ตอนที่ 1.เป็นเพราะหัวใจไม่รักดี
ตอนที่ 1.เป็นเพราะหัวใจไม่รักดี
ใบข้าวคิดไม่ตก เธอควรจะวางตัวอย่างไรต่อหน้าพี่สาวถึงดีที่สุด มันเป็นปมที่เธอและภามตั้งใจจะไม่เปิดเผยเรื่องราวแต่หนหลังให้คนอื่นๆ ในครอบครัวรู้ สมัยก่อน...ตอนที่ภามยังไม่ได้ไปเรียนต่างประเทศ สมัยนั้นใบข้าวคือคนรักที่ภามตั้งใจสร้างอนาคตร่วมกัน แต่คงเป็นเพราะรักห่าง ทางไกลทำให้หัวใจใครบางคนเปลี่ยนไป ใบข้าวยังเหมือนเดิม เธอยังมั่นคงกับความรักครั้งเก่า คนที่เปลี่ยนไปคือตัวของภามเอง
การกลับมาของใบบัวครั้งล่าสุด ทำให้ใบข้าวตกใจแทบสิ้นสติ
โชคดีที่เธอตั้งตัวทัน แม้จะซวนเซไปไม่น้อย
“เป็นอะไรยัยข้าว ทำไมหน้าซีดแบบนี้?” ใบบัวถลาเข้าไปประคองน้องสาวที่เพิ่งเจอกันในรอบสามปี
“ปะ เปล่าค่ะพี่บัว ข้าวแค่หน้ามืด” ใบข้าวตอบเสียงแหบ พยามไม่มองสบตาใครเลย เธอก้มหน้าซ่อนแววตาร้าวรานไว้ในอก
“คนที่ควรอ่อนแอน่าจะเป็นพี่นะ ข้าวเสียอีกที่เคยแข็งแรงแท้ๆ ทำไมถึงอ่อนแอได้ละ” ใบบัวบ่นพึมพำ หมดความสนใจใบข้าว เธอหมุนมองไปรอบๆ ตัวบ้านที่เธอเกิดและโตมายังเหมือนเดิม ที่เปลี่ยนไปคือสมาชิกในบ้าน บิดาที่อารีไม่อยู่เสียแล้ว “พี่เสียใจนะ คุณพ่อเสียแท้ๆ แต่พี่กลับมาไม่ได้” ข้ออ้างที่ใบบัวใช้ ลดคำนินทาได้อย่างชะงัด
และคนที่แก้ตัวแทนใบบัวคือมารดาของเธอนั่นเอง ส่งศรีบอกกับบรรดาญาติๆ เรื่องที่ใบบัวเรียนหนัก กำหนดสอบวันเดียวกันกับวันที่ส่งบิดาไปภพภูมิใหม่
ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องที่ส่งศรีพูดนั้นเป็นความจริงหรือไม่ เพราะมีแค่ส่งศรีกับใบบัวเท่านั้นที่รู้ความจริง
ใบข้าวน้ำตาไหลพราก ผู้ชายที่มีจิตใจเอื้ออารีกับเธอจากไปแบบไม่มีวันกลับ หลังจากส่งบิดาไปยังภพภูมิใหม่ ใบข้าวก็เหมือนตัวคนเดียว เธอปากกัดตีนถีบจนแทบหมดแรง
“แม่ละข้าว แม่ไปไหน?” ใบบัวถามเสียงแข็ง
ตั้งแต่เหยียบลงบนแผ่นดินเกิด จนบัดนี้ยังไม่เจอหน้ามารดาเลย
ใบข้าวกระอึกกระอัก ไม่กล้าตอบตามจริง
ส่งศรีเปลี่ยนไปหลังจากสามีตาย จากแม่บ้านที่อยู่แต่บ้าน ทำความสะอาดบ้านรอรับสามี เปลี่ยนแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังเท้า ส่งศรีอยู่ไม่ติดบ้าน ใช้เงินมือเติบ หลังสามีตายไม่ถึงสามเดือนทรัพย์สมบัติที่สามีของนางสะสมไว้ก็ร่อยหรอลงเกือบครึ่ง
“หิวจัง ไปหาอะไรมาให้พี่กินหน่อยสิข้าว?”
ใบบัวไม่ได้สนใจอยากได้คำตอบจริงจัง หลังทรุดนั่งก็สั่งใบข้าวตามความเคยชิน
ใบข้าวยังไม่ทันได้เดินออกไปจากห้องเลย เสียงใบบัวก็ดังตามมาแล้ว “ห้องพี่ได้ทำความสะอาดหรือยังข้าว?”
“ยังเลยค่ะ ข้าวไม่รู้ว่าพี่บัวจะกลับมาวันนี้ค่ะ” ใบข้าวตอบตามจริง เธอไม่รู้กำหนดกลับของพี่สาว คงเพราะยังไม่ได้เจอส่งศรีนั่นเอง
“งั้นพี่ขอใช้ห้องข้าวก่อนแล้วกันนะ พี่เหนียวตัวจะแย่ อากาศที่บ้านเราร้อนกว่าเมื่อหลายปีก่อนเยอะเลย” ใบบัวไม่ชินกับอากาศอบอ้าวนัก เธอใช้ชีวิตที่เมืองหนาวมาเกินสามปี
“ค่ะ” ใบข้าวตอบแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
เธอล้วงโทรศัพท์กดเบอร์ของส่งศรีเพื่อแจ้งข่าวดีให้มารดาทราบ
“นังข้าวแกจะโทรหาฉันทำไมยะ แกควรรู้สิเวลานี้ฉันอยู่ที่ไหน!!” เสียงตวาดดังผ่านโทรศัพท์มา ใบข้าวเบนโทรศัพท์ออกห่างหู เพื่อลดเสียงดังแว๊ดๆ นั่น
“คุณแม่คะ พี่บัวกลับมาแล้วค่ะ”
“อะไรนะ?” ส่งศรีตะเบ็งถามเสียงแหลม
“พี่บัวกลับมาแล้วค่ะ ตอนนี้อยู่ที่บ้าน” ใบข้าวตอบเสียงสุภาพ
“แกล้อฉันเล่นหรือไงนังข้าว!!” ส่งศรีถามเสียงแหลม
“ข้าวไม่ล้อเล่นค่ะ พี่บัวกลับมาแล้วจริงๆ” ใบข้าวย้ำ
“วันนี้วันที่เท่าไหร่หะ?” ส่งศรียังไม่ยอมเชื่อ
“วันที่14ค่ะคุณแม่” ใบข้าวขมวดคิ้ว ฟังเสียงเอะอะที่ดังแทรกมา ก่อนที่สัญญาณจะถูกตัด เธอถอนใจแรงๆ เดินเลยไปที่ครัว
“ใครมาเหรอคะคุณ ยังมีคนคบคุณนายอยู่อีกเหรอคะ?” แย้มถามเสียงเรียบ มือก็สาละวนกับการเตรียมของที่กองอยู่ตรงหน้า งานที่แย้มต้องทำเพราะหากไม่ทำ แม้แต่เงินซื้อข้าวก็ไม่น่ามี
ส่งศรีโยนภาระค่าใช้จ่ายในบ้านให้กับใบข้าว เธอแบกรับไว้ไม่เคยปริปากบ่น ทั้งที่ภาระของใบข้าวก็สาหัสไม่ใช่น้อย นับตั้งแต่ประมุขของบ้านสิ้นชีพ ส่งศรีไม่เคยเจียดเงินค่าใช้จ่ายให้ใบข้าวอีกเลย โชคดีที่ใบข้าวไม่ใช่คนขี้เกียจ เธอหางานพาร์ทไทม์ทำ พร้อมกับเรียนไปด้วย ดังนั้นมันเลยทำให้การติดต่อระหว่างเธอกับภามขาดช่วงไป กว่าใบข้าวจะตั้งตัวได้ ภามก็ขาดหายไปหลายเดือนแล้ว