บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

หลังจากผ่านการพักฟื้นร่างกายตามเวลาท่านหมอกำหนด เสวียนหนี่ถือโอกาสนี้ลุกขึ้นเปลี่ยนแปลงตนเองครั้งใหญ่ ทำเอาบ่าวไพร่พากันตกใจไปตาม ๆ กัน ฮูหยินหนี่ไม่ขว้างปาข้าวของ หรือแม้แต่ด่าทอบ่าวไพร่อย่างที่เคยทำเป็นประจำ วางตัวดีน่าเกรงขามมากขึ้น รวมไปถึงการแต่งกายใหม่เพื่อลบภาพลักษณ์ ไม่เหลือคราบฮูหยินหนี่ตัวตลกประจำจวน

เมื่อก่อนนางมักแต่งกายหรูหราและเปิดเปลือยเนื้อหนัง ผัดแป้งแต่งหน้าหนาเตอะตามความนิยมของหญิงเริงเมือง นั่นเป็นเพราะฉีเยี่ยนชู้รักของนางชอบให้แต่งกายเช่นนี้ เขามักจะบอกว่ามันงดงามเร้าใจเป็นที่สุด เสวียนหนี่จึงไม่ลังเลหากสิ่งนั้นทำให้ชายคนรักพึงพอใจ แม้ใครต่อใครแอบพูดลับหลังว่านางเป็นต้นแบบของนางโลมโคมเขียวก็ตาม

แต่ที่ตลกร้ายก็คือฉีเยี่ยนแค่พูดไปส่ง ๆ ตามคำแนะนำของเสวียนหลัน เพื่อให้เสวียนหนี่ต้องอับอายและกลายเป็นตัวตลกในสายตาผู้คนภายนอก

“ฮูหยินงดงามมากเลยเจ้าค่ะ แต่งกายเช่นนี้ดีกว่าชุดพวกนั้นเป็นไหน ๆ” อาหงเอ่ยชมเจ้านายสาวไม่หยุดปาก นางรู้สึกว่าตั้งแต่ฮูหยินฟื้นขึ้นมาต่างไปจากเดิมมาก ราวกับเป็นคนละคนก็ว่าได้ แต่หากให้เลือกนางขอฮูหยินที่เป็นแบบนี้มากกว่าคนเก่าเป็นไหน ๆ

สาวใช้คนสนิทยังคงง่วนอยู่กับการหาเครื่องประดับให้เข้ากับชุด ถึงแม้ฮูหยินจะดูแปลกไปมากไม่คุ้นชินเอาเสียเลย แต่นางชอบฮูหยินที่เป็นเช่นนี้มากกว่า แต่งกายให้ดูสมวัยไม่มากหรือน้อยเกินไป จากที่งดงามอยู่แล้วก็เปล่งประกายมากยิ่งขึ้น มิน่าเล่าพี่สาวฮูหยินถึงได้แนะนำอะไรผิด ๆ คงจะเกรงว่าฮูหยินจะไปงดงามเกินหน้าเกินตาตนกระมัง ช่างเป็นสตรีไม่น่าคบหาเอาเสียเลย

เสวียนหนี่มองตนเองผ่านกระจกทองเหลือง รู้สึกพึงพอใจรูปลักษณ์ของตนในตอนนี้มาก ไม่ต้องประโคมเครื่องหัวมากมาย แต่งหน้าแต่พองามช่วยลดความดุดันของใบหน้าไปได้มาก ที่สำคัญดูอ่อนเยาว์ลงไปตั้งสิบปี

“อาหงตอนนี้หมิงเอ๋อร์ทำอะไรอยู่หรือ ข้าไม่เห็นมาหลายวันแล้ว” นางป่วยนอนซมอยู่ตั้งหลายวัน แต่กลับไม่ได้เห็นบุตรชายแวะมาเยี่ยมไข้ ปกติแล้วไม่ว่าตนจะอยู่ไหนก็มักจะเห็นหัวเจ้าเด็กน้อยอยู่ไกล ๆ เสมอ คราวนี้กลับเงียบหายไปเลย หรือว่าหมิงเอ๋อร์จะเกลียดตนไปแล้วถึงได้ไม่มาให้เห็นหน้า

“คือว่านายน้อยแอบมาหาฮูหยินอยู่ครั้งหนึ่งเจ้าค่ะ แต่ว่าอยู่ ๆ ก็ไม่มาอีกเลย คงอาจจะกำลังศึกษาตำราค้าขายพื้นฐาน จึงไม่ค่อยได้ออกมาข้างนอกเท่าไรนักเจ้าค่ะ” นายน้อยแอบมาหาฮูหยินตั้งแต่วันแรกที่ตกน้ำ แต่ดูเหมือนว่าการที่ไม่ได้มาอีกคงจะเป็นจื่อซีที่ห้ามไม่ให้มาที่นี่เป็นแน่ เพราะพี่เลี้ยงคนนี้ไม่ค่อยลงรอยกับฮูหยินเท่าใดนัก

“อะไรกัน เด็กอายุแค่สี่หนาวจะร่ำเรียนหนักไปเพื่ออะไร อายุแค่นี้ควรต้องกินให้อิ่ม นอนให้มาก เล่นให้สนุกสิถึงจะถูก” ร่างบางพรวดพราดลุกขึ้นยืนทันที พร้อมกับก้าวอาด ๆ ออกจากเรือนที่พักไป ทำเอาสาวใช้คนสนิทได้แต่ยืนงง

“ฮูหยินจะไปไหนหรือเจ้าคะ รออาหงด้วยเจ้าค่ะ” สาวใช้คนสนิทวิ่งตามหลังเจ้านายแทบไม่ทัน ไม่รู้เพราะอะไรถึงได้ดูเร่งรีบเช่นนั้น

“ไปหาหมิงเอ๋อร์ของข้าน่ะสิ” ยามนี้คงอ่านตำราอยู่ที่เรือนปีกซ้ายอย่างที่เคยทำเป็นประจำ บางทีการที่เขาร่างกายมิค่อยแข็งแรง ก็อาจจะเป็นเพราะไม่ค่อยได้เดินออกกำลังกาย วัน ๆ เอาแต่อุดอู้อยู่แต่ในเรือนอย่างเดียว หลังจากนี้นางจะต้องเอาใจใส่บุตรชายให้มาก เซี่ยหมิงจะไม่มีวันตายตอนอายุห้าหนาวเหมือนชาติที่แล้ว ลูกนางจะต้องอายุยืนจนแก่เฒ่า

เสวียนหนี่พร้อมกับสาวใช้มุ่งหน้าไปเรือนปีกซ้าย ซึ่งอยู่ห่างจากเรือนใหญ่ไม่มากนัก ระหว่างทางเดินจึงได้เห็นว่าสระที่เคยมีดอกบัวชูช่อเมื่อหลายวันก่อน บัดนี้มันกลายเป็นสนามหญ้าไปตั้งแต่เมื่อใดกัน

“นายท่านสั่งถมสระบัวด้วยตนเองเลยนะเจ้าคะ” เพียงแค่มองตาก็รู้ใจเจ้านายสาว อาหงจึงไม่พลาดที่จะบอกเล่าถึงความเอาใจใส่ของนายท่านที่มีต่อฮูหยิน เพื่อหวังว่าทั้งสองจะกลับมาปรองดองรักใคร่กลมเกลียวกันได้ในสักวัน

“อืม” พ่อของลูกก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องให้ต้องคิดหนัก การเข้าหาเขามิใช่เรื่องง่ายพอ ๆ กับการเข้าหาบุตรชาย ต้องใช้ความพยายามมากขึ้นเป็นสองเท่าเพื่อให้เขาทั้งสองยอมเปิดใจและยอมอภัย ให้นางได้แก้ตัวในสิ่งเลวร้ายที่เคยกระทำในอดีต

อาหงไม่กล้าถามอะไรต่อเมื่อฮูหยินเงียบและมีสีหน้าจริงจัง นางจึงรีบหุบปากให้สนิท ได้แต่เดินตามหลังเจ้านายต้อย ๆ จนกระทั่งมาถึงเรือนฝั่งซ้ายซึ่งเป็นสถานที่อ่านตำราของคุณชายน้อย

สุดท้ายแล้วก็เกิดความสงสัยซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหตุใดฮูหยินถึงไม่เข้าหานายน้อยดี ๆ มาแอบมองอยู่ข้างเสาเรือนไปเพื่ออะไร เดินอีกเพียงไม่กี่ก้าวก็จะถึงตัวคุณชายอยู่แล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel