ตอนที่ 1.เป็นเพราะหัวใจไม่รักดี..
ใบข้าวแค่ยึดมั่นกับคำสัญญา
เธอไม่เคยคิดว่าความจริงที่เพิ่งรู้วันนี้จะตรงกันข้ามกับที่ภามเคยให้สัญญาไว้
หากใบบัวไม่ใช่พี่สาวของเธอ ภามก็คงไม่คิดจะบอกความจริง ใบข้าวทำใจได้สักระยะหนึ่งแล้ว เธอเองก็แอบกังวลกับความสัมพันธ์ที่คลุมเครือไม่ชัดเจนในช่วงสองปีหลัง
แค่คาดไม่ถึงเท่านั้น คนที่ภามเลือก...คือใบบัว พี่สาวของเธอเอง
“พี่บัวเองค่ะป้า” ใบข้าวตอบแล้วก็ทรุดนั่ง
“คุณบัว เธอเรียนจบแล้วเหรอคะ เพิ่งไปได้ไม่กี่ปีเอง”
ใบข้าวส่ายหน้า “ข้าวไม่ได้ถามหรอกค่ะ หากพี่บัวอยากบอกเดี๋ยวเธอก็บอกเอง”
แย้มส่ายศีรษะ กดมุมปากโค้งลง นางไม่ได้ดูแคลนสติปัญญาของบุตรสาวคนโตของบ้านหลังนี้ แต่ตั้งแต่เด็กจนโต สมองของใบบัวสู้ใบข้าวไม่ได้เลย การที่ใบบัวมีอภิสิทธิ์ได้ไปเรียนต่อ ก็เพราะหลังถึงเกณฑ์เข้ามหาวิทยาลัย ใบบัวสอบไม่ติดที่ไหนสักที่ ในขณะที่ใบข้าวสอบติดเกือบทุกมหาวิทยาลัยที่สมัครและสอบทิ้งไว้ ความอับอายนั่น ทำให้ใบบัวเรียกร้องมารดา และบิดาที่รักลูกสาวคนโต มากกว่าบุตรสาวคนเล็กที่ปูมประวัติคลุมเครือ ประมุขของบ้านกัดฟันส่งบุตรสาวคนโตไปเรียนต่างประเทศ และนั่นทำให้เขาต้องสิ้นใจ คงเพราะโหมทำงานหนัก เพื่อสำรองเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายของใบบัว
นิสัยบุตรสาวสองคนของบ้านหลังนี้ แตกต่างเหมือนฟ้ากับเหว ใบบัวใช้จ่ายแบบไม่คิด ชอบอวดรวย แต่กลับไม่ฉลาด ใบข้าวประหยัดอดออม ช่วยบิดา มารดาผ่อนแรงทุกอย่าง ช่วยแบ่งเบางานของแย้มอย่างไม่รังเกียจด้วย ไม่อย่างนั้นแย้มคงตัดสินใจลาออกไปหลังประมุขบ้านฝ่ายชายสิ้นใจไปแล้วนั่นแหละ
ส่งศรีกับใบบัวเหมือนกันเรื่องการใช้เงิน
แถมตอนนี้ส่งศรียังถลำลึกเข้าไปในบ่วงอเวจี ที่ใบข้าวไม่สามารถเตือนได้เสียด้วย หลังสามีสิ้น ทรัพย์สมบัติของเขาถูกทยอยขาย จนแทบไม่เหลืออะไรแล้วตอนนี้
หลายชิ้นถูกปล่อยขายถูกๆ เพราะส่งศรีต้องเร่งส่งค่าใช้จ่ายให้บุตรสาวคนโต รวมทั้งหนี้การพนันที่ตัวเองก่อไว้ด้วย
“คงไม่ได้พาใครกลับมาด้วยใช่ไหมคะ?” ใบข้าวสีหน้าสลดลง
“พี่บัวพาแฟนมาด้วยค่ะ แต่เขากลับบ้านไปแล้ว อีกไม่นานป้าก็คงได้เจอ” เสียงของใบข้าวแหบแห้ง เธออดนึกถึงตอนที่เผชิญหน้ากับภามไม่ได้
วันนี้หลังจากเอาขนมกับน้ำพริกไปส่งตามร้าน ใบข้าวก็รีบกลับมาบ้าน มีงานอีกเยอะที่รอให้ตนเองจัดการ มันเลยทำให้ใบข้าวเร่งปั่นจักรยานให้เร็วขึ้น แต่จู่ๆ....
เอี๊ยดดดดดดดดดดดด...
เสียงห้ามล้อดังสนั่น!! และเพราะความตกใจใบข้าวเลยเกร็งตัว หน้ารถจักรยานของเธอแฉลบเกือบได้ลงไปนอนเล่นในป่าหญ้าข้างทาง โชคดีที่เธอขืนตัวไว้และวางเท้าบนพื้นเพื่อทรงตัวได้ทัน
พอตั้งสติได้ ใบข้าวย่นหัวคิ้ว มองรถยนต์คันใหญ่ที่จอดขวางทางตาขวาง แต่แล้ว...ความขุ่นเคืองก็เปลี่ยนเป็นความยินดี เมื่อประตูรถยนต์ด้านข้างสไลด์เปิด มีบุคคลที่ใบข้าวคิดถึงก้าวลงมาจากจุดนั้น
“พี่บัว!!” ใบข้าวอุทาน เธอถีบขาหย่างและกระโจนเข้าไปหาพี่สาว แต่แล้วใครอีกคนที่ก้าวเท้าตามลงมาก็ทำให้ใบข้าวชะงัก เปลือกตาเธอกะพริบถี่ๆ พยายามเขม่นมองให้มากยิ่งขึ้น แต่ภาพที่เห็นก็ยังเป็นเหมือนเดิม
ใบข้าวกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ
“ยัยข้าวไปไหนมายะ พี่มาถึงตั้งนานแล้ว แต่ไม่กล้าเข้าไป พี่นึกว่าตัวเองมาผิดบ้านเสียอีก” ใบบัวพูดเสียงติดคำตำหนิ
ใบข้าวยิ้มแหยๆ ส่งให้ เธอพยายามไม่มองเลยไปด้านหลัง เพราะตรงจุดนั้น ใครบางคนที่เคยเป็นคนพิเศษสำหรับเธอยืนอยู่ ‘ภาม’ พี่ชายที่เธอรู้สึกพิเศษกับเขา แต่เพราะระยะทางทำให้ความสัมพันธ์ที่เคยแน่นแฟ้นเริ่มขยับห่างกัน
“ข้าวเอาขนมไปส่งมาค่ะ” ใบข้าวตอบเสียงเรียบ เธอโฟกัสสายตาอยู่แค่พี่สาวเท่านั้น
“แม่ละ แต่...ช่างเถอะ มาใกล้ๆ พี่สิ โตเป็นสาวแล้วนี่ เรียนจบหรือยัง ทำงานอะไรหรือเปล่า?” ใบบัวถามเป็นชุดและไม่เว้นจังหวะให้ใบข้าวตอบ “อ้อ...นี่คุณภามแฟนพี่เอง เราสองคนเจอกันที่นั่น ถ้าเขาไม่รีบกลับ พี่คงอยู่ที่นั่นอีกนาน” ใบข้าวไม่รู้ว่าตนเองตอบกลับแบบไหน เธอรู้สึกเหมือนสติเธอหลุดลอยไป กว่าจะรู้สึกก็ตอนที่ใบบัวเขย่าเธอแรงๆ นั่นเอง
“เป็นอะไรยัยข้าว ทำไมหน้าซีดแบบนี้!!”