บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

เซี่ยหมิงเด็กชายวัยสี่หนาวกำลังเอาขนมที่ตนแอบเก็บไว้ในอกเสื้อ เขากัดกินแทะเล็มทีละน้อยเพราะไม่อยากให้มันหมดเร็วเกินไป ขนมชิ้นนี้ท่านพ่อให้ไว้ก่อนออกไปทำงานเมื่อเช้า แต่ว่าจื่อซีมักจะห้ามไม่ให้เขากินตามใจปาก ถึงจะเป็นอย่างนั้นมันอร่อยเสียจนอดใจไม่ไหว จึงฉวยโอกาสในตอนที่พี่เลี้ยงไปทำธุระส่วนตัวเก็บไว้หนึ่งชิ้น แล้วแอบกินเวลาที่นางไม่อยู่

น่ารัก น่ารักอะไรเช่นนี้

ภายในหัวของเสวียนหนี่มีแต่คำว่าน่ารักเต็มไปหมด ถ้าได้ลองลูบแก้มป่อง ๆ นั่นจะเป็นเช่นไรนะ ศีรษะทุย ๆ นั่นก็ด้วย เมื่อก่อนนางจงเกลียดจงชังไปได้อย่างไร เด็กน่ารักขนาดนี้สมควรได้รับความรักสิถึงจะถูก สงสัยชาติก่อนตอนออกจากท้องมารดา นางลืมเอาดวงตามาด้วยกระมัง หรือไม่ก็รีบเกิดเกินไปหน่อยแล้วลืมเอาสมองมาด้วย

ทว่าขณะที่นางเอาแต่ชื่นชมความน่ารักน่าเอ็นดูของบุตรชาย เมื่อสังเกตให้ดีร่างกายของเด็กผ่ายผอมผิดหูผิดตา หรือว่าหมิงเอ๋อร์ไม่ค่อยสบาย ถ้าเป็นเช่นนั้นจะออกมานั่งตากลมเย็นด้านนอกได้อย่างไร นางควรทำหน้าที่แม่ที่ดีได้แล้ว จะมัวแต่แอบมองอยู่เช่นนี้เมื่อใดจะได้ทำความเข้าใจกัน

เสวียนหนี่ตัดสินใจเข้าไปหาบุตรชาย หญิงสาวนั่งลงฝั่งตรงข้าม ทำเอาเซี่ยหมิงที่ไม่คิดว่ามารดาจะมาหาตนตกใจทำขนมหลุดจากมือ

“หมิงเอ๋อร์ เจ้าทำสิ่งใดอยู่หรือ” หญิงสาวเรียกบุตรชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน และยิ้มสวยให้ได้มากที่สุดเท่าที่คิดว่าจะทำได้

ทว่ามันกลับไม่ใช่อย่างที่นางคิด เด็กน้อยรีบลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมกับก้มหน้าตัวสั่นงันงก เพราะกลัวมารดาจะเข้ามาต่อว่าเหมือนทุกครั้ง ทั้งที่เขาก็ไม่รู้ว่าตนเองนั้นทำอะไรผิด

“ท่านแม่” ใช่แน่ ๆ คงจะเป็นเพราะตนแอบเก็บขนมไว้กิน จึงทำให้ท่านแม่โกรธอีกแล้ว เป็นอย่างที่จื่อซีบอกจริงด้วย ท่านแม่ไม่ชอบเด็กกินเยอะและไม่เชื่อฟัง ฉะนั้นต่อไปเขาจะกินให้น้อยอ่านหนังสือให้มากกว่านี้ แต่ก็อดเสียดายขนมที่ทำตกพื้นไม่ได้ ทั้งที่เพิ่งจะได้กัดไปเพียงแค่คำเดียวแท้ ๆ

“หมิงเอ๋อร์นั่งอ่านตำรามากไปคงจะเบื่อ ไปเดินเล่นกับแม่ดีไหม” ที่ผ่านมานางทำตัวแย่ ๆ กับบุตรชายมากขนาดไหนนะ เพียงแค่เห็นหน้าก็สั่นกลัวไปทั้งตัวถึงเพียงนี้

“ลูกขอโทษขอรับ ท่านแม่บอกลูกได้ไหมลูกทำอะไรผิด ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้วขอรับ” ท่านแม่กำลังแยกเขี้ยวใส่เสียน่ากลัว ความผิดเขาต้องมีมากแน่ แต่แล้วมันคืออะไรไม่เห็นเข้าใจเลย จากเดิมที่คิดว่าตนเองสามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ ทว่ามันกลับไม่ใช่เช่นนั้น เซี่ยหมิงสุดจะกลั้นจึงปล่อยโฮออกมาในที่สุด

“เดี๋ยวก่อนสิจ๊ะ ไม่ร้องนะ หมิงเอ๋อร์ของแม่เป็นอะไร” เสวียนหนี่ทำอะไรไม่ถูกเมื่อบุตรชายร้องไห้โฮต่อหน้าต่อตา ทั้งยังมึนงงกับคำพูดราวกับว่านางมาเพื่อกล่าวโทษเขาเช่นนั้น ครั้นจะเข้าไปกอดปลอบเจ้าตัวก็คอยแต่ถอยห่าง

“ฮือออ ท่านแม่บอกมาเถอะขอรับ ลูกจะปรับปรุงตัวทุกอย่าง เพราะฉะนั้นอย่าโมโหแล้วทำหน้าน่ากลัวเลยขอรับ” ท่านแม่ยิ้มเหมือนจะเข้ามาบีบคอเขาเลย

คนต้นเรื่องหุบยิ้มฉับทันทีที่บุตรชายพูดจบ นางหรือก็คิดว่าตนเองทำดีแล้วเสียอีก กลับกลายเป็นว่ายิ้มหวาน ๆ นั่น คือการแยกเขี้ยวใส่ไปได้อย่างไร ต่อไปนี้ข้าจะฝึกยิ้มก่อนออกจากเรือนทุกครั้งเลยคอยดู

เพราะเสียงร้องไห้ของนายน้อยดังมาแต่ไกล ทำให้พี่เลี้ยงสาวที่เพิ่งจะเดินกลับมาจากทำธุระส่วนตัวต้องรีบสาวเท้าให้เรือนโดยเร็ว เมื่อมาถึงก็ต้องตกใจฮูหยินหนี่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าคุณชายน้อย อีกทั้งคุณชายก็เอาแต่ร้องไห้ตัวสั่น ระหว่างที่ตนไม่อยู่จะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่

ไม่ได้การนางต้องปกป้องคนสำคัญจากสตรีใจร้ายผู้นี้

จื่อซีปราดเข้าไปดึงตัวคุณชายน้อยกอดเอาไว้แนบอก กั้นกลางระหว่างสองแม่ลูกใช้ตนเองเป็นเกราะกำบังปกป้องคุณชายไม่ให้ถูกทำร้าย หากเกิดอะไรขึ้นนางก็พร้อมจะเอาตัวเข้าแลก

“ฮูหยินจะทำอะไรเจ้าคะ คราวนี้จะมาดุด่าต่อว่าอะไรอีก ได้โปรดรักคุณชายสักนิดไม่ได้หรือ ท่านไม่สงสารเด็กเล็ก ๆ บ้างหรือไร” จื่อซีต่อว่าอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ เหลืออดกับการทำตัวร้ายกาจของสตรีตรงหน้าเต็มทน จวนนี้ขาดนางไปสักคนก็คงจะดีขึ้นมากกว่านี้ จะฟื้นขึ้นมาทำไมก็ไม่รู้ น่าจะตายไปตั้งแต่ตอนนั้นเสียก็ดี อยู่ไปก็รังแต่จะสร้างปัญหาให้ผู้อื่น

“พูดบ้าอะไรของเจ้า ข้าแค่มาหาหมิงเอ๋อร์ชวนเขาเดินเล่นเท่านั้น เป็นเจ้าต่างหากที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรก็มาต่อว่าผู้อื่น” เสวียนหนี่หมายจะจับมือเซี่ยหมิง เพื่อปลอบเด็กน้อยและบอกให้เขาเข้าใจ นางมิได้จะมาดุด่าต่อว่า เพียงแค่จะชวนออกไปเดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศด้วยกันก็เท่านั้น

“ได้โปรดอย่าแตะต้องตัวคุณชายเจ้าค่ะ ถ้าจะลงมือกับคุณชายมาลงที่จื่อซีคนนี้ดีกว่า คุณชายเรากลับห้องกันเถอะเชื่อจื่อซีนะเจ้าคะ” พี่เลี้ยงสาวรีบอุ้มคุณชายน้อยออกไปจากตรงนี้ทันที โดยไม่สนว่าฮูหยินของจวนจะคิดเช่นไร ถึงอย่างไรสุดท้ายแล้วนายท่านก็อยู่ข้างข้าอยู่ดี ฮูหยินก็เป็นได้แค่หุ่นเชิดวางไว้ประดับจวน ทั้งที่ก็เป็นแค่ลูกอนุต่ำต้อย ควรจะเจียมตนเองไว้ให้มากกลับทำตัวราวกับเป็นชนชั้นสูง

เสวียนหนี่ได้แต่มองตามหลังพี่เลี้ยงบุตรชายด้วยใบหน้าเฉยเมย หญิงสาวหรี่ตามองพี่เลี้ยงบุตรชายด้วยความแคลงใจ นางมิเคยมีความแค้นหรือมีเรื่องอะไรกับจื่อซีมาก่อน เหตุใดจึงได้ตั้งแง่จงเกลียดจงชังกันนัก อีกทั้งการกระทำที่มากเกินไป มากเกินกว่าคำว่าลูกจ้างเสียอีก

“ฮูหยินจะปล่อยไปเช่นนั้นหรือเจ้าคะ ให้ข้าตามไปสั่งสอนนางดีหรือไม่” อาหงรู้สึกโกรธแค้นแทนผู้เป็นนาย จึงได้เสนอตัวช่วยจัดการพี่เลี้ยงคุณชายให้รู้สำนึก กล้าดีอย่างไรมาต่อว่าฮูหยินที่เป็นเจ้านายทั้งที่ตนเองเป็นแค่บ่าวรับใช้แท้ ๆ

“ไม่ต้อง ครั้งนี้ปล่อยไปก่อน” มีหลายเรื่องในตัวจื่อซีผู้นี้ที่นางอยากรู้ ชาติก่อนมัวแต่หมกมุ่นกับไอ้คนสารเลวนั่นเกินไป ทำให้ไม่เคยสนใจสิ่งรอบกาย จื่อซีผู้นี้คงไม่ธรรมดาไม่เช่นนั้นเจ้าตัวคงไม่มั่นใจ และไม่กล้าแข็งข้อต่อปากต่อคำกับนาง เกินวิสัยบ่าวไพร่ธรรมดา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel