม่เคยได้กินขนมเยอะเช่นนี้มาก่อน แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของพี่เลี้ยงจากที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มดีใจ กลับกลายเป็นเศร้าลงถนัดตา
“เป็นอะไรไป หรือว่าหมิงเอ๋อร์ไม่ชอบแล้ว เช่นนั้นแม่ให้คนเอาอย่างอื่นมาเปลี่ยนดีไหม”
“ชอบขอรับ แต่ว่าถ้ากินเยอะจะเป็นเด็กไม่ดีจะไม่มีคนรัก” เซี่ยหมิงพูดเสียงเบา เพื่อให้ได้กินของอร่อยได้นานขึ้น เด็กน้อยค่อยแทะเล็มขนมเซาปิ่งอย่างละเมียดละไม ทั้งความใกล้ชิดคำพูดแสนอ่อนโยนของมารดากระทำต่อเขา ทำให้ขนมอร่อยขึ้นเป็นกอง โดยลืมไปเสียสนิทว่าตนนั้นเคยกลัวมารดามากแค่ไหน
“ผู้ใดบอกเจ้าเช่นนั้น บอกแม่ได้หรือไม่” ใครมันบังอาจสอนเรื่องไร้สาระให้เด็กเพียงแค่สี่หนาวกัน ต้องเป็นคนที่จิตใจคับแคบแค่ไหนถึงได้พูดกับเด็กได้เช่นนี้ ตระกูลเซี่ยมีเงินมากพอจะซื้อได้โดยไม่สนราคาเสียด้วยซ้ำ กับแค่ขนมไม่กี่ตำลึงจะไปเสียดายอะไร
“จื่อซีบอกว่าถ้าอยากให้ผู้อื่นรัก จะต้องกินใช้ให้น้อย ห้ามเรียกร้องและต้องเชื่อฟังจื่อซีผู้นี้เท่านั้น ท่านพ่อถึงจะรักขอรับ”
“แล้วเจ้าก็เชื่อนางหรือ” ภารกิจเชื่อมสัมพันธ์คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว เรื่องทั้งหมดมีผู้อยู่เบื้องหลังนี่เอง จื่อซีหรือข้าจะจำเจ้าไว้ให้ขึ้นใจ มิน่าเล่าลูกของนางจึงได้ผอมแห้งแรงน้อย ทั้งที่เป็นถึงคุณชายหนึ่งเดียวของตระกูลผู้ร่ำรวยไม่แพ้ใคร นางก็หลงคิดว่าการที่เซี่ยหมิงร่างกายอ่อนแอตั้งแต่เด็ก เกิดจากการกระทำที่ไม่ได้เรื่องของตนเองเพียงผู้เดียว แต่ที่ไหนได้เด็กคนนี้กลับไม่เคยได้รับการดูแลจากใครเลยต่างหาก
เด็กน้อยไม่ยอมตอบคำถาม เซี่ยหมิงวางขนมไว้ที่เดิมพร้อมกันนั้นก็ค่อย ๆ ไถลตัวลงจากตักมารดา
“ต้องกลับแล้วขอรับ”
“อะไรกันแม่อุตส่าห์เตรียมไว้ให้ตั้งเยอะ เจ้าเพิ่งจะกินไปแค่ครึ่งชิ้นเอง เอาเก็บไว้กินตอนหิวนะ ไว้ว่าง ๆ แม่จะไปหา” เพื่อไม่ให้เกิดปัญหานางจึงยอมให้กลับแต่โดยดี นี่ไม่ใช่อาการของเด็กที่เชื่อฟัง แต่เป็นความกลัวของเด็กต่างหาก จื่อซีทำอะไรกับบุตรชายข้าไว้บ้างนะ ถึงทำให้เขากลัวการขัดคำสั่งของเจ้าได้เพียงนี้
เสวียนหนี่ห่อขนมสามชิ้นอย่างดี พร้อมกับยัดไว้ในอกเสื้อของบุตรชาย เป็นถึงคุณชายน้อยจวนพ่อค้าผู้ร่ำรวย ทว่ากลับได้กินอยู่อย่างอดอยากทำตัวตามใจมิได้ อดทนอีกนิดนะลูกรักแม่จะจัดการคนที่มันบังอาจทำร้ายเจ้าด้วยมือแม่เอง
“ท่านแม่พูดจริงหรือขอรับ จะไปหาลูกไม่โกหกนะขอรับ” เด็กน้อยยิ้มกว้าง นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านแม่เอ่ยปากว่าจะไปหา อีกทั้งนี่ก็เป็นครั้งแรกเช่นกันที่ได้นั่งกินของว่างกับท่านแม่ คืนนี้ต้องนอนหลับฝันดีแน่เลย
“จริงสิ แม่ให้สัญญา”
“ลูกจะรอนะขอรับ” จากนั้นเซี่ยหมิงได้เดินกลับอย่างเร่งรีบ เขาแอบออกมานานอีกทั้งเวลานี้จื่อซีคงกลับจากทำธุระแล้วกระมัง
หญิงสาวมองร่างเล็กวิ่งกลับเรือน มือจับตรงอกเสื้อไว้แน่น เกรงว่าขนมที่มารดาห่อให้จะตกหล่นระหว่างทาง น้ำตาคนเป็นแม่ก็พานจะไหล เด็กตัวแค่นี้ที่ผ่านมาต้องมาพบเจอกับอะไรบ้าง บั้นปลายชีวิตก็ยังต้องมาตายตั้งแต่อายุยังน้อย
แม่คนนี้จะไม่ยอมให้มันกลับไปซ้ำรอยเดิม ลูกของนางจะต้องอายุยืนและเติบโตขึ้นอย่างมีความสุขกว่าผู้ใด